วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2012
บทเทศน์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต (ปี B)
บทอ่าน : อพย 20:1-17 ; 1 คร 1:22-25 ; ยน 2:13-25
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 473, 575, 583, 584, 586, 994
จุดเน้น เราเป็นวิหารของพระจิตเจ้า
อะไรจะพรากเราจากความรักของพระเจ้า ไม่มี แต่ในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้ เราได้ยินเกี่ยวกับบางสิ่งที่ช่วยเราให้ดำเนินชีวิตที่ดี ตามพระประสงค์ของพระเจ้า คือ พระบัญญัติ 10 ประการ พระบัญญัติ 3 ประการแรก เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์กับพระประสงค์ เกี่ยวกับวิธีการที่เราสัมพันธ์กับพระเจ้า และการนมัสการพระองค์ พระบัญญัติ 7 ประการที่เหลือ บอกเราถึงวิธีทางที่มนุษย์ดำเนินชีวิตขัดกับ
พระประสงค์ของพระเจ้า กล่าวคือ เราประพฤติตนกับผู้อื่น หลายคนอาจถือว่าพระบัญญัติเป็นสามัญสำนึก หากปราศจากพระบัญญัติ 10 ประการ ใครรู้บ้างว่าจะเกิดอะไรในโลกใบนี้
อันที่จริง พระวรสารบอกเราว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อประชาชนหลงลืมพระบัญญัติ หรือประนีประนอมเรื่องการเชื่อฟังพระบัญญัติ พระเยซูเจ้าทรงชำระพระวิหารด้วยการขับไล่พ่อค้า และทรงคว่ำโต๊ะของผู้แลกเงิน พระวิหารเป็นสถานที่ประทับของพระเจ้าท่ามกลางประชาชนชาวยิว พวกเขาสร้างพระวิหารเมื่อพระเจ้าทรงช่วยพาพวกเขาให้พ้นจากการเป็นทาสในอียิปต์ ทรงนำพวกเขาข้ามทะเลแดงและถิ่นทุรกันดาร ในที่สุด พวกเขาเดินทางมาถึงภูเขาซีนัย ซึ่งพระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับพวกเขาโดยอาศัยโมเสส พระเจ้าทรงมอบพระบัญญัติ 10 ประการ การซื่อสัตย์ต่อพระบัญญัติเป็นเครื่องหมายว่า พวกเขาเป็นประชากรของพระเจ้า การถือพระบัญญัตินี้จะช่วยพวกเขาให้ดำเนินชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกับ
พระเจ้า และกับเพื่อนมนุษย์ซึ่งกันและกัน
พระเจ้าทรงให้แนวทางแก่โมเสส สอนประชาชนเรื่องพิธีนมัสการ วิธีสร้างพลับพลา หีบ
พันธสัญญา ศิลาจารึกพระบัญญัติ เป็นเครื่องหมายถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าท่ามกลางประชาชนอิสราเอล ต่อมา ชาวยิวเชิญหีบพันธสัญญาประดิษฐานในวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม หีบพันธสัญญาเป็นรูปแบบและเงาแห่งสักการะสถานของจริงในสวรรค์ (ฮบ 8:5)
พระเยซูเจ้าทรงอ้างถึงพระวิหารว่า เป็นบ้านแห่งการอธิษฐานภาวนาของพระบิดา แต่ถูกกระทำให้เป็นตลาดค้าขาย เราเห็นการชำระพระวิหารหลายระดับ ประการแรก เป็นการแสดงความโกรธที่ชอบธรรม เพราะพระเยซูเจ้าเห็นว่าประชาชนถวายบูชาและภาวนาไม่บริสุทธิ์ ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ประการที่สอง กิจการของพระเยซูเจ้าเป็นเครื่องหมายชัดเจนว่าพระองค์เป็นพระเมสสิยาห์ ประกาศกมาลาคีได้ทำนายถึงพระองค์ว่า พระเจ้าเองจะเสด็จมายังพระวิหาร เพื่อชำระบุตรหลานเลวีให้บริสุทธิ์ จะถลุงเหมือนถลุงทองคำ เพื่อพวกเขาจะถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าด้วยความชอบธรรม (เทียบ มาลาคี 3:1-4)
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชาวยิวต้องการพิสูจน์ว่าพระเยซูเจ้ามีอำนาจพระเจ้า จึงทำเช่นนี้ได้ จึงเรียกร้องขอเครื่องหมายจากพระเจ้าว่า พระเยซูเจ้ามีอำนาจ มิฉะนั้น พวกเขาจะเพิกเฉยพระองค์ และจะปฏิบัติกับพระองค์ว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบ ผู้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า พระเยซูเจ้าทรงตอบพวกเขาว่า เครื่องหมายที่พระเจ้าจะประทานให้ คือ การกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “จงทำลายพระวิหารนี้ แล้วเราจะสร้างขึ้นใหม่ภายในสามวัน” ชาวยิวหลายคนไม่เข้าใจว่าพระวิหารที่พระเยซูเจ้าตรัสถึงนั้นคือร่างกายของพระองค์เอง
พระเยซูเจ้าทรงชำระพระวิหาร ยังเตือนใจเราแต่ละคนให้ชำระจิตใจของตนให้สะอาด เราต้องขอพระเยซูเจ้าช่วยชำระเราให้พ้นบาป และทำให้เราเป็นพระวิหารของพระจิตเจ้าที่มีชีวิตชีวา (เทียบ 1 คร 6:19) ให้เราภาวนาขอพระเยซูเจ้าช่วยเปิดสติปัญญา และชำระจิตใจให้สะอาด เพื่อเราสามารถถวายบูชานมัสการอย่างเหมาะสม และเป็นที่ประทับที่เหมาะสมสำหรับพระองค์ บัดนี้และตลอดไป
พระสังฆราชวีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
(มกราคม – มีนาคม 2012 Vol. 45 No. 1), หน้า 116-118.