"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

เหตุการณ์ในแคว้นลิคาโอเนีย เปาโลรับทิโมธีเป็นผู้ร่วมงาน

16 1เปาโลเดินทางมาถึงเมืองเดอร์บีและเมืองลิสตรา ที่เมืองนี้ศิษย์คนหนึ่งชื่อทิโมธีa มารดาของเขาเป็นคริสตชนชาวยิว แต่บิดาเป็นชาวกรีก 2เขาเป็นที่นับถือของบรรดาพี่น้องคริสตชนที่เมืองลิสตราและเมืองอิโคนิยุม 3เปาโลต้องการให้เขาร่วมเดินทางไปด้วย จึงให้เขาเข้าสุหนัตb เพื่อเอาใจบรรดาชาวยิวที่อยู่ในที่ต่างๆ แถบนั้น เพราะทุกคนรู้ว่า บิดาของเขาเป็นชาวกรีก 4เมื่อคณะของเปาโลผ่านไปตามเมืองต่างๆ ก็แจ้งให้บรรดาคริสตชนรู้ข้อกำหนดที่บรรดาอัครสาวกและผู้อาวุโสตกลงกันที่กรุงเยรูซาเล็ม เตือนเขาให้ปฏิบัติตามc 5บรรดากลุ่มคริสตชนจึงมีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้นและมีจำนวนคริสตชนเพิ่มขึ้นทุกวัน

เปาโลเดินทางข้ามเอเชียน้อย

6พระจิตเจ้าทรงห้ามคณะของเปาโลประกาศพระวาจาในแคว้นอาเซีย เขาจึงเดินทางผ่านแคว้นฟรีเจียและแคว้นกาลาเทียd 7มาถึงแคว้นมิเซีย เขาพยายามเข้าไปในแคว้นบิธีเนีย แต่พระจิตของพระเยซูเจ้าeไม่ทรงอนุญาตให้เข้าไป 8เขาจึงเดินทางผ่านแคว้นมิเซียfไปถึงเมืองโตรอัส 9เวลากลางคืนเปาโลเห็นนิมิต ชาวมาซิโดเนียคนหนึ่งยืนอยู่ อ้อนวอนเปาโลว่า “โปรดข้ามมาในแคว้นมาซิโดเนียและช่วยพวกเราด้วยเถิด” 10เมื่อเปาโลเห็นนิมิตนี้แล้ว พวกเราgก็หาโอกาสที่จะไปยังแคว้นมาซิโดเนียทันที เพราะเชื่อแน่ว่าพระเจ้าทรงเรียกเราให้ไปประกาศข่าวดีแก่ชาวแคว้นนั้นด้วย

เปาโลมาถึงเมืองฟีลิปปี

11พวกเราแล่นเรือออกจากเมืองโตรอัส มุ่งไปยังเกาะซาโมธรัส วันรุ่งขึ้นก็เดินทางต่อไปถึงเมืองเนอาบุรี 12จากเมืองนี้เราเดินทางไปถึงเมืองฟีลิปปี อาณานิคมของชาวโรมัน เป็นเมืองเอกของแคว้นมาซิโดเนียh เราพักอยู่ที่เมืองนี้หลายวัน

13วันสับบาโตวันหนึ่ง เราออกนอกประตูเมืองไปยังริมลำธาร เพราะคิดว่าที่นั่นเป็นสถานที่สำหรับอธิษฐานภาวนาi เรานั่งพูดคุยกับบรรดาสตรีที่มาชุมนุมกันอยู่ที่นั่น 14สตรีคนหนึ่งชื่อลิเดีย มาจากเมืองธิอาทิรา เป็นคนขายผ้ากำมะหยี่สีม่วงแดง เป็นคนเลื่อมใสในพระเจ้าฟังเราอยู่ องค์พระผู้เป็นเจ้าเปิดใจนางให้ยอมรับถ้อยคำของเปาโล 15นางและทุกคนในครอบครัวรับศีลล้างบาปj แล้วจึงเชิญเรา พูดว่า “ถ้าท่านคิดว่าดิฉันเป็นผู้มีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว จงมาพักที่บ้านของดิฉันเถิด” นางเชิญชวนจนเราปฏิเสธไม่ได้k

เปาโลและสิลาสถูกจองจำ

16วันหนึ่ง ขณะที่เรากำลังเดินไปยังสถานที่อธิษฐานภาวนา ทาสหญิงคนหนึ่งมาพบเรา นางเป็นคนทรงl ทำนายอนาคตได้ ทำให้นายของนางมีรายได้มากจากการทำนาย 17ทาสหญิงคนนี้ติดตามเปาโลและพวกเราพลางตะโกนว่า “คนเหล่านี้เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าผู้สูงสุด กำลังประกาศหนทางแห่งความรอดพ้นให้ท่านทั้งหลาย” 18นางทำเช่นนี้หลายวัน จนเปาโลรำคาญ จึงหันมาสั่งจิตที่เข้าทรงนั้นว่า “เดชะพระนามพระเยซูคริสตเจ้า ข้าพเจ้าสั่งเจ้าให้ออกไปจากนาง” ทันใดนั้น จิตก็ออกไป

19เมื่อนายของทาสหญิงนั้นเห็นว่าหมดโอกาสที่จะมีรายได้แล้ว จึงจับกุมเปาโลและสิลาส นำตัวไปขึ้นศาลต่อหน้าผู้ปกครอง 20เขานำเปาโลและสิลาสไปอยู่ต่อหน้าผู้พิพากษาพูดว่า “คนเหล่านี้ก่อความวุ่นวายในเมืองของเรา เขาเป็นชาวยิว 21เทศน์สอนขนบธรรมเนียมซึ่งเราชาวโรมันไม่รับและไม่ปฏิบัติตามเพราะผิดกฎหมาย”m

22ประชาชนกลุ้มรุมกันจะทำร้ายเปาโลและสิลาส บรรดาผู้พิพากษาจึงสั่งให้เปลื้องเสื้อผ้าและเฆี่ยนเขาทั้งสองคน 23เมื่อได้เฆี่ยนหลายทีแล้ว ก็นำไปขังคุก สั่งให้ผู้คุมควบคุมไว้อย่างเข้มงวด 24เมื่อได้รับคำสั่งเช่นนี้ ผู้คุมก็นำเปาโลและสิลาสไปขังไว้ในคุกชั้นในสุด และใส่โซ่ตรวนที่เท้าอย่างแน่นหนา

พระเจ้าทรงช่วยเปาโลและสิลาสให้เป็นอิสระ

25เวลาประมาณเที่ยงคืน เปาโลและสิลาสกำลังอธิษฐานภาวนาและขับร้องสรรเสริญพระเจ้า นักโทษคนอื่นกำลังฟังอยู่ 26ทันใดนั้น เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง จนฐานคุกสั่นสะเทือน ประตูคุกทุกบานเปิดออกทันที โซ่ตรวนของผู้ถูกจองจำทุกคนก็หลุด 27ผู้คุมตื่นขึ้น เห็นว่าประตูคุกเปิด จึงชักดาบจะฆ่าตัวตาย เพราะคิดว่าบรรดาผู้ถูกจองจำหนีไปหมดแล้ว 28แต่เปาโลร้องตะโกนว่า “อย่าทำร้ายตนเองเลย พวกเรายังอยู่ที่นี่กันทุกคน”

29ผู้คุมสั่งให้จุดตะเกียง กระโดดเข้าไปในคุก ตัวสั่นn กราบลงแทบเท้าของเปาโลและสิลาส 30พาคนทั้งสองออกมาข้างนอกพูดว่า “ท่านขอรับ ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไรจึงจะรอดพ้น”

31เปาโลและสิลาสตอบว่า “จงเชื่อพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด ท่านและครอบครัวจะได้รอดพ้น” 32ทั้งสองคนประกาศพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าoให้ผู้คุมและทุกคนในครอบครัวฟัง 33เวลาดึกคืนนั้น ผู้คุมพาเขาทั้งสองคนแยกไปล้างแผล ทันทีหลังจากนั้น เขาได้รับศีลล้างบาปพร้อมกับทุกคนในครอบครัว 34เขาเชิญทั้งสองคนขึ้นไปบนบ้าน จัดโต๊ะเลี้ยงอาหาร และมีความยินดีพร้อมกันทั้งครอบครัวที่ได้มีความเชื่อในพระเจ้า

35วันรุ่งขึ้น บรรดาผู้พิพากษาส่งเจ้าหน้าที่ไปพบผู้คุม สั่งว่า “จงปล่อยคนเหล่านั้นให้เป็นอิสระ”p 36ผู้คุมจึงแจ้งข่าวนี้แก่เปาโลว่า “ผู้พิพากษาสั่งให้ปล่อยท่านทั้งสองคนเป็นอิสระแล้ว บัดนี้จงออกไปเป็นสุขเถิด”q

37เปาโลกล่าวแก่ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ว่า “เขาสั่งให้เฆี่ยนเราทั้งสองคนต่อหน้าสาธารณชนโดยมิได้พิจารณาคดี แล้วยังจองจำเราในคุกอีกด้วย เราเป็นพลเมืองโรมันr บัดนี้เขาไล่เราออกไปอย่างเงียบๆ หรือ เราไม่ยอมหรอก เขาต้องมาด้วยตนเอง เพื่อพาเราทั้งสองคนออกจากที่นี่ 38เจ้าหน้าที่จึงรายงานเรื่องนี้แก่ผู้พิพากษา เมื่อได้ยินว่าเปาโลและสิลาสเป็นพลเมืองโรมัน ผู้พิพากษาก็ตกใจ 39จึงมาขอโทษ แล้วพาทั้งสองคนออกจากคุก ขอร้องให้ออกไปจากเมืองs 40เปาโลและสิลาสออกจากคุกแล้ว ก็เข้าไปที่บ้านของนางลิเดีย พบบรรดาพี่น้องคริสตชน ให้กำลังใจพวกเขา แล้วจากไป

 

16 a ทิโมธีจะเป็นเพื่อนร่วมงานถาวรของเปาโล (ดู 17:14ฯ; 18:5; 19:22; 20:4; รม 16:21; 1 คร 4:17; 16:10; 2 คร 1:19; 1 ธส 3:2, 6) 1 ทธ และ 2 ทธ เป็น “จดหมายเกี่ยวกับงานอภิบาล” ที่เปาโลเขียนถึงเขา

b เปาโลต่อต้านการบังคับให้คนต่างศาสนาที่กลับใจเข้าพิธีสุหนัต (กท 2:3; 5:1-12) แต่ทิโมธีมีมารดาเป็นชาวยิว ดังนั้นเขาจึงเป็นชาวยิวตามนิตินัย

c ข้อสังเกตของ ลก นี้ สอดคล้องกับข้อความในบทที่ 15 ซึ่งกล่าวถึงมติของการประชุมที่กรุงเยรูซาเล็มซึ่งเปโตรและเปาโลอยู่ในที่ประชุมด้วย (แต่ดู 15:1 เชิงอรรถ a)

d “กาลาเทีย” ในที่นี้หมายถึงแคว้นกาลาเทียดั้งเดิมทางเหนือ (ดู ความรู้เกี่ยวกับจดหมายของนักบุญเปาโล ข้อ 4.3) ดังนั้น เมื่อเปาโลออกจากเมืองอิโคนิยุมแล้ว เขาเดินทางมุ่งไปยังเมืองเอเฟซัสทางตะวันตก แต่พระจิตเจ้าทรงขัดขวางไว้ เขาจึงเปลี่ยนทิศทางไปทางเหนือเข้าแคว้นฟรีเจีย แล้วเดินทางต่อไปทางตะวันตกเฉียงเหนือยัง “แคว้นกาลาเทีย” ดั้งเดิม เปาโลได้พักอยู่ระยะหนึ่งที่นั่นเพราะป่วย (กท 4:13-15) ประกาศข่าวดีในที่ต่างๆ บริเวณนี้ และในภายหลังได้กลับมาเยี่ยมบรรดาศิษย์ที่นั่นอีกครั้งหนึ่ง (กจ 18:23)

e สำเนาโบราณบางฉบับละ “ของพระเยซูเจ้า”

f บางคนแปลว่า “เลียบแคว้นมิเซีย”

g น่าสังเกตว่าประธานของประโยคเปลี่ยนเป็นบุรุษที่หนึ่งพหูพจน์โดยกะทันหัน เป็นการเริ่มใช้เอกสารที่ผู้เขียนอยู่ในเหตุการณ์ (แต่ดู 11:27 เชิงอรรถ n) ในหนังสือ กจ 16:10-17 เป็นตอนแรกของข้อความเช่นนี้ และจะพบอีกในบทที่ 20:5-15 ดู “ความรู้เกี่ยวกับกิจการอัครสาวก” ด้วย )

h ฟีลิปปีเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในแคว้นมาซิโดเนีย ต่อมาได้เป็นอาณานิคมโรมัน ประชาชนส่วนใหญ่เป็นทหารผ่านศึกจากกองทัพโรมัน พูดภาษาละติน เมืองนี้จึงมีการปกครองตามรูปแบบของกรุงโรม

i ชาวยิวไม่มีศาลาธรรมในเมืองฟีลิปปี เขาจึงมาชุมนุมกันที่ริมห้วยเพื่อทำพิธีชำระล้างทางศาสนา

j การกลับใจของนางลิเดียได้ทำให้ทุกคนในครอบครัวของนางมีความเชื่อ (เทียบ 10:44; 16:31, 34; 18:8; 1 คร 1:16)

k โดยปกติเปาโลไม่ยอมพึ่งพาใคร (ดู 20:33-35; 1 คร 9; 1 ธส 2:9; 2 ธส 3:8) แม้ว่าในภายหลังจะยอมรับความช่วยเหลือจากชาวฟีลิปปีอีกครั้งหนึ่งด้วย (ดู ฟป 4:10-18) เขาจะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากใครอื่นเลย การที่เปาโลยอมไปพักอยู่ในบ้านของนางลิเดียและยอมรับความช่วยเหลือจากคริสตชนอื่นๆ ชาวฟีลิปปีจึงแสดงว่า เขาต้องการยกย่องความใจดีของนางลิเดียและของคริสตชนชาวฟีลิปปีเป็นพิเศษ

l “คนทรง” แปลตามตัวอักษรว่า “ผู้มีจิตของงูเหลือมพิโทน” เรียกเช่นนั้นตามชื่องูพิโทนซึ่งเฝ้าพระวิหารของเทพเจ้าที่เมืองเดลฟี พระวิหารที่นี่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณเพราะประชาชนนิยมไปเสี่ยงทายขอคำตอบจากเทพเจ้า

m ธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ที่ชาวฟีลิปปีอ้างถึงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวยิว (ดู 6:14; 15:1; 21:21; 26:3; 28:17; ยน 19:40) ผู้กล่าวหาไม่รู้จักแยกคริสตชนจากชาวยิว ข้อกล่าวหาในโอกาสนี้คือ ความผิดฐานชักชวนให้เปลี่ยนศาสนา แม้ว่าชาวยิวได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติศาสนกิจของตนได้ แต่ไม่มีสิทธิชักชวนชาวโรมันให้เปลี่ยนศาสนา ดังนั้น การเผยแผ่ศาสนาของคริสตชนจึงเป็นการผิดกฎหมายด้วย

n ผู้คุมมีความกลัวเพราะตระหนักว่าตนได้ปฏิบัติต่อเปาโลและสิลาสเหมือนเป็นนักโทษ ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนเป็นทูตของพระเจ้า

o สำเนาโบราณบางฉบับว่า “พระวาจาของพระเจ้า”

p สำเนาโบราณบางฉบับปรับปรุงข้อ 35 นี้ว่า “พอรุ่งเช้า บรรดาผู้พิพากษาได้ประชุมกันที่ศาล เมื่อระลึกได้ว่าได้เกิดแผ่นดินไหว เขามีความกลัวและส่งเจ้าหน้าที่ไปที่คุกบอกว่า ‘จงปล่อยคนที่ท่านได้จำจองไว้เมื่อวานนี้เถิด’”

q สำเนาโบราณบางฉบับละ “เป็นสุข”

r กฎหมายโรมันห้ามมิให้เฆี่ยนพลเมืองโรมันเป็นอันขาด ผู้ฝ่าฝืนต้องถูกลงโทษอย่างหนัก

s สำเนาโบราณบางฉบับว่า “(ผู้พิพากษา) ได้มาเชิญเขาทั้งสองคนให้ออกไปจากเมือง” (NJB) บางฉบับขยายความว่า “(ผู้พิพากษา) ไปที่คุกพร้อมกับมิตรสหายหลายคน เชิญเขาทั้งสองคนให้ออกไป พูดว่า “เราไม่รู้ว่าท่านต้องการอะไร และไม่รู้ว่าท่านเป็นผู้ชอบธรรม” ผู้พิพากษาจึงพาเขาทั้งสองคนออกมา และขอร้องว่า “จงออกไปจากเมืองนี้เถิด เพื่อมิให้คนที่ตะโกนต่อต้านท่าน รวบรวมประชาชนมาต่อต้านท่านอีก”

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก