วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ 2016
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต 

ยรม 18:18-20…..
18บัดนี้ เขาทั้งหลายพูดว่า “มาเถิด เราจงวางแผนปองร้ายประกาศกเยเรมีย์ เพราะว่าธรรมบัญญัติจะไม่สูญหายไปจากบรรดาสมณะ คำปรึกษาย่อมไม่ขาดไปจากบรรดาผู้มีปรีชา และการประกาศพระวาจาไม่ขาดไปจากบรรดาประกาศก มาเถิด เราจงพูดใส่ร้ายเขา อย่าไปสนใจฟังคำพูดของเขาเลย”

19ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงสนพระทัยข้าพเจ้า
โปรดทรงฟังเสียงคู่อริของข้าพเจ้าเถิด
20ความชั่วเป็นการตอบแทนความดีหรือ
เขากำลังขุดหลุมไว้ดักข้าพเจ้า
โปรดทรงระลึกว่าข้าพเจ้าเคยยืนเฉพาะพระพักตร์
เพื่อทูลขอความดีให้เขา
เพื่อหันพระพิโรธของพระองค์ไปจากเขา

------------------------
อรรถาธิบาย
• “โลกของเราช่างไม่ยุติธรรม เหนื่อยกับการเป็นคนดี ทำดีกลับไม่ได้ดีเอาเสียเลย... อยากเลิก อยากทิ้งความดี ความจริง และทำเหมือนคนอื่นๆที่เขาทำไม่ดีแล้วก็ได้ดี ดูดี ดูหรู ดูได้รับเกียรติ (จอมปลอมแต่มันก็ดูเด่นและดี)....”

• วันนี้เราได้อ่านส่วนเล็กๆของประกาศกเยเรมีย์ น่าสนใจเหลือเกิน....“เยเรมีย์ ประกาศกผู้ทุกข์ระทม...” เยเรมียาห์ Jeremiah แปลว่า “พระยาห์เวห์ทรงก่อตั้งขึ้น” ประกาศกเยเรมีย์ถูกเรียกมาเพื่อให้ชีวิตของท่าน ความทุกข์ระทมของท่าน การถูกเบียดเบียนและเกลียดชังของท่าน ซึ่งเป็นประสบการณ์ภายใน ประสบการณ์ชีวิตภายในของท่านที่มีทั้งวิกฤตและความขัดแย้งจนเรียกว่าเป็น “วิกฤตของความเชื่อเมื่อท่านต้องปฏิบัติพันธกิจของพระยาห์เวห์” เมื่อท่านต้องไปปฏิบัติพันธกิจแห่งความจริงของพระเจ้าต่อประชากรของพระองค์... (Crisis of Faith from His mission)

• การถูกเบียดเบียนอย่างแรง จนประกาศกเยเรมีย์เองก็เคยตัดพ้อพระเจ้าไว้อย่างน่าฟังจริงๆ “แม้ข้าพเจ้าจะพูดว่า “ข้าพเจ้าจะไม่คิดถึงพระองค์ และจะไม่พูดในพระนามของพระองค์อีก” แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีไฟเผาอยู่ในใจ อัดอยู่ในกระดูกของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพยายามควบคุมไฟนี้ไว้จนอ่อนเปลี้ยแต่ก็ควบคุมไว้ไม่ไหว” (ยรม 20:9) ท่านประกาศกเคยเหนื่อยและตัดพ้อพระเจ้าแบบนี้ อยากทิ้งแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่อยากพูดถึงพระองค์ แต่ก็นะ....มันกลับเหมือนมีไฟเผาอยู่ในใจ อัดอยู่ในกระดู... โห โห โห แรงจริงๆ....

• พ่ออยากให้เราดูสังคมของเราปัจจุบัน... ดูสังคม ดูการเมือง ดูนักการเมืองในอดีตที่ผ่านมา และกำลังจะดำเนินต่อไปในทุกๆระดับ ท้องถิ่น ฯลฯ คนดีอยู่ยาก... พี่น้องว่าจริงๆไหม...

• ทุกๆวันในสังคมของเรา บ่อยครั้งมีคนไทยที่เป็นผู้นำการต่อต้านความเพื่อความยุติธรรมในทางสันติ ความดี ผู้นำต่อต้านนักแสวงหาทางธุรกิจหรือการเมือง โดนยิงตายไปเป็นประจำ เรียกว่าถ้าไม่พอใจไม่ได้อย่างใจหรือขวางผลประโยชน์ทางการเมือง เศรษฐกิจ ก็ “เก็บ” กี่รายแล้ว ที่ต้อง “ตาย” สังเวยความอยาก สังเวยความโลภไม่รู้จบทางการเงิน ทางอำนาจปกครอง การเลือกตั้งบ้านเราทั้งระดับใหญ่ กลางเล็ก ท้องถิ่น “แรง” ตลอดกาล และมีการสังเวย มีการฆ่า... เก็บ เก็บ เก็บ จบ จบ จบ เป็นข่าวดังสักพักแล้วก็จบ จบ ได้อย่างไม่มีปัญหา นักการเมือง นักลงทุน จำนวนมากหรือมากที่สุดก็หลงไปกับอำนาจเทียม การระทำที่เอาเปรียบ ละเมิดความจริงและความดีส่วนรวม จนหนคนที่ดีจริงๆได้อยากนอกจากภาพที่สร้างให้ดูดี

• กลุ่มคนที่มีความร่ำรวย มีอำนาจในการปกครอง (ที่ได้อำนาจมาด้วยเงิน... ด้วยการซื้อ...) คนที่น่าจะดีกว่าคนอื่นเพราะมีโอกาสดีกว่าคนอื่น... แต่กลับอยุติธรรมและทำลายล้างทุกสิ่ง ทุกคนที่ขวางทางอำนจ ประเภทที่เรียกว่า “ขัดผลประโยชน์” พ่อคิดว่า ประวัติศาสตร์ของประเทศเรามีนับร้อยๆ นับพันๆที่ต้องตายไปเพราะการเบียดเบียนอย่างอยุติธรรม พลังแห่งความดี แสงสว่างที่ริบหรี่เป็นความหวัง ก็ถูกดับเสียให้จบไป

• พ่อคิดว่า เรื่องที่พ่อเล่ามานี้เป็นความจริงของประเทศเราครับ อาจมีที่เป็นข่าวนะครับ มีเยอะมาก แต่มีอีกมากๆที่ไม่เป็นข่าว หรือ... ปิดข่าวด้วยเงินอีกเท่าไรหนอ... ข่าวก็ซื้อได้ขายได้อีกครับ ถ้าไม่ได้ประโยชน์ ซื้อขายไม่ได้ ก็ไม่ได้เป็นข่าวดีแหละครับ... สื่อดีๆ ถ้าไม่ซื้อเวลาก็ไม่มีทางครับ

o เฮ้อภาษาไทย “สื่อ” กับ “ซื้อ” ดั้นมาสะกดและออกเสียงใกล้กันจนแยกจากกันไม่ได้เลย ถ้าฝรั่งออกเสียงละก็แยกไม่ออกเลยจริงๆ นะครับ... ภาษานะภาษา... สื่อเลยแยกไม่ค่อยออกกับซื้อเพราะทุกอย่างก็ต้องมีค่าแรงค่าสื่อซื้อได้จนว่าหาซื่อๆได้อยาก เอ้าครับคำว่า “ซื่อ” ก็ดันสะกดและออกเสียงใกล้กันเข้าไปอีก...ดูสิครับ “สื่อ ซื้อ ซื่อ” ทีนี้งงจนเล่นเอา “เซ่อ” ไปเลยครับ....

• ทำไมพ่อเขียนสิ่งเหล่านี้ พี่น้องที่รักครับ.... พ่อคิดว่า ประสบการณ์ของประกาศกเยเรมีย์ที่เราอ่านวันนี้ทำให้พ่อต้องคิดจริงๆครับ ท่านประกาศกประกาศความดี ประกาศความยุติธรรม ประกาศความรักและความเมตตาของพระเจ้า “ความจริง ความดี ความซื่อสัตย์ ความรัก” เรียกว่าดีๆ ทั้งนั้นเลยครับ

• ประกาศให้ประชากรของพระเจ้าแท้ๆให้ต้องซื่อสัตย์ ซื่อตรง กลับใจ และจริงใจ ทั้งหมดเพื่อประชากรของพระเจ้าทั้งนั้นเลยนะครับ...
o แต่ท่านประกาศกก็กลับถูกต่อต้านอย่างมากจาก “กระแสสังคม กระแสอำนาจ” จนท่านเองแทบเอาตัวไม่รอดเลยนะครับ โดนกระหน่ำจนแทบตายจนคนคิดว่าตายแล้วก็เคย....
o คนรอบข้างท่านไม่อยากฟัง “ความจริง” เพราะเขามีความสุขกับความเท็จ เรียกว่า enjoy มีความสุข สนุก และหลงใหลไปกับความเท็จของกระแส จนไม่เพียงเท่านั้น ท่านประกาศกมาประกาศความจริง แต่พวกเขาคิดทำลายสื่อดีสารดีจากประกาศกหรือจากพระเจ้าเลยครับ... พวกเขากล่าวเสียดูดีและดูถูกต้องดูมีหลักการเหลือเกิน... ดูว่า สิ่งที่ทำคือความถูกต้อง... กล่าวว่า “มาเถิด เราจงวางแผนปองร้ายประกาศกเยเรมีย์ เพราะว่าธรรมบัญญัติจะไม่สูญหายไปจากบรรดาสมณะ คำปรึกษาย่อมไม่ขาดไปจากบรรดาผู้มีปรีชา และการประกาศพระวาจาไม่ขาดไปจากบรรดาประกาศก มาเถิด เราจงพูดใส่ร้ายเขา อย่าไปสนใจฟังคำพูดของเขาเลย”
o ดูเหมือนว่า ธรรมบัญญัติและสมณะและผู้มีปรีชา อีกทั้งการประกาศพระวาจา... ซึ่งกระทำกันอย่างอย่างเท็จเทียม หลอกลวงโดยหล่อหลอมให้ดูดีมีเกียรติ มีหน้ามีตา และดูเป็นความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า...
o โห โห โห สุดๆ ครับ เพราะอำนาจ ศาสนา และบุคลากรทั้งสมณะและผู้มีปรีชาด้วย... เรียกว่า แย่มาก หลอกลวงได้แยบยลและดูดีมีแต่ผลประโยชน์ รวมตัวกันจัดการอย่างเป็นทางการ “มาเถิดกำจัดเยเรมีย์กัน” ว่าอย่างนั้นเถิด...
o ดูแรงนะครับ... แรงมาก.. และที่สำคัญ ดูเป็นการทำความดี... ทั้งๆที่ไม่ดีและชั่วร้าย และกระทำการชั่วร้ายแบบนี้กันอย่างมีระดับพ่อจะเรียกว่าอย่างไรดี เอาสร้างสำนวนหน่อยวันนี้ “กิจากรไฮโซแต่ใจแสนจะโลว์” (ภาษาไม่ถูกหรอกครับแต่รู้สึกชัดเจนดี) ชั่วร้ายแบบดีสง่างามและดูดีจนน่านับถือ..

พี่น้องที่รักครับ... สังคม เราต้องการความจริง ต้องการประกาศกครับ... แม้ยากเหลือเกิน เราต้องการเยเรมีย์... “พระยาห์เวห์ทรงก่อสร้าง” ขึ้นใหม่ครับ... สังคมไทย สังคมโลกต้องการที่สำหรับพระเจ้าเพื่อสร้างสรรค์ความดี ความยุติธรรมและความรักขึ้นใหม่ครับ ต้องการการประกาศพระวรสารหรือข่าวดีแห่งความรักและความจริงในรูปแบบที่เหมาะกับสังคมโลกปัจจุบันจริง....

พ่อจำได้ว่า... “พระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์” ในสมัยของพระองค์ ในฐานะพระสันตะปาปาและประกาศกของโลก พระองค์ได้ให้พินัยกรรมคำสอนงดงามเหลือเกินครับ สรุปเป็นคำสอนเพื่อฟื้นฟูหลายประเด็นที่น่ารักจริงๆ

• “พระเจ้าเป็นความรัก” Deus Caritas Est

• “ความวังแห่งความรอด” Spe Salvi

• “ความรักในความจริง” Caritas in Veritate

• และพระองค์ทรงเรียกประกาศให้ “เปิดประตูแห่งความเชื่อ” Porta Fidei เพื่อ “ฟื้นฟูการประกาศพระวรสารในรูปแบบใหม่” (New Evangelization)

           พระสันตะปาปาฟรังซิสก็สานต่อคำสอนต่อมาด้วยการลงมือกระทำให้ชัดเจน เรียกร้องให้ต้องมีความยินดีใหม่แห่งพระวรสาร เรียกร้องความรัก ความเมตตา พระองค์ประกาศปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษแห่งเมตตาธรรม พระสันตะปาปาทรงเป็นดังประกาศกเยเรมีย์ในยุคใหม่ ที่ประกาศสุดกำลัง เรียกร้องให้มีประกาศกเพื่อประกาศข่าวดี เพื่อนำคริสตชนและโลกให้เดินผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมจริงๆ ในปี 2015 ให้พระศาสนจักรก้าวเดินสู่ความเชื่อ คือ สู่ความจริง สู่พระคริสตเจ้า สู่พระพักตร์แห่งความเมตตาของพระบิดาเจ้า คือ พระเยซูคริสตเจ้า

               พ่อสรุปว่า โลกปัจจุบัน ไม่ต่างจากสมัยประกาศเยเรมีย์ ต่างกันก็ตรงที่ว่าหนักหน่วงกว่า ต้องการกำลังการ “สร้างขึ้นใหม่” ในจิตใจ ในมโนธรรม ในความรักและในความจริงแห่งความเมตตานะครับ...

              เท่านี้นะครับ อ่านพระคัมภีร์ อ่านเยเรมีย์ และจะพบความเข้าใจสิ่งที่พ่อเขียนมาในประสบการณ์ของเราในปัจจุบัน แต่มั่นใจได้ว่า เราจะอดไม่ได้ที่จะรักความดี ครับความจริง และอาลัยสังคมที่หลงทางและอยากภาวนา อยากประกาศ อยากเป็นคริสตชน อยากรักพระเจ้า และอยากประกาศข่าวดีด้วยชีวิตมากขึ้นแน่นอนครับ.... คนอย่างพวกเราที่มีความเชื่อถ้าคิดจะทิ้งความดีไปเอากับเขาด้วยในความไม่ดีเราทำไม่ได้หรอกครับ... “ข้าพเจ้าจะไม่คิดถึงพระองค์ และจะไม่พูดในพระนามของพระองค์อีก” แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีไฟเผาอยู่ในใจ อัดอยู่ในกระดูกของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพยายามควบคุมไฟนี้ไว้จนอ่อนเปลี้ยแต่ก็ควบคุมไว้ไม่ไหว” พระเจ้าอวยพรครับ