อิสราเอลจะถูกลงโทษa
50 1พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า
“หนังสือหย่าของเราจากมารดาของท่านทั้งหลาย
ที่แสดงว่าเราได้ขับไล่นางไปนั้นอยู่ที่ใด
ใครเป็นเจ้าหนี้ของเราจนเราต้องขายbท่านทั้งหลายเพื่อใช้หนี้
ตรงกันข้าม ท่านทั้งหลายถูกขายเพราะความอธรรมของท่าน
มารดาของท่านถูกขับไล่ไปเพราะการล่วงละเมิดของท่าน
2ทำไมเมื่อเรามาจึงไม่มีใครอยู่
เมื่อเราเรียกจึงไม่มีใครตอบ
มือของเราสั้นจนไถ่กู้ท่านไม่ได้
เราไม่มีกำลังที่จะปลดปล่อยท่านดอกหรือ
ดูซิ เราให้ทะเลแห้งไปด้วยคำขู่ของเรา
ทำให้แม่น้ำกลายเป็นถิ่นทุรกันดาร
ปลาในแม่น้ำเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำ
ตายเพราะกระหายน้ำ
3เรานำความมืดมาห่มท้องฟ้า
นำผ้ากระสอบcมาคลุมไว้”
เพลงบทที่สามของผู้รับใช้พระยาห์เวห์d
4พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ข้าพเจ้ามีลิ้น
เหมือนลิ้นของศิษย์ที่พระองค์ทรงสอน
เพื่อข้าพเจ้าจะได้รู้จักพูดจาให้กำลังใจแก่ผู้เหน็ดเหนื่อย
ทุกๆ เช้า พระองค์ทรงปลุกข้าพเจ้า
ทรงปลุกหูข้าพเจ้าให้ฟังเหมือนศิษย์ที่พระองค์ทรงสอน
5พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดหูให้ข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าก็ไม่ต่อต้าน ไม่หันหลังหนีไป
6ข้าพเจ้าหันหลังให้แก่ผู้โบยตีข้าพเจ้า
และหันแก้มให้แก่ผู้ที่ดึงเคราข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่ซ่อนหน้าแก่ผู้สบประมาทและถ่มน้ำลายรดe
7พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้า
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่ต้องละอาย
ข้าพเจ้าทำหน้าของข้าพเจ้าให้ด้านเหมือนหิน
ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าจะไม่อับอาย
8พระองค์ผู้ประทานความยุติธรรมแก่ข้าพเจ้าทรงอยู่ใกล้ข้าพเจ้า ใครจะสู้คดีกับข้าพเจ้า
เราจงยืนขึ้นเผชิญหน้ากันเถิด
ใครจะกล่าวหาข้าพเจ้า ก็จงเข้ามาใกล้ข้าพเจ้าเถิด
9ดูซิ พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้า
ใครจะกล่าวโทษข้าพเจ้า
ดูซิ เขาทุกคนจะผุพังเหมือนเสื้อผ้า
แมลงกินผ้าจะกัดกินเขาเหล่านั้น
10ผู้ใดในหมู่ท่านยำเกรงพระยาห์เวห์
และเชื่อฟังเสียงผู้รับใช้พระองค์
ผู้ใดดำเนินในความมืด
และไม่มีแสงสว่าง
ผู้นั้นจงวางใจในพระนามพระยาห์เวห์
และพึ่งพิงพระเจ้าของตนf
11ท่านทั้งหลายที่ก่อไฟ
และถือคบไฟที่จุดไว้g
จงเดินตามแสงไฟของท่าน
และตามแสงคบไฟซึ่งท่านได้จุดไว้
ท่านจะได้รับสิ่งนี้จากมือของเรา
คือท่านจะต้องนอนอยู่ในความทุกข์ทรมาน
50 a คำประพันธ์บทนี้เข้าใจยากและอาจไม่สมบูรณ์ ไม่แน่ว่าจะเป็นข้อความต่อจากบทประพันธ์ก่อนหน้านี้หรือไม่ แม้ดูเหมือนจะพูดถึงเรื่องเดียวกันกับ 49:24-26 เป็นคำตอบต่อชาวอิสราเอลที่ไม่ยอมเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงกอบกู้ในไม่ช้า
b คำถามทั้งสองข้อคาดว่าผู้ตอบจะต้องปฏิเสธ ไม่มีผู้ใดพิสูจน์ได้ว่าพระเจ้าทรงทอดทิ้ง (หย่าร้างโดยทำ“หนังสือหย่า”กับ) อิสราเอล (ดู ฉธบ 24:1-4) และเรื่องเปรียบเทียบใน ฮชย 2:4-9 หรือทรง “ขาย” บุตรของพระองค์ (อพย 21:7) พระเจ้ายังคงซื่อสัตย์อยู่เสมอ ชาวอิสราเอลต่างหากเป็นผู้ต้องรับผิดชอบ (ดูข้อความต่อไปในข้อนี้) นี่เป็นตัวอย่างพิเศษในการใช้ความคิดเรื่อง “ภรรยาผู้ไม่ซื่อสัตย์” (ยรม 3:1; อสค 16; ฮชย 2:4-9)
c แผ่นดินที่ถูกทิ้งร้างและแห้งแล้ง (เทียบ 42:15; 44:27) และท้องฟ้าที่มืดครึ้มมีพายุ (เทียบ อพย 13:22; 19:16) เป็นสัญญาณบอกล่วงหน้าว่าพระเจ้ากำลังจะเสด็จมาพิพากษามนุษยชาติ
d ในเพลงของผู้รับใช้ฯบทที่สามนี้ ผู้รับใช้มีลักษณะเป็น “ผู้มีปรีชา” มากกว่าจะเป็น “ประกาศก” เพราะเป็นศิษย์ซื่อสัตย์ของพระยาห์เวห์ (ข้อ 4-5) และรับหน้าที่เป็นผู้สอน “ผู้ยำเกรงพระเจ้า” ซึ่งหมายถึงชาวยิวผู้เลื่อมใสศรัทธา (ข้อ 10) รวมทั้งอาศัยความกล้าหาญและความเชื่อจากพระเจ้า (ข้อ 7-9) สอนผู้หลงผิดและผู้ไม่มีความเชื่อซึ่ง “กำลังเดินในความมืด” ผู้รับใช้ฯจะทนการถูกเบียดเบียน (ข้อ 5-6) จนกว่าพระเจ้าจะประทานชัยชนะให้ในที่สุด (ข้อ 9-11) คำพูดของผู้รับใช้ฯต่อเนื่องไปจนถึงข้อ 9
e เพลงของผู้รับใช้ฯบทที่สี่ (52:13–53:12) จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมมากขึ้นเกี่ยวกับการรับทรมานของผู้รับใช้ฯ (เทียบ มธ 26:67; 27:30//)
f ที่ตรงนี้ประกาศกกลับมาพูดอีก เชิญชวนชาวอิสราเอล และบางทียังเชิญชวนชนชาติที่ไม่รู้จักพระเจ้า (= ผู้ที่“ดำเนินในความมืด”) เทียบ 49:6 ให้มีความหวังในพระเจ้า ต่อจากนั้นเขากล่าวประณามผู้ “ก่อไฟ” (ข้อ 11) ซึ่งอาจหมายถึงผู้ยุยงให้แตกสามัคคี
g “ถือคบไฟที่จุดไว้” แปลโดยคาดคะเน บางคนเข้าใจว่าเป็นการใช้ลูกธนูที่จุดไฟลุกอยู่ที่ปลายเป็นอาวุธยิงข้าศึก