“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

13 1“ข้าพเจ้าได้เห็นสิ่งทั้งหมดนี้กับตา

                    ข้าพเจ้าได้ยินกับหูและเข้าใจ

          2สิ่งที่ท่านทั้งหลายรู้ ข้าพเจ้าก็รู้ด้วย

                    ข้าพเจ้าไม่ด้อยกว่าท่านเลย

          3แต่ข้าพเจ้าต้องการทูลพระผู้ทรงสรรพานุภาพ

                    และต้องการโต้เถียงกับพระเจ้า

          4แต่ท่านกล่าวมุสาให้ดูเหมือนเป็นความจริง

                    ท่านทุกคนเป็นเหมือนแพทย์ที่ใช้ไม่ได้

          5ถ้าท่านเงียบ ก็จะดีกว่า

                    ความเงียบจะทำให้ท่านดูเหมือนเป็นผู้มีปรีชา

          6บัดนี้ จงฟังเหตุผลของข้าพเจ้าเถิด

                    จงตั้งใจฟังคำแก้คดีaของข้าพเจ้า

          7ท่านกล่าวเท็จเพื่อป้องกันพระเจ้า

                    และพูดหลอกลวงเพื่อพระองค์กระนั้นหรือ

          8ท่านต้องการเข้าข้างพระองค์

                    ทำตนเป็นผู้ปกป้องพระเจ้าหรือ

          9ถ้าพระเจ้าทรงสอบสวนท่าน ก็คงจะดีกว่า

                    ท่านคิดจะหลอกลวงพระองค์ได้ดังที่ท่านหลอกลวงมนุษย์หรือ

10พระองค์คงจะทรงตำหนิท่านอย่างแน่นอน

ถ้าท่านมีความลำเอียงอยู่ในใจ

11ความยิ่งใหญ่ของพระองค์จะทำให้ท่านต้องกลัว

ความครั่นคร้ามต่อพระองค์จะตกเหนือท่าน

12คำตักเตือนของท่านเป็นเหมือนคำพังเพย ไร้ค่าเหมือนขี้เถ้า

หลักฐานป้องกันตัวของท่านก็อ่อนเหมือนดินเหนียว

13จงเงียบเถิด ปล่อยให้ข้าพเจ้าพูด

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับข้าพเจ้า

14ข้าพเจ้าพร้อมจะตาย

ข้าพเจ้ายอมเสี่ยงชีวิตของข้าพเจ้าb

15พระองค์จะทรงฆ่าข้าพเจ้าเสียก็ได้

ข้าพเจ้าไม่มีความหวังอีกแล้ว

แต่ข้าพเจ้าก็ยังต้องการปกป้องการกระทำของตน

เฉพาะพระพักตร์พระองค์c

16วิธีการเช่นนี้จะช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น

เพราะผู้ไม่ยำเกรงพระเจ้าคงจะไม่กล้ามาปรากฏตัวเฉพาะพระพักตร์

17จงตั้งใจฟังถ้อยคำของข้าพเจ้า

จงให้คำพูดของข้าพเจ้าอยู่ในหูของท่านเถิด

18ข้าพเจ้าเตรียมคำให้การไว้พร้อมแล้วd

ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าจะไม่มีความผิด

19ถ้าผู้ใดพิสูจน์ได้ว่าข้าพเจ้ามีความผิดe

ข้าพเจ้าก็จะเงียบและยอมตาย

20‘ข้าแต่พระเจ้า โปรดประทานเพียงสองสิ่งเท่านั้นแก่ข้าพเจ้าf

แล้วข้าพเจ้าจะไม่ซ่อนตัวให้พ้นจากพระพักตร์พระองค์

21โปรดทรงถอนพระหัตถ์ไปจากข้าพเจ้า

และอย่าให้ข้าพเจ้าต้องครั่นคร้ามพระองค์

22แล้วพระองค์จะทรงเรียกข้าพเจ้าก็ได้ ข้าพเจ้าจะทูลตอบ

หรือให้ข้าพเจ้าถาม และพระองค์จะทรงตอบ

23ข้าพเจ้ามีความผิดหรือบาปมากเท่าใด

โปรดทรงบอกให้ข้าพเจ้ารู้การละเมิดและบาปที่ได้ทำเถิด

24ทำไมพระองค์จึงทรงซ่อนพระพักตร์g

และทรงคิดว่าข้าพเจ้าเป็นศัตรูของพระองค์เล่า

25พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าตกใจกลัวเหมือนใบไม้ที่ถูกลมพัด

ทรงไล่ตามข้าพเจ้าเหมือนฟางแห้งที่ปลิวไปตามลมกระนั้นหรือ

26เพราะพระองค์ทรงลงโทษข้าพเจ้าอย่างรุนแรง

ทรงให้ข้าพเจ้าต้องรับโทษเพราะความผิดในวัยเยาว์

27พระองค์ทรงใส่เท้าของข้าพเจ้าไว้ในขื่อ

ทรงเฝ้าดูก้าวเดินทั้งหมดของข้าพเจ้า

และทรงกำหนดรอยเท้าของข้าพเจ้า’”

28“ข้าพเจ้าhทรุดโทรมไปเหมือนไม้ผุ

เหมือนเสื้อผ้าที่แมงกิน”

 

13 a “คำแก้คดี” โยบกลับมาใช้ภาษาของการพิจารณาคดีในศาลอีก (ดู ข้อ 18 และ 9:14 เชิงอรรถ g) เขาตั้งตนเป็นทนายฝ่ายโจทก์ที่ซักถามพระเจ้าเหมือนกับว่าพระองค์ทรงเป็นพยานฝ่ายจำเลย ไม่ยอมให้ผู้มีปรีชาเป็นทนายป้องกันคดีของตนเอง

b “ข้าพเจ้าพร้อมจะตาย ข้าพเจ้ายอมเสี่ยงชีวิตของข้าพเจ้า” แปลตามตัวอักษรว่า “ข้าพเจ้าใช้ฟันคาบเนื้อของข้าพเจ้าไว้ ข้าพเจ้าถือชีวิตไว้ในมือข้าพเจ้า” ซึ่งเป็นสำนวนพูดภาษาฮีบรู เราจะพบวลี “ข้าพเจ้าถือชีวิตไว้ในมือข้าพเจ้า” (ซึ่งหมายความว่า “ข้าพเจ้ายอมเสี่ยงชีวิตของข้าพเจ้า”) ได้อีกใน วนฉ 12:3; 1 ซมอ 19:5; 28:21

c โยบสู้คดีไม่ใช่เพื่อจะได้กลับมีความสุขเหมือนเดิม แต่เพื่อพิสูจน์ว่าตนไม่มีผิดต่อหน้ามนุษย์ และยิ่งกว่านั้นเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า

d “ข้าพเจ้าเตรียมคำให้การไว้พร้อมแล้ว” โยบคิดว่าเขากำลังมีคดีความกับพระเจ้า แต่เขาลืมไปว่าเขาไม่มีผู้พิพากษาคนใดที่ไม่อยู่ใต้อำนาจของพระเจ้า (9:32-33) เขาไม่คิดว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษา แต่ทรงเป็นคู่ความของตน

e “ถ้าผู้ใดพิสูจน์ได้ว่าข้าพเจ้ามีความผิด” โยบหันมาสู้คดีที่พระเจ้า (อสย 1:18; ฮชย 2:4; มคา 6:1-2) และผู้รับใช้ของพระองค์ (อสย 50:8) เคยมีกับประชากร(อิสราเอล)ของพระองค์มาแล้ว ข้อความในบรรทัดต่อไป “ข้าพเจ้าก็จะเงียบและยอมตาย” อาจเป็นสูตรอีกแบบหนึ่งในการสู้คดี ฝ่ายโจทก์พร้อมที่จะพิสูจน์ว่าคู่ความของตนมีความผิด และพร้อมที่จะรับผลจากคำพิพากษา โยบก็มีความมั่นใจเช่นนี้ด้วย

f “สองสิ่ง” ที่โยบขอ สิ่งแรกคือการเผชิญหน้ากับพระเจ้าในฐานะคู่ความ เพื่อจะได้รับอิสรภาพ สิ่งที่สองคือขอให้ตนเป็นผู้เริ่มโต้คดี

g พระเจ้า “ทรงซ่อนพระพักตร์” เมื่อทรงเลิกแสดงพระกรุณาให้เป็นที่ประจักษ์

h “ข้าพเจ้า” ที่นี่ก็คือ “มนุษย์” ในข้อถัดไป (14:1) นักวิชาการบางคนเสนอให้อ่านข้อ 28 นี้หลังข้อ 14:2 หรือ 14:6

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก