“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

คำตอบสุดท้ายของโยบ

42 1โยบจึงทูลตอบพระยาห์เวห์ว่า

          2“ข้าพเจ้าเข้าใจว่าพระองค์ทรงกระทำได้ทุกสิ่ง

ไม่มีผู้ใดขัดขวางพระประสงค์ของพระองค์ได้

3พระองค์เคยตรัสถามว่าa ‘ผู้นี้เป็นใครที่ใช้ถ้อยคำไร้ความรู้

ทำให้แผนการของเรามืดไป’

ข้าพเจ้าจึงพูดถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ

และเป็นสิ่งน่าพิศวงเกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะรู้ได้

4ข้าพเจ้าเคยพูดว่าb ‘ขอพระองค์ทรงฟังข้าพเจ้าเถิด’

และข้าพเจ้าจะถามพระองค์

แล้วพระองค์จะทรงสอนข้าพเจ้า

5ข้าพเจ้าเคยรู้จักพระองค์เพียงจากคำพูดของผู้อื่น

แต่บัดนี้ดวงตาของข้าพเจ้าแลเห็นพระองค์c

6ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอถอนคำพูด

และเป็นทุกข์เสียใจโปรยฝุ่นดินและขี้เถ้าบนศีรษะ”d

V. บทสรุป

 

พระยาห์เวห์ทรงตำหนิเพื่อนทั้งสามคนของโยบ

                7เมื่อพระยาห์เวห์ตรัสพระวาจาเหล่านี้แก่โยบแล้ว พระองค์ตรัสกับเอลีฟัสชาวเทมานว่า “ความโกรธของเราพลุ่งขึ้นต่อท่าน และต่อเพื่อนทั้งสองคนของท่าน เพราะท่านทั้งหลายไม่ได้พูดถึงเราอย่างถูกต้อง ต่างจากโยบผู้รับใช้ของเรา 8จงนำโคเพศผู้เจ็ดตัวและแกะเพศผู้เจ็ดตัวไปพบโยบผู้รับใช้ของเรา และถวายสัตว์เหล่านี้เป็นเครื่องเผาบูชาสำหรับตน โยบผู้รับใช้ของเราจะอธิษฐานภาวนาแทนท่าน เพื่อเราจะไม่ลงโทษท่านตามความโง่ของท่านเพราะเห็นแก่เขาe ท่านทั้งหลายไม่ได้พูดถึงเราอย่างถูกต้อง ต่างจากโยบผู้รับใช้ของเรา” 9เอลีฟัสชาวเทมาน บิลดัดชาวชูคาห์ และโศฟาร์ชาวนาอามัทจึงไปทำตามที่พระยาห์เวห์ทรงสั่ง และพระยาห์เวห์ทรงพระกรุณารับคำอธิษฐานภาวนาของโยบ

พระยาห์เวห์ทรงคืนสภาพเดิมให้โยบ

10เมื่อโยบอธิษฐานภาวนาสำหรับเพื่อนแล้ว พระยาห์เวห์ทรงคืนสภาพเดิมให้โยบ ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงเพิ่มสิ่งที่โยบเคยมีให้มากเป็นสองเท่า 11พี่น้องชายหญิงและผู้ที่เคยรู้จักเขาแต่ก่อนมาพบเขา กินอาหารที่บ้านของเขา แสดงความเห็นใจและให้กำลังใจเขาที่ต้องได้รับเหตุร้ายต่างๆ ที่พระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้เกิดขึ้น แต่ละคนให้เงินจำนวนหนึ่งf กับแหวนทองคำวงหนึ่ง 12พระเจ้าทรงอวยพระพรชีวิตใหม่ของโยบมากกว่าชีวิตเดิม เขามีแกะหนึ่งหมื่นสี่พันตัว อูฐหกพันตัว โคเพศผู้หนึ่งพันคู่ และลาเพศเมียหนึ่งพันตัว 13เขามีบุตรชายเจ็ดคน และบุตรหญิงสามคน 14เขาเรียกชื่อบุตรหญิงคนแรกว่า “เยมีมาห์” คนที่สองว่า “เคสิยาห์” และคนที่สามว่า “เคเรนหัปปุค”g 15ทั่วแผ่นดินไม่มีหญิงใดงดงามเท่ากับบุตรหญิงของโยบ บิดาให้เธอมีสิทธิรับมรดกเหมือนกับพี่ชายและน้องชายของเธอh

          16โยบยังมีชีวิตอยู่ต่อมาอีกหนึ่งร้อยสี่สิบปี ได้เห็นบุตร หลาน เหลน ถึงสี่ชั่วอายุ 17แล้วโยบก็สิ้นชีวิตในวัยชราอันยาวนานและผาสุกi

 

