“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

VIII. วาระสุดท้ายของอาณาจักรยูดาห์

 

ก. กษัตริย์เฮเซคียาห์ ประกาศกอิสยาห์ และอาณาจักรอัสซีเรีย

 

รัชสมัยกษัตริย์เฮเซคียาห์ (716-687 ก่อน ค.ศ.)

18 1ปีที่สามในรัชกาลกษัตริย์โฮเชยาaแห่งอิสราเอลบุตรของเอลาห์ เฮเซคียาห์พระโอรสของกษัตริย์อาคัสทรงเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ 2ทรงเป็นกษัตริย์เมื่อพระชนมายุยี่สิบห้าพรรษา และทรงครองราชย์เป็นเวลายี่สิบเก้าปีที่กรุงเยรูซาเล็ม พระมารดาทรงพระนามว่าอาบียาห์b เป็นบุตรหญิงของเศคาริยาห์ 3พระองค์ทรงกระทำแต่สิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงเห็นว่าถูกต้องตามที่กษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษทรงกระทำ 4ทรงรื้อสักการสถานบนที่สูง ทรงทำลายเสาหินศักดิ์สิทธิ์และทรงตัดเสาศักดิ์สิทธิ์ของเทพีอาเชราห์c ทรงทุบรูปงูทองสัมฤทธิ์ที่เรียกกันว่า “เนหุชทาน”d ซึ่งโมเสสทำขึ้น เพราะเวลานั้น ชาวอิสราเอลยังคงเผากำยานถวายแก่รูปงูนี้

5พระองค์ทรงไว้วางพระทัยในพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ไม่มีกษัตริย์แห่งยูดาห์พระองค์ใดทั้งก่อนและหลังเหมือนพระองค์ 6พระองค์ทรงซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ ไม่ทรงหันเหออกห่างจากพระยาห์เวห์ ทรงปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาแก่โมเสส 7พระยาห์เวห์สถิตกับพระองค์ ไม่ว่าจะทรงกระทำกิจการใดก็ทรงประสบความสำเร็จทุกประการ พระองค์ทรงกบฏต่อกษัตริย์แห่งอัสซีเรียe ไม่ทรงยอมอยู่ใต้อำนาจอีกต่อไป 8ทรงโจมตีชาวฟีลิสเตียตั้งแต่หมู่บ้านเล็กๆ จนถึงเมืองป้อมปราการ ไปถึงเมืองกาซาและเขตแดนโดยรอบ

 

กรุงสะมาเรียถูกทำลาย f

9ปีที่สี่ในรัชกาลกษัตริย์เฮเซคียาห์ ซึ่งเป็นปีที่เจ็ดในรัชกาลกษัตริย์โฮเชยาแห่งอิสราเอลบุตรของเอลาห์ กษัตริย์ซัลมาเนเสอร์แห่งอัสซีเรียทรงยกทัพมายังกรุงสะมาเรียและล้อมเมืองไว้ 10ชาวอัสซีเรียยึดเมืองได้หลังจากล้อมอยู่สามปี กรุงสะมาเรียแตกปีที่หกในรัชกาลกษัตริย์เฮเซคียาห์ ซึ่งเป็นปีที่เก้าในรัชกาลกษัตริย์โฮเชยาแห่งอิสราเอล 11กษัตริย์แห่งอัสซีเรียทรงกวาดต้อนชาวอิสราเอลไปเป็นเชลย ตั้งหลักแหล่งgอยู่ที่เมืองคาลาห์บนฝั่งแม่น้ำคาโบร์ในแคว้นโกซานและตามเมืองต่างๆ ในแคว้นมีเดีย 12เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะชาวอิสราเอลไม่เชื่อฟังคำตักเตือนของพระยาห์เวห์พระเจ้าของตน เขาละเมิดพันธสัญญาของพระองค์ ไม่ยอมเชื่อฟังและไม่ยอมปฏิบัติตามบทบัญญัติต่างๆ ที่ทรงบัญชาแก่โมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์

 

กษัตริย์เซนนาเคริบทรงยกทัพมาล้อมกรุงเยรูซาเล็ม

13ปีที่สิบสี่ในรัชกาลกษัตริย์เฮเซคียาห์ กษัตริย์เซนนาเคริบแห่งอัสซีเรียทรงยกทัพมาโจมตีและยึดเมืองป้อมปราการทุกเมืองของอาณาจักรยูดาห์h 14กษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ทรงส่งสารไปถึงกษัตริย์แห่งอัสซีเรียซึ่งประทับอยู่ที่เมืองลาคีช ความว่า “ข้าพเจ้าผิดไปแล้ว ขอทรงถอนทัพกลับไปเถิด ข้าพเจ้าจะจ่ายเงินให้ตามที่พระองค์ทรงเรียกร้อง” กษัตริย์แห่งอัสซีเรียทรงกำหนดให้กษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์จ่ายเงินหนักประมาณสิบตัน และทองคำหนักประมาณหนึ่งตัน

15กษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงมอบเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในพระวิหารของพระยาห์เวห์และในท้องพระคลัง 16ขณะนั้น กษัตริย์เฮเซคียาห์ยังทรงสั่งให้ลอกทองคำออกจากประตูพระวิหารของพระยาห์เวห์ ซึ่งพระองค์iทรงหุ้มไว้ นำไปถวายกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย

 

กษัตริย์เซนนาเคริบทรงคุกคามกรุงเยรูซาเล็ม

17กษัตริย์แห่งอัสซีเรียทรงส่งกองทัพใหญ่พร้อมกับแม่ทัพ ผู้บัญชาการj และรองผู้บัญชาการพระราชวังจากเมืองลาคีชไปเฝ้ากษัตริย์เฮเซคียาห์ที่กรุงเยรูซาเล็ม คนเหล่านี้เดินทางมาถึงกรุงเยรูซาเล็ม และมาหยุดที่kท่อส่งน้ำของสระตอนบน ตามถนนไปสู่ลานคนซักผ้า

18เขาเหล่านั้นขอเฝ้ากษัตริย์ เอลียาคิมบุตรของฮิลคียาห์ผู้ดูแลพระราชวัง เชบนาห์ราชเลขา และโยอาห์บุตรของอาสาฟเจ้ากรมสารบัญออกมาพบเขา 19รองผู้บัญชาการพระราชวังบอกเขาทั้งสามคนว่า “จงไปทูลกษัตริย์เฮเซคียาห์ว่า ‘กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ กษัตริย์แห่งอัสซีเรียตรัสว่า อะไรทำให้ท่านมั่นใจนัก 20ท่านคิดว่าคำพูดจะแทนแผนยุทธศาสตร์และกำลังพลได้หรือ ท่านวางใจผู้ใดจึงเป็นกบฎต่อเรา 21ท่านหวังว่าอียิปต์จะมาช่วยท่านหรือ อียิปต์เป็นเหมือนไม้อ้อที่หักแล้วl ซึ่งจะทิ่มแทงมือของผู้ที่ยึดเป็นไม้เท้า ฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ก็ทรงเป็นเช่นนั้นกับทุกคนที่มาพึ่งพระองค์ 22ท่านอาจตอบว่า พวกเราไว้ใจพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา แต่กษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงทำลายสักการสถานและแท่นบูชาทั้งหมดของพระยาห์เวห์บนที่สูง และทรงสั่งชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มว่า จงนมัสการพระยาห์เวห์ที่แท่นบูชานี้ที่กรุงเยรูซาเล็มเท่านั้น 23บัดนี้ จงมาต่อรองกับกษัตริย์แห่งอัสซีเรียเจ้านายของข้าพเจ้าเถิด ข้าพเจ้าจะยกม้าสองพันตัวให้ท่าน ถ้าท่านหาคนขี่ม้าจำนวนนี้ได้ 24ท่านจะขับไล่ข้าราชการชั้นต่ำสุดเพียงคนเดียวmของเจ้านายข้าพเจ้าได้อย่างไร ในเมื่อท่านหวังให้อียิปต์ส่งรถศึกและทหารม้ามาช่วย 25ท่านคิดหรือว่าเราขึ้นมาเพื่อทำลายสถานที่นี้โดยที่พระยาห์เวห์ไม่ทรงช่วยเหลือ พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า จงขึ้นไปโจมตีและทำลายแผ่นดินนี้เถิด’”

26เอลียาคิมบุตรของฮิลคียาห์n เชบนาห์และโยอาห์จึงตอบรองผู้บัญชาการพระราชวังว่า “จงพูดกับผู้รับใช้ของท่านเป็นภาษาอาราเมอิกเถิดo เพราะพวกเราเข้าใจ แต่อย่าพูดกับพวกเราเป็นภาษาฮีบรูเลย ประชาชนที่อยู่บนกำแพงกำลังฟังอยู่” 27รองผู้บัญชาการพระราชวังแย้งว่า “ท่านคิดหรือว่าเจ้านายของข้าพเจ้าส่งข้าพเจ้ามาบอกเรื่องนี้แก่เจ้านายของท่าน หรือแก่ท่านเท่านั้น เปล่าเลย ข้าพเจ้าพูดกับประชาชนที่อยู่บนกำแพงด้วย เขาจะต้องกินอุจจาระปัสสาวะเหมือนกับท่าน”p

28รองผู้บัญชาการพระราชวังยืนขึ้นตะโกนเสียงดังเป็นภาษาฮีบรูว่า “จงฟังถ้อยคำของกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ 29พระองค์ตรัสดังนี้ว่า ‘อย่าให้เฮเซคียาห์ลวงท่านได้ เขาช่วยท่านให้รอดพ้นจากมือของเราqไม่ได้ดอก 30อย่าให้เฮเซคียาห์ชักชวนท่านให้พึ่งพระยาห์เวห์โดยพูดว่า พระยาห์เวห์จะทรงช่วยพวกเราให้รอดพ้นอย่างแน่นอน เมืองนี้จะไม่ตกอยู่ในมือของกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย 31อย่าฟังเฮเซคียาห์เลย’” กษัตริย์แห่งอัสซีเรียตรัสว่า “จงยอมแพ้ ออกมามอบตัวแต่โดยดี แล้วทุกคนจะได้กินผลจากสวนของตน และกินผลมะเดื่อเทศจากต้นที่ตนปลูก จะดื่มน้ำจากบ่อเก็บน้ำของตน 32จนกว่าเราจะมานำท่านทั้งหลายไปยังแผ่นดินเหมือนกับแผ่นดินของท่าน เป็นแผ่นดินที่ผลิตข้าวและเหล้าองุ่นใหม่ เป็นแผ่นดินที่มีขนมปังและสวนองุ่น มีต้นมะกอกเทศและน้ำผึ้ง ท่านทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่และจะไม่ตาย อย่าฟังเฮเซคียาห์เลย เพราะเขาลวงท่านโดยพูดว่า พระยาห์เวห์จะทรงช่วยพวกเราให้รอดพ้น 33มีเทพเจ้าของชนชาติใดบ้างที่ช่วยแผ่นดินของตนให้พ้นมือของกษัตริย์แห่งอัสซีเรียได้ 34เทพเจ้าของเมืองคามัทและเมืองอารปัดอยู่ที่ใดเล่า เทพเจ้าของชาวเสฟราวาอิม ชาวเฮนา และชาวอัฟวาห์rอยู่ที่ใดเล่าs ใครช่วยกรุงสะมาเรียให้รอดพ้นจากมือของเราได้ 35เทพเจ้าองค์ใดในหมู่เทพเจ้าของแผ่นดินเหล่านั้นทั้งหมดทรงช่วยแผ่นดินของตนให้พ้นจากมือของเราได้ แล้วพระยาห์เวห์จะช่วยกรุงเยรูซาเล็มให้รอดพ้นจากมือของเราได้อย่างไร’”

36ประชาชนนิ่งเงียบ ไม่ตอบแม้แต่คำเดียว เพราะกษัตริย์ทรงสั่งว่า “อย่าตอบอะไรเลย” 37เอลียาคิมบุตรของฮิลคียาห์ผู้ดูแลพระราชวัง เชบนาห์ราชเลขา และโยอาห์บุตรของอาสาฟเจ้ากรมสารบัญ ฉีกเสื้อผ้าของตนแสดงความเศร้าโศก กลับไปเฝ้ากษัตริย์เฮเซคียาห์ ทูลตามคำพูดของรองผู้บัญชาการพระราชวังชาวอัสซีเรีย

 

18 a การเทียบเวลาในบทนี้ไม่แน่นอน

b “อาบียาห์” ตาม 2 พศด 29:1 ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “อาบี”

c “เสาศักดิ์สิทธิ์ของเทพีอาเชราห์” เทียบ 1 พกษ 16:33 กษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงสั่งให้ประชาชนมานมัสการพระยาห์เวห์ในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มเพียงแห่งเดียว และทรงทำลายรูปเคารพทั้งหลาย นับเป็นการเตรียมทางการปฏิรูปทางศาสนาที่กษัตริย์โยสิยาห์จะทรงทำต่อไป (บทที่ 23) พระคัมภีร์จึงชมกษัตริย์เฮเซคียาห์อย่างมากด้วยเช่นเดียวกัน (ข้อ 3, และ 5-6)

d ชื่อ “เนหุชทาน” ของรูปนี้เพี้ยนมาจากคำสองคำคือ “nehoshet = ทองสัมฤทธิ์” และ “nahash = งู” ถือกันว่ารูปงูรูปนี้เป็นรูปซึ่งโมเสสทำขึ้นในถิ่นทุรกันดาร (กดว 21:8-9) และชาวอิสราเอลในภายหลังพากันกราบไหว้เป็นรูปเคารพ (เทียบ ปชญ 16:6-7)

e น่าจะตรงกับปี 711 ก่อน ค.ศ. (เทียบ อสย 20:1) หลังจากกษัตริย์ซาร์กอนที่ 2 สิ้นพระชนม์

f ข้อความตอนนี้อาจจะเล่าซ้ำเหตุการณ์ใน 17:5-6 และขยายคำอธิบายใน 17:7

g “ตั้งหลักแหล่ง” แปลตามสำนวนแปลโบราณ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “นำ”

h กษัตริย์เซนนาเคริบเป็นพระโอรสของกษัตริย์ซาร์กอนที่ 2 และทรงครองราชย์สืบต่อมา ทรงยกทัพมาโจมตีปาเลสไตน์ในปี 701 ก่อน ค.ศ. พงศาวดารของอัสซีเรียเล่าเหตุการณ์ในรัชสมัยกษัตริย์เซนนาเคริบอย่างละเอียดตรงกับข้อมูลในข้อ 13-16 แต่ไม่กล่าวว่าสงครามครั้งนี้ประสบความล้มเหลวดังที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ใน 18:17 – 19:37 *** เรื่องที่พระคัมภีร์เล่านี้น่าจะรวมสองเหตุการณ์เข้าด้วยกัน คือ (1) 18:17-19ก และ 19:36-37 (2) 19ข-35 เหตุการณ์ทั้งสองนี้คล้ายกันมากจนหลายคนคิดว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกัน แต่ในความเป็นจริง สองเรื่องนี้น่าจะเล่าถึงสงครามสองครั้งของกษัตริย์เซนนาเคริบ (ดู 19:9 เชิงอรรถ e) * อสย 36-37 จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ใน 18:13 – 19:37 อีกครั้งหนึ่งโดยมีรายละเอียดแตกต่างกันบ้าง

i “พระองค์” ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์”

j “แม่ทัพและผู้บัญชาการ(พระราชวัง)” พระคัมภีร์ในบทนี้และ อสย 32:2 จะไม่กล่าวถึงข้าราชการทั้งสองคนนี้อีกเลย

k “และมาหยุดที่” ต้นฉบับภาษาฮีบรูซ้ำว่า “เดินทางมาถึงและมาหยุดที่”

l ประกาศกอิสยาห์ก็ประณามความพยายามที่กษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงทำพันธสัญญากับอียิปต์ด้วย (อสย 18:2; 20:5-6; 30:1-7; 31:1-3)

m “เพียงคนเดียว” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ข้าราชการคนหนึ่ง”

n “เอลียาคิมบุตรของฮิลคียาห์” อสย 36:11ละ “บุตรของฮิลคียาห์”

o เวลานั้นภาษาอาราเมอิกเริ่มใช้เป็นภาษากลางในตะวันออกกลาง และต่อมาจะใช้เป็นภาษาที่พูดกันทั่วปาเลสไตน์ แต่ในสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์ ประชาชนเข้าใจเพียงภาษาฮีบรูเท่านั้น

p สำนวนนี้บรรยายอย่างดีถึงสภาพของชาวเมืองที่ขาดอาหาร เพราะถูกข้าศึกล้อมไว้

q “ของเรา” แปลตามสำนวนแปลโบราณ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ของเขา”

r “อัฟวาห์” ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “อิฟวาห์” แต่เป็นเมืองเดียวกันกับใน 17:24 เมืองต่างๆ ที่กล่าวนี้เป็นเมืองในแคว้นซีเรียซึ่งกษัตริย์แห่งอัสซีเรียก่อนเซนนาเคริบทรงยึดได้

s ต้นฉบับแปลโบราณเสริมว่า “เทพเจ้าของแผ่นดินสะมาเรียอยู่ที่ใด”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก