“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

บทเทศน์/ข้อคิดวันอาทิตย์


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

III. วันฉลองปัสกาและปังแห่งชีวิต

ชาวยิวต่อต้านพระเยซูเจ้ารุนแรงขึ้น

พระเยซูเจ้าทรงทำอัศจรรย์ทวีขนมปัง

6 1หลังจากนั้น พระเยซูเจ้าเสด็จข้ามทะเลสาบกาลิลีหรือทิเบเรียส 2ประชาชนจำนวนมากตามพระองค์ไป เพราะเห็นเครื่องหมายอัศจรรย์ที่ทรงกระทำแก่ผู้เจ็บป่วย 3พระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขา ประทับที่นั่นพร้อมกับบรรดาศิษย์ 4ขณะนั้นใกล้จะถึงวันฉลองปัสกาของชาวยิวa

5พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ ทอดพระเนตรเห็นประชาชนจำนวนมากที่มาเฝ้า จึงตรัสกับฟีลิปว่า “พวกเราจะซื้อขนมปังที่ไหนให้คนเหล่านี้กิน” 6พระองค์ตรัสดังนี้เพื่อทดลองใจเขา แต่พระองค์ทรงทราบแล้วว่าจะทรงทำประการใด 7ฟีลิปทูลตอบว่า “ขนมปังราคาสองร้อยเหรียญแจกให้คนละนิดก็ยังไม่พอ” 8ศิษย์อีกคนหนึ่ง คือ อันดรูว์น้องของซีโมนเปโตรทูลว่า 9“เด็กคนหนึ่งที่นี่มีขนมปังบาร์เลย์ห้าก้อนกับปลาสองตัว ขนมปังและปลาเพียงเท่านี้จะพออะไรสำหรับคนจำนวนมากเช่นนี้” 10พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงบอกประชาชนให้นั่งลงเถิด” ที่นั่นมีหญ้าขึ้นอยู่ทั่วไป เขาจึงนั่งลง นับจำนวนผู้ชายได้ถึงห้าพันคน 11พระเยซูเจ้าทรงหยิบขนมปังขึ้น ทรงขอบพระคุณพระเจ้า แล้วทรงแจกจ่ายให้แก่ผู้ที่นั่งอยู่ตามที่เขาต้องการ พระองค์ทรงกระทำเช่นเดียวกันกับปลา 12เมื่อคนทั้งหลายอิ่มแล้ว พระองค์ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “จงเก็บเศษขนมปังที่เหลือ อย่าให้สิ่งใดสูญไปเปล่าๆ” 13บรรดาศิษย์จึงเก็บเศษขนมปังบาร์เลย์ห้าก้อนที่เหลือนั้นได้สิบสองกระบุง 14เมื่อคนทั้งหลายเห็นเครื่องหมายอัศจรรย์ที่ทรงกระทำก็พูดว่า “ท่านผู้นี้เป็นประกาศกแท้ซึ่งจะต้องมาในโลก” 15พระเยซูเจ้าทรงทราบว่าคนเหล่านั้นจะใช้กำลังบังคับพระองค์ให้เป็นกษัตริย์ จึงเสด็จไปบนภูเขาตามลำพังbอีกครั้งหนึ่ง

พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินบนน้ำ

16เมื่อถึงเวลาเย็น บรรดาศิษย์ต่างลงไปยังทะเลสาบ 17และลงเรือข้ามฟากไปทางเมืองคาเปอรนาอุม ขณะนั้นมืดแล้ว พระเยซูเจ้าก็ยังไม่เสด็จมากับเขา 18ทะเลปั่นป่วนเพราะลมพัดจัด 19บรรดาศิษย์กรรเชียงเรือไปได้ราวสี่หรือห้ากิโลเมตร เห็นพระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินบนทะเลเข้ามาใกล้เรือ ก็ตกใจกลัว 20แต่พระองค์ตรัสแก่เขาว่า “เป็นเราเอง อย่ากลัวเลย”c 21บรรดาศิษย์รับพระองค์ลงเรือด้วยความเต็มใจ ทันใดนั้นเรือก็ถึงฝั่งที่เขามุ่งจะไป

พระเยซูเจ้าทรงเทศน์สอนในศาลาธรรมที่เมืองคาเปอรนาอุมd

22วันรุ่งขึ้น ประชาชนที่ยังอยู่บนฝั่งตรงข้าม สังเกตเห็นว่า มีเรืออยู่ที่นั่นเพียงลำเดียว และจำได้ว่าพระเยซูเจ้ามิได้เสด็จลงเรือไปกับบรรดาศิษย์ บรรดาศิษย์ไปกันตามลำพังเท่านั้น 23แต่เรือลำอื่นจากเมืองทิเบเรียสมายังสถานที่ที่พวกเขาได้กินขนมปังe 24เมื่อประชาชนเห็นว่าทั้งพระเยซูเจ้า และบรรดาศิษย์ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ก็ลงเรือ มุ่งไปที่เมืองคาเปอรนาอุมเพื่อตามหาพระเยซูเจ้า 25เมื่อพบพระองค์ที่ฝั่งตรงข้าม จึงทูลถามว่า “พระอาจารย์ ท่านมาที่นี่เมื่อไร” 26พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า

“เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า

ท่านแสวงหาเรา มิใช่เพราะได้เห็นเครื่องหมายอัศจรรย์

แต่เพราะได้กินขนมปังจนอิ่ม

27อย่าขวนขวายหาอาหารที่กินแล้วเสื่อมสลายไป

แต่จงหาอาหารที่คงอยู่และนำชีวิตนิรันดรมาให้

อาหารนี้บุตรแห่งมนุษย์จะประทานให้fท่าน

เพราะพระเจ้าพระบิดาทรงประทับตราgรับรองบุตรแห่งมนุษย์ไว้แล้ว”

28เขาเหล่านั้นจึงทูลว่า “พวกเราจะต้องทำอะไรเพื่อให้กิจการของพระเจ้าสำเร็จ” 29พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “กิจการของพระเจ้าhก็คือ ให้ท่านทั้งหลายเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา” 30ประชาชนจึงทูลถามว่า “ท่านทำเครื่องหมายอัศจรรย์ใดเพื่อพวกเราจะได้เห็น และจะได้เชื่อในท่าน ท่านทำอะไร 31บรรพบุรุษของเราได้กินมานนาiในถิ่นทุรกันดาร ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า พระองค์ประทานขนมปังจากสวรรค์ให้เขากิน

32พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า

“เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า

มิใช่โมเสสที่ให้ขนมปังจากสวรรค์แก่ท่าน

แต่เป็นพระบิดาของเราที่ประทานขนมปังแท้จากสวรรค์ให้ท่าน

33เพราะขนมปังของพระเจ้า

คือขนมปังซึ่งลงมาจากสวรรค์

และประทานชีวิตให้แก่โลก”

34ประชาชนจึงทูลว่า “นายขอรับ โปรดให้ขนมปังนี้แก่พวกเราเสมอเถิด” 35พระเยซูเจ้าตรัสแก่เขาว่า

“เราเป็นjปังแห่งชีวิต

ผู้ที่มาหาเราจะไม่หิว

และผู้ที่เชื่อในเราจะไม่กระหายอีกเลยk

36เราบอกท่านทั้งหลายแล้วว่า

ท่านเห็นเราแล้ว แต่ไม่เชื่อ

37ทุกคนที่พระบิดาทรงมอบให้เรา จะมาหาเรา

และผู้ที่มาหาเรา

เราจะไม่ผลักไสไปเลยl

38เพราะเราลงมาจากสวรรค์

มิใช่เพื่อทำตามใจของเรา

แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามา

39พระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามาก็คือ

เราจะไม่สูญเสียผู้ใด

ที่พระองค์ทรงมอบให้แก่เรา

แต่จะให้ผู้นั้นกลับคืนชีพในวันสุดท้าย

40พระประสงค์ของพระบิดาของเราก็คือ

ทุกคนที่เห็นพระบุตรmแล้วเชื่อในพระบุตรจะมีชีวิตนิรันดร

และเราจะให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย”

41ชาวยิวบ่นพึมพำnไม่เห็นด้วยกับพระเยซูเจ้าที่ตรัสว่า “เราเป็นปังซึ่งลงมาจากสวรรค์” 42เขาพูดกันว่า “คนคนนี้ไม่ใช่เยซูบุตรของโยเซฟหรือ เรารู้จักทั้งบิดาและมารดาของเขาดี แล้วเขาพูดได้อย่างไรว่า เราลงมาจากสวรรค์” 43พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เลิกบ่นพึมพำกันเสียทีเถิด

44ไม่มีใครมาหาเราได้

นอกจากพระบิดาผู้ทรงส่งเรามาจะทรงชักนำเขา

และเราจะทำให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย

45มีเขียนไว้ในหนังสือของบรรดาประกาศกว่า

ทุกคนจะได้รับคำสอนจากพระเจ้า

ทุกคนที่ได้ฟังพระบิดา

และเรียนรู้จากพระองค์

ก็มาหาเรา

46ไม่มีใครได้เห็นพระบิดา

นอกจากผู้ที่มาจากพระเจ้า

47เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า

ผู้ที่เชื่อในเรา ก็มีชีวิตนิรันดร

48เราเป็นปังแห่งชีวิต

49บรรพบุรุษของท่านทั้งหลายได้กินมานนาในถิ่นทุรกันดาร

แล้วยังตาย

50แต่ปังที่ลงมาจากสวรรค์เป็นอย่างนี้

คือผู้ที่กินปังนี้แล้วจะไม่ตาย

51เราเป็นปังทรงชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์

ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป

และปังที่เราจะให้นี้

คือเนื้อของเราoเพื่อให้โลกมีชีวิต”p

52ชาวยิวจึงเถียงกันว่า “คนนี้เอาเนื้อของตนให้เรากินได้อย่างไร” 53พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า

ถ้าท่านไม่กินเนื้อของบุตรแห่งมนุษย์

และไม่ดื่มโลหิตของเขา

ท่านจะไม่มีชีวิตในตนเอง

54ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเรา

ก็มีชีวิตนิรันดร

เราจะทำให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย

55เพราะเนื้อของเราเป็นอาหารแท้

และโลหิตของเราเป็นเครื่องดื่มแท้

56ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเรา

ก็ดำรงอยู่ในเรา

และเราก็ดำรงอยู่ในเขาq

57พระบิดาผู้ทรงชีวิตทรงส่งเรามา

และเรามีชีวิตเพราะพระบิดาฉันใด

ผู้ที่กินเนื้อของเราจะมีชีวิตเพราะเราฉันนั้นr

58นี่คือปังที่ลงมาจากสวรรค์

ไม่เหมือนปังที่บรรดาบรรพบุรุษได้กินs แล้วยังตาย

ผู้ที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป”

59พระองค์ตรัสเช่นนี้ขณะที่ทรงสอนในศาลาธรรมที่เมืองคาเปอรนาอุม 60เมื่อศิษย์หลายคนได้ยินพระองค์ตรัสดังนี้ก็กล่าวว่า “ถ้อยคำนี้ขัดหูจริง ใครจะฟังได้” 61พระเยซูเจ้าทรงทราบด้วยพระองค์ว่าบรรดาศิษย์กำลังบ่นกันเรื่องนี้ จึงตรัสแก่เขาว่า “เรื่องนี้ทำให้ท่านเคลือบแคลงใจหรือ 62แล้วถ้าท่านจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์กลับขึ้นสู่สถานที่ที่เคยอยู่แต่ก่อนเล่า ท่านจะว่าอย่างไร

63พระจิตเจ้าทรงเป็นผู้ประทานชีวิต

ลำพังมนุษย์ทำอะไรไม่ได้

วาจาที่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายนั้นให้ชีวิต

เพราะมาจากพระจิตเจ้าt

64แต่บางท่านไม่เชื่อ” พระเยซูเจ้าทรงทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้ใดไม่เชื่อ และผู้ใดจะทรยศต่อพระองค์ 65พระองค์ตรัสต่อไปว่า “ดังนั้น เราจึงบอกท่านทั้งหลายว่า ไม่มีผู้ใดมาหาเราได้ เว้นแต่ผู้ที่พระบิดาประทานให้เขามา” 66หลังจากนั้น ศิษย์หลายคนเปลี่ยนใจไม่ติดตามพระองค์อีกต่อไป

เปโตรประกาศความเชื่อ

67พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับอัครสาวกสิบสองคนว่า “ท่านทั้งหลายจะไปด้วยหรือ”

 68ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระเจ้าข้า พวกเราจะไปหาใครเล่า พระองค์มีพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร 69พวกเราเชื่อและรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า”u 70พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราได้เลือกท่านทั้งสิบสองคนมิใช่หรือ แต่คนหนึ่งเป็นปีศาจ” 71พระองค์ทรงหมายถึงยูดาสบุตรของซีโมนอิสคาริโอท ซึ่งเป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกสิบสองคน แต่เขาจะทรยศต่อพระองค์

 

เรียนพระคัมภีร์กับคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร
พระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ 6

 



 

 

6 a ปังที่พระเยซูเจ้าประทานให้จะเป็นการเลี้ยงฉลองปัสกาใหม่

b สำเนาโบราณบางฉบับว่า หนีไป

c สำเนาโบราณบางฉบับละ อย่ากลัวเลย

d ผู้อธิบายพระคัมภีร์บางคนคิดว่า คำปราศรัยเรื่องศีลมหาสนิท (ข้อ 51-58 : พระเยซูเจ้าประทานพระกายและพระโลหิตเป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณ ดู ข้อ 51 เชิงอรรถ p) ได้ถูกนำมาแทรกในเรื่องเล่า ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้ : (1) ชาวยิวขอ เครื่องหมายอัศจรรย์ เหมือนกับเครื่องหมายอัศจรรย์เรื่องมานนา (ข้อ 30-31 ดู 1:21 เชิงอรรถ t) (2) พระเยซูเจ้าตรัสกับชาวยิวว่า ในฐานะที่ทรงถ่ายทอดคำสอนของพระบิดา (ดู 3:11 เชิงอรรถ e) พระองค์จึงทรงเป็นอาหารแท้ “เป็นปังซึ่งผู้มีความเชื่อเท่านั้นรับได้” (ข้อ 32ฯ) (3) แต่ชาวยิวไม่เข้าใจ (ข้อ 60-66) (4) เปโตรและบรรดาศิษย์เท่านั้นยอมเชื่อ (ข้อ 67-71) ข้อ 31-58 อาจเป็นบทเทศน์ตามแบบ มีดราช ของชาวยิว คือ ข้อ 31 ยกข้อความจากพระคัมภีร์ พระองค์ประทานปังจากสวรรค์ให้เขากิน แล้วอธิบายความคิดแรก (ปังจากสวรรค์) ในข้อ 32-48 และอธิบายความคิดที่สอง (ให้เขากิน) ในข้อ 49-58 (คำสอนนี้จะเข้าใจได้อย่างดีที่สุดโดยคำนึงข้อความใน ฉธบ 8:3; สภษ 8:22-24; 9:1-6; บสร 24:3, 17-21; ลก 11:29-32)

e สำเนาโบราณบางฉบับเสริมว่า หลังจากที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงขอบพระคุณแล้ว

f “จะประทานให้” สำเนาโบราณบางฉบับว่า ประทานให้

g ตรา ที่พระเยซูเจ้าทรงได้รับเมื่อทรงรับพิธีล้างนั้น คือพระจิตเจ้า (มธ 3:16 เชิงอรรถ n) ผู้ทรงเป็นพระอานุภาพของพระเจ้า และทำงานอยู่ใน เครื่องหมายอัศจรรย์ ที่พระคริสตเจ้าทรงกระทำ (เทียบ มธ 12:28; กจ 10:38; 2 คร 1:22; อฟ 1:13; 4:30)

h ชาวยิวให้ความสำคัญแก่ กิจการ ที่มนุษย์ต้องทำเพื่อเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า แต่พระเยซูเจ้าทรงเน้นถึงความเชื่อที่เขาต้องมีต่อผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมา

i มานนาใน อพย 16 เป็นอาหารที่พระเจ้าประทานให้แก่ประชากรในยุคของพระเมสสิยาห์ (สดด 78:23-24; 105:40) คริสตชนเข้าใจว่ามานนาเป็นสัญลักษณ์ของศีลมหาสนิท (1 คร 10:3-4) พระเยซูเจ้าทรงใช้ภาพมานนาที่นี่เป็นเครื่องหมายถึงความเชื่ออันเป็นอาหารที่แท้จริง (ข้อ 35-50) ซึ่งมาจากพระกายและพระโลหิตของพระองค์ และเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตนิรันดร (ข้อ 51-58 ดู มธ 4:4; 14:13-21)

j เราเป็น (ภาษากรีกว่า ego eimi) ทำให้คิดถึงพระนาม ซึ่งพระเจ้าได้ทรงเผยให้แก่โมเสส (อพย 3:13 เชิงอรรถ g; ดู ยน 8:24 เชิงอรรถ g) แต่ที่นี่ (และที่อื่นหลายครั้ง) เป็นสูตรที่พระเยซูเจ้าทรงใช้เมื่อเริ่มอธิบายอุปมา ในกรณีนี้ อุปมาไม่อยู่ในเรื่องเล่า แต่อยู่ในกิจการที่ทรงกระทำ การประทานมานนา และการทวีขนมปังเป็นอุปมาของการที่พระคริสตเจ้าประทานพระองค์เองเป็นขนมปังแท้แก่มนุษย์ (ดู ข้อ 41, 48, 51; 8:12; 10:7-11; 11:25; 15:1)

k พระเยซูเจ้าตรัสเหมือนกับที่ปรีชาญาณเชื้อเชิญประชาชนทั้งหลายให้มาร่วมโต๊ะกับตน (สภษ 9:1ฯ) ยน คิดว่าพระเยซูเจ้าคือพระปรีชาญาณของพระเจ้า ซึ่งพันธสัญญาเดิมแสดงตนเป็นบุคคลได้บ้างแล้ว (ดู 1:1 เชิงอรรถ a; ลก 7:35; 1 คร 1:24) ความเข้าใจเช่นนี้พบได้แล้วในคำสอนของพระเยซูเจ้าตามที่บันทึกไว้ในพระวรสารสหทรรศน์ (มธ 11:19; ลก 11:31//) แต่ ยน เข้าใจเรื่องนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น ต้นกำเนิดของพระเยซูเจ้าจึงเป็นเรื่องลึกลับ (7:27-29; 8:14, 19; เทียบ โยบ 28:20-28) พระองค์ผู้เดียวทรงทราบความลับของพระเจ้าและทรงเปิดเผยความลับนั้น (ยน 3:11-12, 31-32; เทียบ ปชญ 9:13-18; บรค 3:29-38; มธ 11:25-27//) พระองค์ทรงเป็นปังที่ให้ชีวิตและทำให้ผู้กินอิ่มหนำอย่างที่สุด (ยน 6:35; เทียบ สภษ 9:1-6; บสร 24:19-22)

l การมาหาพระคริสตเจ้า คือ การเชื่อในพระองค์ ดังที่เห็นได้ชัดเจนใน มก 2:5; 5:34 ฯลฯ เป็นการแสดงความเชื่อโดยไม่ต้องใช้คำพูด

m การเห็น พระบุตรคือการยอมรับว่า พระองค์เป็นพระบุตรที่พระบิดาทรงส่งมาอย่างแท้จริง (เทียบ 12:45; 14:9; 17:6 เชิงอรรถ g)

n ชาวยิวบ่นพึมพำไม่เห็นด้วยกับพระเยซูเจ้าเหมือนกับที่บรรพบุรุษของเขาได้ทำในถิ่นทุรกันดาร (ดู อพย 16:2ฯ; 17:3; กดว 11:1; 14:27; 1 คร 10:10)

o สำเนาโบราณบางฉบับเสริมว่า ที่เราจะให้ ไม่ว่าจะมีวลีนี้หรือไม่ ความหมายก็ชัดอยู่แล้ว วลีนี้ทำให้คิดถึง 1 คร 11:24 ที่ว่า “นี่คือกายของเรา เพื่อท่านทั้งหลาย” (เทียบ ลก 22:19) เป็นการกล่าวถึงพระทรมาน

p พระเยซูเจ้าทรงเป็นปังแท้ เพราะเป็นพระวจนาตถ์ของพระเจ้า (ข้อ 32ฯ) และเพราะทรงเป็นเครื่องบูชา พระกายและพระโลหิตถูกถวายเป็นบูชาให้โลกมีชีวิต (ข้อ 51-58 เทียบ ข้อ 22 เชิงอรรถ d) คำว่า เนื้อ ทำให้เราเห็นความสัมพันธ์ระหว่างศีลมหาสนิทและการบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระวจนาตถ์ “พระวจนาตถ์ผู้ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ (1:4 เชิงอรรถ l) เป็นอาหารแท้

q การดำรงอยู่ใน เป็นวลีจำเพาะของพระวรสารฉบับนี้ หมายถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิด แต่ความใกล้ชิดนี้จะมากหรือน้อย ก็ขึ้นกับธรรมชาติของบุคคลหรือสิ่งที่กำลังกล่าวถึง แต่ฝ่ายหนึ่งจะต้องใหญ่กว่าอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึงพระบุคคลของพระเจ้า เป็นที่น่าสังเกต แม้ในกรณีที่ความสัมพันธ์สลับกันได้ เช่นในกรณีนี้ (10:38; 14:10, 20; 15:4-7; 17:21-23; 1 ยน 2:24; 3:24; 4:12-16)

r ชีวิตซึ่งพระบิดาทรงถ่ายทอดให้กับพระบุตร ก็ถ่ายทอดต่อมายังผู้มีความเชื่อโดยทางศีลมหาสนิท

s สำเนาโบราณบางฉบับเสริมว่า มานนา หรือ ในถิ่นทุรกันดาร

t ข้อ 63 แปลตามตัวอักษรว่า จิตเป็นผู้ให้ชีวิต เนื้อหนังไม่มีประโยชน์อะไร วาจาที่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลาย เป็นจิตและชีวิต” “จิต เนื้อหนัง เป็นสำนวนเซมิติก หมายถึง สองสิ่งที่ตรงกันข้าม จิต หมายถึง พลังอำนาจของพระเจ้า (“พระจิตเจ้า) ส่วน เนื้อหนัง หมายถึง มนุษย์ในฐานะที่มีธรรมชาติอ่อนแอ พระวาจาของพระเยซูเจ้าเรื่องปังจากสวรรค์เปิดเผยให้เราทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้า ซึ่งพระจิตเจ้าเท่านั้น (ดู 1:33 เชิงอรรถ x) สามารถช่วยเราให้เข้าใจได้ (ดู 14:26 เชิงอรรถ r) และความเข้าใจนี้เป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตสำหรับมนุษย์ทุกคน

u ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า หมายถึง พระเมสสิยาห์ ผู้แทนของพระเจ้าที่พระองค์ทรงเลือกสรร ทรงเจิม และโปรดให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์อย่างพิเศษ (เทียบ 10:36; 17:19) สำเนาโบราณบางฉบับว่า พระองค์เป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า หรือ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต (เทียบ มธ 16:16)

พระวาจาประจำวัน

พระวาจาวันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2024
วันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 9:31-42) ขณะนั้น พระศาสนจักรมีสันติภาพทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลีและสะมาเรีย พระศาสนจักรเติบโตขึ้น มีความเคารพยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า และได้รับกำลังใจจากพระจิตเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อเปโตรเดินทางไปเยี่ยมผู้มีความเชื่อในที่ต่างๆ เขาไปเยี่ยมบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในเมืองลิดดาด้วย ที่นั่นเขาพบชายคนหนึ่งชื่อไอเนอัส เป็นอัมพาตนอนอยู่บนแคร่มาแปดปีแล้ว เปโตรจึงพูดกับเขาว่า “ไอเนอัสเอ๋ย พระเยซูคริสตเจ้าทรงรักษาท่านให้หาย จงลุกขึ้นและเก็บที่นอนเถิด” เขาก็ลุกขึ้นทันที...
วันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 9:1-20)...
วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 8:26-40)...
วันพุธที่ 17 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 7:51-8:1ก)...

ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)
การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)+++++++++++วันที่ 14 มีนาคม 2024 7 โมงเช้าวันนี้ ซิสเตอร์...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)
การประชุม CBF -SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)13 มีนาคม 2024 + 9...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)อังคารที่ 12 มีนาคม เริ่มเช้าวันใหม่...
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง++++++++++11 มีนาคม 2024 อาร์คบิชอป ไซม่อน โป แห่งอัครสังฆมณฑล คูชิง...
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย ครั้งที่ 1 /2024
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) สมัยสามัญ ครั้งที่ 1 /2024 วันจันทร์ที่ 4...
โครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ ร่วมกับ แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจัดโครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์ "ผู้หว่าน" รุ่นที่ 8 วันพุธที่...

"ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย"

“พระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว” (1)
“พระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว” 88. พระคูหาว่างเปล่า ข่าวดีจากทูตสวรรค์ (มก 16:1-8) 161เมื่อวันสับบาโตล่วงไปแล้ว...
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” (2)
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” 87. การฝังพระศพของพระเยซูเจ้า (2) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พระธรรมล้ำลึกยิ่งใหญ่แห่งความเชื่อคือ การที่พระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์...
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” (1)
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” 87. การฝังพระศพของพระเยซูเจ้า (มก 15:42-47) 1542วันนั้นเป็นวันเตรียม คือวันก่อนวันสับบาโต 43ครั้นถึงเวลาเย็น โยเซฟชาวอาริมาเธียซึ่งเป็นสมาชิกน่านับถือคนหนึ่งของสภาซันเฮดรินและกำลังรอคอยพระอาณาจักรของพระเจ้า...
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ” (2)
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ” 86. กลุ่มสตรีที่เนินกัลวารีโอ (2) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ในสตรีเหล่านี้ เราเห็นความรักมั่นคง ความซื่อสัตย์...

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

บทสวดของฉัน บทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก

สมณลิขิตVerbum Domini

สมณลิขิตเตือน Verbum Domini ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 1

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

E-book เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

บทสวดของฉัน

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ศิลปะเพื่อพระเจ้า Art for God

ศิลปะเพื่อพระเจ้า โดย ศรินทร เมธีวัชรานนท์