42 a “พระองค์เคยตรัสถามว่า...” เป็นข้อความที่เราเสริมเข้ามาเพื่อความชัดเจนของคำถามที่โยบถามตนเองโดยใช้ถ้อยคำที่พระยาห์เวห์เคยตรัสใน 38:2

b “ข้าพเจ้าเคยพูดว่า” วลีนี้ถูกเสริมโดยคาดคะเน เพื่อเข้าใจว่าใครเป็นผู้พูดข้อความในข้อ 4 นี้ บางคนคิดว่าข้อนี้เป็นข้อความที่ผู้คัดลอกเสริมเข้ามา

c “ตาของข้าพเจ้าแลเห็นพระองค์” ข้อความนี้มิได้หมายความว่าโยบได้เห็นพระเจ้าในนิมิต (ดู อพย 33:20 เชิงอรรถ i) แต่หมายความว่าโยบเพิ่งจะเข้าใจถึงพระธรรมชาติแท้จริงของพระเจ้า ก่อนหน้านั้น ความเข้าใจของโยบถึงพระเจ้าเป็นเพียงความรู้ที่เขาได้รับสั่งสอนต่อๆ กันมา แต่บัดนี้เขามีประสบการณ์เกี่ยวกับความลึกลับของพระเจ้าโดยตรง และยอมรับพระอานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ ปัญหาของเขาไม่ได้รับคำตอบจากพระเจ้า แต่เขาได้มาเข้าใจว่ามนุษย์เราไม่อาจเรียกพระเจ้ามาอธิบายให้เรารู้เหตุผลการกระทำของพระองค์ได้ และยังรู้ด้วยว่าพระปรีชาญาณของพระองค์อาจให้ความหมายที่คาดไม่ถึงสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นความทุกข์ทรมานและความตายของมนุษย์

d การโปรยฝุ่นดินและขี้เถ้าบนศีรษะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเพื่อแสดงความทุกข์และเสียใจที่ได้ทำผิด (ดู 2:8)

e “ไม่ลงโทษท่าน...เพราะเห็นแก่เขา” โยบเป็นคนกลางที่วอนขอพระเจ้าแทนผู้ทำผิด เช่นเดียวกับอับราฮัม (ปฐก 18:22-32; 20:7) โมเสส (อพย 32:11 เชิงอรรถ e) ซามูเอล (1 ซมอ 7:5; 12:19; 2 มคบ 15:14) เยเรมีย์ (ยรม 11:14; ดู อสค 14:14,20) ความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสของโยบทำให้คำอธิษฐานภาวนาของเขามีพลังวอนขอพระเจ้า เบื้องหลังข้อความนี้ เราแลเห็นภาพลางๆ ของ “ผู้รับใช้พระยาห์เวห์” (ดู อสย 53:12) ซึ่งรับความทุกข์ทรมานเป็นการชดเชยความผิดสำหรับผู้อื่น

f “เงินจำนวนหนึ่ง” ภาษาฮีบรูว่า “qesitah” เป็นมาตราเงินในสมัยโบราณ ซึ่งเราไม่รู้ว่ามีค่าเท่าใดแน่

g “บุตรชายเจ็ดคน” (ในข้อ 13) สำนวนแปลโบราณภาษาอาราเมอิก (Targum) ว่า “บุตรชายสิบสี่คน” ชื่อของบุตรหญิงทั้งสามคนของโยบมีความหมายเกี่ยวกับความงดงามของสตรี “เยมีมาห์” แปลว่า “นกเขา” “เคสิยาห์” แปลว่า “อบเชย” หรือ “น้ำมันหอม” ส่วน “เคเรนหัปปุค” แปลว่า “กระปุกเครื่องสำอาง” สำหรับเสริมความงามของใบหน้า

h “บิดาให้เธอมีสิทธิรับมรดกเหมือนกับพี่ชายและน้องชายของเธอ” โดยปกติแล้ว บุตรหญิงจะได้รับมรดกก็ต่อเมื่อผู้ตายไม่มีบุตรชายเท่านั้น (ดู กดว 27:1-11) โยบจะต้องร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติมากเป็นพิเศษ จึงมีสมบัติพอที่จะแบ่งให้บุตรหญิงด้วย

i ต้นฉบับภาษากรีกยังมีข้อความเพิ่มเติมอีก 2 ตอน ตอนแรกแสดงให้เห็นว่าคำสอนเรื่องการกลับคืนชีพมีซ่อนอยู่แล้วในหนังสือโยบ ราวศตวรรษที่ 2 ก่อน ค.ศ. มีข้อความเขียนว่า “เขาจะกลับคืนชีพอีกพร้อมกับผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงบันดาลให้กลับคืนชีพ” ตอนที่สองบอกว่า โยบอาศัยอยู่ในแผ่นดินของเอาซีติส ตามชายแดนของแคว้นเอโดมและอาราเบีย ข้อความนี้กล่าวว่าเอาซีติสเป็นคนเดียวกับโฮบับ กษัตริย์ของชาวเอโดม (ปฐก 36:33)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก