เพลงสดุดีที่ 90
ความอ่อนแอของมนุษย์a
เพลงสดุดีบทนี้ก็อยู่ในประเภท “คำอ้อนวอนของชุมชน” เช่นเดียวกัน ต่างกันที่ว่าไม่ใช่บทภาวนาสำหรับโอกาสที่ประชาชนประสบความพ่ายแพ้สงครามหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ เนื้อหาของบทเพลงเป็นการพิจารณาคำนึงถึงความอนิจจังของมนุษย์ซึ่งมีชีวิตอยู่ไม่นาน และยังควรจะได้รับโทษจากพระเจ้าเพราะบาปที่ได้ทำ สภาพนี้ช่างตรงข้ามกับลักษณะของพระเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่ตลอดนิรันดรและทรงพระอานุภาพหาขอบเขตมิได้ การพิจารณาเช่นนี้อยู่ในลีลาของวรรณกรรมประเภทปรีชาญาณ เมื่อผู้ประพันธ์เพลงสดุดีเตือนใจประชาชนให้คำนึงถึงความอนิจจังของชีวิต เขามีเจตนาที่จะสอนให้ทุกคนมี “จิตใจปรีชาฉลาด” คือรู้จักดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับพระบัญญัติของพระเจ้านั่นเอง
คำภาวนา ของโมเสส ผู้รับใช้พระเจ้าb
1ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นแหล่งลี้ภัยของข้าพเจ้าทั้งหลายc
มาทุกยุคทุกสมัย
2ก่อนภูเขาจะเกิด
ก่อนแผ่นดินและโลกจะถือกำเนิดขึ้นมา
พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า
ทรงดำรงอยู่ตลอดไป
3พระองค์ทรงให้มนุษย์กลับเป็นฝุ่นดิน
โดยตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงกลับไปเถิด”
4ใช่แล้ว หนึ่งพันปีสำหรับพระองค์
ก็เหมือนวันวานที่เพิ่งผ่านไป
เหมือนการเฝ้ายามเพียงยามเดียวเวลากลางคืน
5พระองค์ทรงบันดาลให้ชีวิตจบลงเหมือนจมน้ำ
สั้นเหมือนความฝันในยามเช้า เหมือนต้นหญ้าที่งอกขึ้น
6ในยามเช้าต้นหญ้าเติบโตขึ้นและออกดอก
ในยามเย็นก็ร่วงโรยและเหี่ยวแห้ง
7ข้าพเจ้าทั้งหลายถูกพระพิโรธของพระองค์ทำลาย
มีความหวาดกลัวเพราะความกริ้วของพระองค์
8พระองค์ทรงวางความผิดของข้าพเจ้าทั้งหลายไว้เฉพาะพระพักตร์
ทรงวางการกระทำเร้นลับของข้าพเจ้าในแสงสว่างแห่งพระพักตร์พระองค์
9ถูกแล้ว ทุกวันของข้าพเจ้าทั้งหลายผ่านไปเพราะพระพิโรธของพระองค์
ปีของข้าพเจ้าสิ้นสุดลงเหมือนลมหายใจเฮือกเดียวd
10ช่วงอายุชีวิตของข้าพเจ้าทั้งหลายยาวนานเจ็ดสิบปี
อาจจะถึงแปดสิบสำหรับผู้ที่แข็งแรง
แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ความเหน็ดเหนื่อยและความกังวล
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้วข้าพเจ้าทั้งหลายก็จากไป
11ผู้ใดจะรู้ถึงอานุภาพแห่งพระพิโรธของพระองค์
และรู้ถึงความกริ้ว เพื่อจะได้ยำเกรงพระองค์อย่างเหมาะสม
12โปรดทรงสอนข้าพเจ้าทั้งหลายให้รู้จักนับวันแห่งชีวิตได้ถูกต้อง
เพื่อจะได้มีจิตใจปรีชาฉลาดe
13ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเสด็จกลับมาเถิด ข้าพเจ้าทั้งหลายจะต้องรอคอยอีกนานเพียงใด
โปรดทรงสงสารบรรดาผู้รับใช้พระองค์เถิดf
14ทุกยามเช้าโปรดประทานความรักมั่นคงของพระองค์แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายอย่างเต็มเปี่ยม
ข้าพเจ้าทั้งหลายจะได้โห่ร้องด้วยความเบิกบานและยินดีตลอดชีวิต
15ขอพระองค์ประทานความยินดีแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
นานเท่ากับเวลาที่พระองค์ทรงบันดาลให้ได้รับความทุกข์ยาก
เท่ากับปีที่ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องประสบความเลวร้าย
16โปรดสำแดงให้ผู้รับใช้พระองค์เห็นพระราชกิจของพระองค์
ให้ลูกหลานของเขาได้เห็นความรุ่งเรืองของพระองค์
17ขอองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย โปรดปรานข้าพเจ้า
ขอพระองค์ประทานให้ผลงานที่ข้าพเจ้าทั้งหลายทำสำเร็จไป
ขอให้ผลงานที่ข้าพเจ้าทั้งหลายทำมีความมั่นคงg
90 a เพลงสดุดีบทนี้เป็นคำภาวนาของผู้มีปรีชาคนหนึ่งที่รู้จักพระคัมภีร์เป็นอย่างดี เขาอ้างถึง ปฐก โยบ และ ฉธบ คำนึงถึงความอ่อนแอของมนุษย์ และคิดว่าชีวิตมนุษย์ไม่ยืนยาวนัก และบาปยิ่งทำให้ชีวิตนั้นสั้นลงไปอีก
b เพลงสดุดีบทนี้เป็นบทเดียวที่อ้างว่าโมเสสเป็นผู้แต่ง อาจเป็นเพราะมีข้อความที่ชวนให้คิดถึง ปฐก และ ฉธบ 32
c “แหล่งลี้ภัย” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ที่อาศัย”
d “ลมหายใจเฮือกเดียว” สำนวนแปลโบราณภาษาซีเรียคว่า “เหมือนแมงมุม”
e การตระหนักถึงความอ่อนแอของมนุษย์นำไปสู่ปรีชาญาณซึ่งมาจาก “ความยำเกรงพระเจ้า” (สภษ 1:7 เชิงอรรถ a)
f ในข้อ 14-17 คำรำพึงภาวนาเกี่ยวกับสภาพชีวิตของมนุษย์แต่ละคนถูกนำไปใช้กับชะตากรรมของอิสราเอลทั้งชาติ
g สองบรรทัดสุดท้ายที่เหมือนกันอาจเป็นการคัดลอกซ้ำ