วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2016
ระลึกถึง น.อันดรูว์ ดุง-ลัก พระสงฆ์ และเพื่อนมรณสักขีชาวเวียดนาม
วว 18:1-2,21-23,19:1-3,9ก / ลก 21:20-28
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “เมื่อท่านทั้งหลายเห็นกองทัพต่างๆ ล้อมกรุงเยรูซาเล็ม ก็จงรู้ไว้เถิดว่าความพินาศของนครนั้นใกล้เข้ามาแล้ว เวลานั้นผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียจงหนีไปยังภูเขา ผู้ที่อยู่ในกรุงจงรีบออกไปเสีย ผู้ที่อยู่ในชนบทก็จงอย่าเข้ามาในกรุง เพราะวันเหล่านั้นจะเป็นวันพิพากษาลงโทษ
ข้อความที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์จะเป็นจริงทุกประการ น่าสงสารหญิงมีครรภ์และหญิงแม่ลูกอ่อนในวันนั้น ทุกขเวทนาใหญ่หลวงจะครอบคลุมทั่วแผ่นดินและพระพิโรธจะลงมาเหนือชนชาตินี้ บางคนจะตายด้วยคมดาบ บางคนจะถูกจับเป็นเชลยไปอยู่ในประเทศต่างๆ กรุงเยรูซาเล็มจะถูกคนต่างศาสนาเหยียบย่ำจนกว่าจะครบเวลาที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้
จะมีเครื่องหมายในดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวต่างๆ ชนชาติต่างๆ บนแผ่นดินจะทนทุกข์ทรมาน ฉงนสนเท่ห์ต่อเสียงกึกก้องของทะเลที่ปั่นป่วน มนุษย์จะสลบไปเพราะความกลัว และหวั่นใจถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในโลก เพราะสิ่งต่างๆ ในท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน หลังจากนั้นประชาชนทั้งหลายจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆ ทรงพระอานุภาพและพระสิริรุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่ เมื่อเหตุการณ์ทั้งปวงนี้เริ่มเกิดขึ้น ท่านทั้งหลายจงยืนตรง เงยหน้าขึ้นเถิด เพราะในไม่ช้าท่านจะได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระแล้ว”
(พระวาจาของพระเจ้า)
———
ในคำบันทึก หนังสือวิวรณ์ เล่าถึงสุดท้ายของการผ่านพ้น ที่จะไม่มีความคิดอื่น ไม่มีพื้นที่ยืนฝั่งตรงข้าม ที่เป็นวิสัยของคริสตชน ที่มุ่งสู่งความรอดพ้น ว่า “จงบันทึกลงไปว่า ผู้ที่ได้รับเชิญมาในงานวิวาหมงคลของลูกแกะย่อมเป็นสุข”
ความเป็นสุขที่ได้ผ่านพ้น ไม่ได้จมปลักลงไปตามใจตัว
ความสุข ที่ได้เข้าใจกระบวนร่อนขัดเกลาในชีวิตที่อาจเป็นทุกข์ อาจเข้าใจยาก แต่ ความเข้าใจที่มาภายหลัง การลงลึกในความเข้าใจหลังชีวิตที่ได้ผ่านพ้น กลับเป็น สุข มากกว่าที่ได้ตามใจ
ความสุขแบบนี้ คือ ความรอดพ้น
ทำให้เราเข้าใจเรื่องพระสิริรุ่งโรจน์ ที่มาภายหลัง กางเขน ที่สรุปในพระวรสารลูกา บอกว่า
“หลังจากนั้นประชาชนทั้งหลายจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆ ทรงพระอานุภาพและพระสิริรุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่ เมื่อเหตุการณ์ทั้งปวงนี้เริ่มเกิดขึ้น ท่านทั้งหลายจงยืนตรง เงยหน้าขึ้นเถิด เพราะในไม่ช้าท่านจะได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระแล้ว”