"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)
วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2025
น.บรูโน พระสงฆ์
บทอ่านจากหนังสือประกาศกโยนาห์ (ยนา 1:1-2:2, 11)
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยนาห์ บุตรของอามิททัยว่า “จงลุกขึ้นไปยังกรุงนีนะเวห์นครใหญ่ และประกาศแก่เมืองนั้นว่าความชั่วของเขาขึ้นมาถึงเรา” แต่โยนาห์ลุกขึ้นหนีจากพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้าไปยังเมืองทารชิช เขาลงไปถึงเมืองยัฟฟา และพบเรือลำหนึ่งกำลังไปเมืองทารชิช เขาจึงชำระค่าโดยสาร และลงเรือเดินทางพร้อมกับคนอื่นไปยังเมืองทารชิชให้พ้นจากพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า
แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งลมแรงเหนือทะเลจนเกิดพายุใหญ่ในทะเล จนน่ากลัวว่าเรือจะอับปาง บรรดาลูกเรือมีความกลัว ต่างร้องหาเทพเจ้าของตน และโยนข้าวของในเรือลงทะเล เพื่อให้เรือเบาขึ้น ส่วนโยนาห์ลงไปใต้ท้องเรือ นอนลงและหลับสนิท นายเรือมาหาเขา พูดว่า “อะไรกัน ท่านยังนอนหลับได้หรือ จงลุกขึ้น เรียกพระเจ้าของท่าน บางทีพระองค์จะทรงคิดถึงพวกเราบ้าง เราจะได้ไม่ต้องพินาศ” แล้วทุกคนพูดกันว่า “มาเถอะ เราจงจับฉลากกัน เพื่อจะรู้ว่า ใครเป็นเหตุทำให้ภัยนี้เกิดแก่เรา” เขาจึงจับฉลาก ฉลากก็ตกแก่โยนาห์ เขาเหล่านั้นจึงถามโยนาห์ว่า “บอกเราซิว่า ทำไมท่านจึงเป็นเหตุให้ภัยนี้เกิดแก่เรา ท่านทำอาชีพอะไร ท่านมาจากไหน แผ่นดินของท่านอยู่ที่ไหน ท่านเป็นชนชาติใด” เขาจึงตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวฮีบรู ข้าพเจ้านมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของสวรรค์ผู้ทรงสร้างทะเลและแผ่นดินแห้ง” คนเหล่านั้นมีความกลัวมาก ถามเขาว่า “ทำไมท่านจึงทำเช่นนี้” เพราะคนเหล่านั้นรู้แล้วว่าโยนาห์กำลังหนีจากพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเขาได้บอกแล้ว
บรรดาลูกเรือจึงถามเขาว่า “เราจะต้องทำอย่างไรกับท่าน เพื่อทะเลจะได้สงบลงสำหรับเรา” เพราะทะเลยิ่งปั่นป่วนมากขึ้น โยนาห์จึงตอบว่า “จงจับข้าพเจ้าโยนลงไปในทะเล ทะเลก็จะสงบลงสำหรับท่าน เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าเป็นความผิดของข้าพเจ้าที่พายุใหญ่เกิดขึ้นแก่ท่านเช่นนี้” พวกลูกเรือพยายามแจวเรืออย่างสุดกำลังเพื่อนำเรือกลับเข้าฝั่งแต่ไม่สำเร็จ เพราะทะเลยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นต้านเขา เขาทั้งหลายจึงร้องหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พูดว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ได้ทรงโปรดเถิด ข้าพเจ้าทั้งหลายวอนขอพระองค์อย่าทรงปล่อยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องพินาศเพราะชีวิตของชายผู้นี้เลย อย่าให้ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องรับผิดชอบความตายของผู้บริสุทธิ์ เพราะพระองค์ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ได้ทรงทำตามที่พอพระทัย” เขาทั้งหลายจึงจับโยนาห์โยนลงไปในทะเล ความปั่นป่วนของทะเลก็สงบลง คนเหล่านั้นมีความกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งนัก เขาจึงถวายบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและบนบานต่อพระองค์
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดให้ปลาใหญ่ตัวหนึ่งกลืนโยนาห์เข้าไป โยนาห์อยู่ในท้องปลาเป็นเวลาสามวันสามคืน จากท้องปลา โยนาห์อธิษฐานภาวนาต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งปลาให้สำรอกโยนาห์ออกไว้บนแผ่นดินแห้ง
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:25-37)
เวลานั้น นักกฎหมายคนหนึ่งยืนขึ้นทูลถามเพื่อจะจับผิดพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” เขาทูลตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้ แล้วจะได้ชีวิต”
ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้อง จึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า
“ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่ง เดินทางผ่านมาใกล้ ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตน พาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา วันรุ่งขึ้น ชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า ‘ช่วยดูแลเขาด้วยเงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา’
ท่านคิดว่าในสามคนนี้ ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น” เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”
วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
บทอ่านจากหนังสือประกาศกฮาบากุก (ฮบก 1:2-3; 2:2-4)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะต้องร้องขอความช่วยเหลือนานสักเท่าใด พระองค์จึงจะทรงฟัง ข้าพเจ้าจะร้องเสียงดังทูลพระองค์ว่า “ทารุณ” พระองค์ก็ไม่ทรงช่วยให้รอดพ้น ทำไมพระองค์ทรงให้ข้าพเจ้าเห็นการทำผิด และทรงนิ่งมองดูการกดขี่ข่มเหง ทั้งการปล้นสะดมและการใช้ความรุนแรงอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า การทะเลาะวิวาทและแตกสามัคคีมีเพิ่มขึ้น
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบข้าพเจ้าว่า “จงเขียนนิมิตและสลักไว้ให้ชัดเจนบนแผ่นกระดาน เพื่อให้อ่านได้ง่าย ยังไม่ถึงเวลาที่นิมิตนี้จะเป็นจริง แต่จะเป็นจริงในไม่ช้าตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน แม้นิมิตนี้จะล่าช้าไปบ้าง ก็จงคอยสักระยะหนึ่ง นิมิตนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนโดยไม่ชักช้า ดูซิ ผู้มีจิตใจไม่ซื่อตรงก็จะล้มลง แต่ผู้ชอบธรรมจะมีชีวิตเพราะความซื่อสัตย์”
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงทิโมธี ฉบับที่สอง (2 ทธ 1:6-8, 13-14)
ลูกที่รักยิ่ง ข้าพเจ้าจึงเตือนความจำของท่าน เพื่อให้พระพรพิเศษของพระเจ้า เป็นไฟที่รุ่งโรจน์ขึ้นอีก ท่านได้รับพระพรนี้โดยการปกมือของข้าพเจ้า พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่บันดาลความขลาดกลัว แต่ประทานจิตที่บันดาลความเข้มแข็ง ความรักและการควบคุมตนเองแก่เรา
ดังนั้น ท่านอย่าอายที่จะเป็นพยานถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา หรืออายที่ข้าพเจ้าต้องถูกจองจำเพราะพระองค์ แต่จงเข้ามามีส่วนร่วมทนทุกข์ทรมานกับข้าพเจ้าเพื่อข่าวดีโดยพระอานุภาพของพระเจ้า
จงยึดถือคำสอนที่ถูกต้อง ซึ่งท่านได้ยินมาจากข้าพเจ้าไว้เป็นแบบอย่าง ด้วยความเชื่อและความรักในพระคริสตเยซู จงรักษาของมีค่าที่ได้รับมอบไว้ เดชะพระจิตเจ้าผู้สถิตอยู่ในเรา
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 17:5-10)
เวลานั้น บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด”
องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า “ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า ‘จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด’ ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า ‘เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด’ แต่จะพูดมิใช่หรือว่า ‘จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้น เจ้าจึงกินและดื่ม’ นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ
ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกันเมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า ‘ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น’ ”
วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2025
ระลึกถึง น.ฟรังซิส ชาวอัสซีซี
บทอ่านจากหนังสือประกาศกบารุค (บรค 4:5-12, 27-29)
ประชากรของข้าพเจ้าเอ๋ย จงทำใจดีๆ ไว้ ท่านทั้งหลายซึ่งทำให้ทุกคนยังคงระลึกถึงอิสราเอล พระเจ้าทรงขายท่านทั้งหลายให้แก่ชนต่างชาติ มิใช่เพื่อให้ท่านต้องพินาศ แต่พระองค์ทรงมอบท่านให้ศัตรู เพราะท่านทำให้พระองค์กริ้ว ท่านถวายบูชาแก่ปีศาจ ไม่ใช่ถวายแด่พระเจ้า ท่านจึงทำให้พระผู้สร้างทรงพิโรธ ท่านลืมพระเจ้านิรันดรผู้ประทานอาหารแก่ท่าน ท่านทำให้กรุงเยรูซาเล็มที่เลี้ยงดูท่านต้องโศกเศร้า นครนี้จึงเห็นพระพิโรธจากพระเจ้าลงมาเหนือท่าน และพูดว่า “บรรดาเมืองรอบๆ ศิโยนเอ๋ย จงฟังเถิด พระเจ้าทรงส่งความทุกข์ยิ่งใหญ่ให้ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้เห็นพระเจ้านิรันดร
ทรงนำบุตรชายหญิงของข้าพเจ้าไปเป็นเชลย ข้าพเจ้าเคยเลี้ยงดูเขามาด้วยความยินดี แต่ต้องร้องไห้เป็นทุกข์เมื่อเขาต้องจากไป อย่าให้ผู้ใดยินดีเมื่อเห็นข้าพเจ้าต้องเป็นม่าย ถูกทุกคนทอดทิ้ง
ข้าพเจ้าต้องอยู่โดดเดี่ยวเพราะบาปของบรรดาบุตร ที่หันหลังให้ธรรมบัญญัติของพระเจ้า
ลูกเอ๋ย จงทำใจให้ดี จงร้องหาพระเจ้าเถิด เพราะพระองค์ผู้ทรงทดลองท่านจะทรงระลึกถึงท่าน ใจของท่านเคยออกห่างจากพระเจ้าฉันใด จงกลับมาแสวงหาพระองค์เป็นสิบเท่าฉันนั้นเถิด เพราะพระองค์ผู้ทรงนำความชั่วร้ายมาเหนือท่าน จะประทานความรอดพ้นและความยินดีแก่ท่านตลอดไป”
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:17-24)
เวลานั้น ศิษย์ทั้งเจ็ดสิบสองคนกลับมาด้วยความชื่นชมยินดี ทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า แม้แต่ปีศาจก็ยังอ่อนน้อมต่อเรา เดชะพระนามของพระองค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ จงฟังเถิด เราให้อำนาจแก่ท่านที่จะเหยียบงูและแมงป่อง มีอำนาจเหนือกำลังทุกอย่างของศัตรู ไม่มีอะไรจะทำร้ายท่านได้ อย่าชื่นชมยินดีที่ปีศาจอ่อนน้อมต่อท่าน แต่จงชื่นชมยินดีมากกว่าที่ชื่อของท่านจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว”
ในเวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงปลาบปลื้มพระทัย เดชะพระจิตเจ้าตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ ที่พระองค์ทรงปิดบังเรื่องเหล่านี้จากบรรดาผู้ปรีชาและรอบรู้ แต่ทรงเปิดเผยแก่บรรดาผู้ต้ำต้อย ถูกแล้วพระบิดาเจ้าข้า พระองค์พอพระทัยเช่นนั้น พระบิดาทรงมอบทุกสิ่งแก่ข้าพเจ้า ไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรเป็นใครนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาเป็นใคร นอกจากพระบุตรและผู้ที่พระบุตรทรงเปิดเผยให้รู้”
แล้วพระองค์ทรงหันพระพักตร์ไปยังบรรดาศิษย์ ตรัสกับเขาโดยเฉพาะ “นัยน์ตาของท่านเป็นสุขที่มองเห็นสิ่งต่างๆ ที่ท่านเห็น เราบอกท่านทั้งหลายว่า ประกาศกและกษัตริย์จำนวนมากปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านได้เห็น แต่ก็ไม่ได้เห็น ปรารถนาจะได้ฟังสิ่งที่ท่านได้ฟัง แต่ก็ไม่ได้ฟัง”
วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2025
สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา
บทอ่านจากหนังสือประกาศกบารุค (บรค 1:15-22)
ท่านทั้งหลายต้องอธิษฐานภาวนาดังนี้ “องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงความเที่ยงธรรม ส่วนเราต้องอับอายดังที่เห็นได้ในวันนี้ ชาวยูดาห์และ
ชาวกรุงเยรูซาเล็มก็ต้องอับอาย รวมทั้งบรรดากษัตริย์ บรรดาผู้ปกครอง บรรดาสมณะ บรรดาประกาศกและบรรพบุรุษของเราด้วย เพราะเราได้ทำบาปผิดต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่เชื่อฟังพระองค์ ไม่ฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา และไม่เดินตามบทบัญญัติที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เรา ตั้งแต่วันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำบรรพบุรุษของเราออกจากแผ่นดินอียิปต์จนถึงทุกวันนี้ เราไม่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา เราละเลย ไม่ยอมฟังพระสุรเสียงของพระองค์ เหตุร้ายและคำสาปแช่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสำทับไว้กับโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ เมื่อทรงนำบรรพบุรุษของเราออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อประทานแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลอย่างบริบูรณ์ ยังคงติดตามเรามาจนถึงทุกวันนี้ เราทั้งหลายไม่ฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ซึ่งตรัสไว้โดยทางประกาศกที่ทรงส่งมาพบเรา เราแต่ละคนกลับทำตามความคิดจากใจชั่วร้ายของเรา ไปนับถือเทพเจ้าอื่นๆ และทำความชั่วเฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา”
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:13-16)
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วิบัติจงเกิดแก่เจ้า เมืองโคราซิน วิบัติจงเกิดแก่เจ้าเมืองเบธไซดา ถ้าอัศจรรย์ที่ได้เกิดขึ้นในเจ้าได้เกิดขึ้นที่เมืองไทระและเมืองไซดอนแล้ว เขาเหล่านั้นคงได้นุ่งกระสอบนั่งบนกองขี้เถ้ากลับใจเสียนานแล้ว ฉะนั้น เมืองไทระและเมืองไซดอนจะรับโทษเบากว่าเจ้าในวันพิพากษา ส่วนเจ้าเมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะยกตนขึ้นถึงฟ้าเทียวหรือ เจ้าจะตกลงไปถึงแดนผู้ตาย
ผู้ใดฟังท่าน ผู้นั้นฟังเรา ผู้ใดสบประมาทท่าน ผู้นั้นสบประมาทเรา ผู้ที่สบประมาทเรา ก็สบประมาทผู้ที่ทรงส่งเรามา”
วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2025
ระลึกถึงทูตสวรรค์ผู้อารักขา
บทอ่านจากหนังสืออพยพ (อพย 23:20-23ก)
พระเจ้าตรัสดังนี้
“เราจะส่งทูตสวรรค์ไปข้างหน้าท่าน เพื่อป้องกันท่านตามทาง และนำท่านไปถึงสถานที่ที่เราจัดเตรียมไว้ จงเคารพเชื่อฟังถ้อยคำของทูตสวรรค์นั้น อย่าต่อต้าน เพราะเขาทำไปในนามของเรา และจะไม่ยอมอภัยความผิดของท่านเลย แต่ถ้าท่านเชื่อฟังเขาและทำตามที่เราสั่งทุกประการ เราจะเป็นศัตรูกับศัตรูของท่าน เป็นปฏิปักษ์กับปฏิปักษ์ของท่าน ทูตสวรรค์ของเราจะเดินข้างหน้าและนำท่าน”
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 18:1-5, 10)
เวลานั้น บรรดาศิษย์เข้ามาเฝ้าพระเยซูเจ้า ทูลถามว่า “ผู้ใดยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์” พระเยซูเจ้าทรงเรียกเด็กเล็กๆ คนหนึ่งให้มายืนอยู่กลางกลุ่มพวกเขา แล้วตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ผู้ใดที่ถ่อมตนลงเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ คนนี้ ผู้นั้นจะยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์
ผู้ใดต้อนรับเด็กเล็กๆ เช่นนี้ในนามของเรา ผู้นั้นต้อนรับเรา
จงระวังให้ดี อย่าดูหมิ่นคนธรรมดาๆ เหล่านี้คนใดเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ตลอดเวลาในสวรรค์ ทูตสวรรค์ของเขาเฝ้าชมพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์”
วันพุธที่ 1 ตุลาคม 2025
ฉลองนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู พรหมจารี
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ (อสย 66:10-14)
ท่านทั้งหลายจงยินดีกับกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายที่รักกรุงเยรูซาเล็ม จงชื่นชมกับกรุงนี้เถิด ท่านทั้งหลายที่เคยไว้ทุกข์ให้กรุงเยรูซาเล็ม จงร่วมยินดีกับกรุงนี้ด้วยความชื่นบานเถิด ท่านจะได้รับการปลอบโยนอย่างเต็มเปี่ยมจากกรุงเยรูซาเล็ม ทารกมีความยินดีเมื่อดูดนมจากทรวงอกของมารดาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะมีความยินดีจากความอุดมสมบูรณ์ของกรุงนี้ฉันนั้น
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า
"ดูซิ เราจะบันดาลให้สันติสุขหลั่งไหลมาสู่กรุงนี้เหมือนแม่น้ำ จะนำความมั่งคั่งของนานาชาติมายังกรุงนี้เหมือนลำน้ำที่กำลังล้นฝั่ง กรุงนี้จะอุ้มท่านทั้งหลายไว้ และหยอกล้อท่านบนตัก มารดาปลอบโยนบุตรฉันใด เราก็จะปลอบโยนท่านทั้งหลายฉันนั้น” ท่านจะได้รับการปลอบโยนในกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายจะเห็น และใจของท่านจะโลดเต้นยินดี กระดูกของท่านจะสดชื่นขึ้นเหมือนหญ้าอ่อน และพระหัตถ์ของพระเจ้าจะเป็นที่รู้จักแก่ผู้รับใช้ของพระองค์
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว (มธ 18:1-5)
เวลานั้น บรรดาศิษย์เข้ามาเฝ้าพระเยซูเจ้า ทูลถามว่า “ผู้ใดยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์” พระเยซูเจ้าทรงเรียกเด็กเล็กๆ คนหนึ่งให้มายืนอยู่กลางกลุ่มพวกเขา แล้วตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย เพราะฉะนผั้นู้ใ ดที่ถ่อมตนลงเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ คนนี้ ผู้นั้นจะยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์
ผู้ใดต้อนรับเด็กเล็กๆ เช่นนี้ในนามของเรา ผู้นั้นต้อนรับเรา”
ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล
หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ
หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ
หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2
หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2
หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์
หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส
หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์
หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์
122/11 Soi Naksuwan, Nonsi Road, Yannawa, Bangkok 10120,Thailand
Tel 0-2681-3900 Ext. 1315 Fax 0-2681-5369-70