"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2015
สัปดาห์ที่สิบแปด เทศกาลธรรมดา


มธ 14:13-21…

13เมื่อพระเยซูเจ้าทรงทราบข่าวนี้ ได้เสด็จออกจากที่นั่น ลงเรือไปยังที่สงัดตามลำพัง เมื่อประชาชนรู้ต่างก็เดินเท้า จากเมืองต่างๆ มาเฝ้าพระองค์ 14เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือ ทรงเห็นประชาชนจำนวนมากก็ทรงสงสาร และทรงรักษาผู้เจ็บป่วยให้หายจากโรค
15เมื่อถึงเวลาเย็น บรรดาศิษย์เข้ามาทูลพระองค์ว่า “สถานที่นี้เป็นที่เปลี่ยว และเป็นเวลาเย็นมากแล้ว ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนไปตามหมู่บ้านเพื่อซื้ออาหารเถิด”

16พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เขาไม่จำเป็นต้องไปจากที่นี่ ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” 17เขาทูลตอบว่า “ที่นี่เรามีขนมปังเพียงห้าก้อนกับปลาสองตัวเท่านั้น” 18พระองค์จึงตรัสว่า “เอามาให้เราที่นี่เถิด” 19พระองค์ทรงสั่งให้ประชาชนนั่งลงบนพื้นหญ้า ทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวขึ้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปังส่งให้บรรดาศิษย์ไปแจกแก่ประชาชน 20ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้ถึงสิบสองกระบุง 21จำนวนคนที่กินมีผู้ชายประมาณห้าพันคน ไม่นับผู้หญิงและเด็ก

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
 
• พี่น้องที่รัก อีกกี่ครั้งในชีวิตที่พ่อและพี่น้องที่รักต้องได้ฟังพระวรสารเรื่องการที่ พระเยซูเจ้าทรงทวีขนมปังเลี้ยงประชาชนห้าพันกคน หรือสี่พันคน พระวรสารให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเหลือเกิน มากจริงๆ พ่อก็อ่านมาหลายๆรอบ ฟังมามากมาย เขียนบทเทศน์ เทศน์ ตีความมาหลายรอบแล้ว... แล้วจะเทศน์อะไรอีกล่ะนี่ เรื่องเดิมเทศน์แบบเดิมๆอีกกระนั้นหรือ... แน่นอน เรื่องนี้ไม่เคยน่าเบื่อหรอกครับ พระวาจาของพระเจ้าก็มีพลังเสมอไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เรื่องนี้พ่อไม่สงสัยเพราะว่านี่คือพระวาจาของพระเจ้า นี่คือเรื่องเล่าที่ทำให้เราได้เห็นว่า

o พระเยซูเจ้าทรงห่วงประชาชน ทรงสงสารประชาชน 

o ทรงเป็นผู้เลี้ยงดูประชาชนผู้ติดตามพระองค์ เหมือนชุมพาบาล ให้แกะนอนลงบนหญ้าและมีความสุขอิ่มสบาย... สะท้อนเพลงสดุดีที่ 23 ที่กล่าวว่า “พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้า” ที่นี่ในพระวรสารพระองค์ก็ทวีขนมปังเลี้ยงเขา ให้เขานั่งบนหญ้า และทรง “เลี้ยงดูทุกคนจนอิ่ม” เช่นกัน และนี่คืออัศจรรย์แห่งความรัก การเลี้ยงดู ให้มีเหลือเฟือ และก็ไม่ได้ให้เสียไปเลย...

• แล้วอย่างไรต่อล่ะ สำหรับการฟังแต่ละครั้ง.. เอาอย่างไรดีครับ ถ้าไม่ให้พระวรสารตอนนี้บรรจุลงในหัวใจของเรา และที่สำคัญ ลงสู่การปฏิบัติของเรา “ลงสู่ภาคปฏิบัติ” (Put in Action) ถ้าไม่ลงสู่ภาคปฏิบัติ เราก็จะไตร่ตรองและล่องลอยกันอยู่เช่นนี้...เสมอๆ กระนั้นหรือ... ไม่ได้ครับต้องลงสู่ภาคปฏิบัติครับ ต้องนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมครับ... นี่พ่อนั่งเขียนบทเทศน์นี้ เริ่มเขียนในค่ำวันเสาร์เมื่อพ่อกลับมาจากไปหาพี่น้องและหลานนิดหน่อยครับ สิบกว่าคน นี่คือเรื่องจริงๆที่เกิดกับพ่อวันนี้ ประสบการณ์ของพ่อครับ

• วันนี้ไปรับประทานอาหารเวียตนามในร้านเรียบๆราคาไม่แพงเกิน เราไปกันสิบสามคน 

o พ่อไปเพื่อไปเจอพี่ๆ ไปเจอหลานๆ ตั้งแต่จาไม่อยู่ เราพบกันบ่อยขึ้นกว่าเดิม หลานๆ กำลังจะเข้าเรียนเปิดเทอมในมหาวิทยาลัย และเล็กๆ ก็เปิดเรียนแล้ว ครอบครัวพี่จากระยอง ครอบครัวพี่ๆที่นนท์วัดแม่พระมหาการุณย์ เราไปทานอาหารเวียตนามกันที่ปทุมธานี... 

o วันนี้พ่อน้าหรือพ่อน้องเป็นคนรับผิดชอบขอเป็นผู้เลี้ยงดูและจ่ายเงิน ปกติพี่ไม่มีวันยอมครับ พระสงฆ์ต้องไม่ใช่คนจ่ายเงินแน่นอน แต่พ่อเองชอบแบบนี้ วันนี้พ่อขอพี่ๆ ให้พ่อได้เป็นผู้พาไปเลี้ยง.. ที่สุดพวกเขายอมครับ ไม่ได้แพงเลย แต่มีความสุขจัง หลานๆ รับประทาน พี่ๆ รับประทานกัน 

o “พ่อเกียรติ” ที่ครอบครัวเรียก เป็นคนจ่ายเงิน พ่อพอจ่ายได้ครับ เราไม่ได้ไปร้านหรูหรา แต่มีความสุขที่ได้ร่วมโต๊ะกัน สิบกว่าคน พ่อรู้สึกว่า การที่เราได้เลี้ยงคนอื่น เราได้เตรียมอาหาร เราได้รับผิดชอบเลี้ยงดู “มีความสุขจริงๆนะครับ” พวกเขา เรียกพ่อว่า “พ่อ” หรือ “พ่อเกียรติ” พ่อ (Father) จะไม่เป็นผู้เลี้ยงดูได้อย่างไร.. มีความสุขครับ

• อีกประสบการณ์หนึ่ง 

o พ่อเคยไปทานข้าวกับเพื่อน อายุมากกว่าพ่อสักสิบปีนิดๆ เขาชอบเรียนพระคัมภีร์กับพ่อ เขาเชิญพ่อหลายครั้งไปทานข้าวกัน... ที่สุดพ่อไป เราไปทานกันสองคน เขาชอบเรียนพระคัมภีร์เป็นชีวิตใจ เขาหลงไหลและรักพระวาจามาก อยากพาพ่อไปเลี้ยงเหลือเกิน (จริงๆเขาจากไปแล้ว เพราะเขาเป็นโรคมะเร็งหลายปี แต่เข้มแข็งแบบยอดคน) เขาอยากใช้เวลาให้มากที่สุดเพื่อการเรียนพระคัมภีร์... 

o วันเป็นครั้งแรกที่เราไปทานอาหารกันสองคน เขาเป็นเหมือนเพื่อน เป็นเหมือนพี่ชายพ่อ และเป็นลูกศิษย์และเป็นลูก... เราไปทานไม่ไกลจากโรงพยาบาลจุฬา เพราะชีวิตเขาเข้าออกที่นั่นตลอด เมื่อรับประทานเราคุยกัน มีแต่เรื่องชีวิตคริสตชน พระวาจา เรารับประทานสิ่งที่เขาอยากเลี้ยงเหลือเกิน อาหารญี่ปุ่นบนโรงแรมแห่งหนึ่ง.. 

o เมื่อรับประทานเสร็จหลังจากสังสองชั่วโมง จริงๆ เราคุยกันมากกว่ารับประทาน พอมาถึงตอนจ่ายเงิน พ่อก็ขอเป็นผู้รับผิดชอบเลี้ยงเขา นายคนนี้ยากที่สุด ดื้อใช้ได้ และยอมไม่ได้เลย 

o เขายืนยัน “พ่อ.. พ่อเป็นพระสงฆ์ พ่อจะเลี้ยงผมได้อย่างไร???” เราเถียงกันเบาๆอยู่นาน “พ่อจ่ายได้ให้พ่อเลี้ยงเถอะ...” เราถกกันอยู่นานทีเดียว เขายืนยัน “พ่อ...ไม่นะ..เป็นไปไม่ได้ สัตบุรุษต้องเลี้ยงพระสงฆ์ครับ”

o ที่สุดพ่อก็ต้องมาถึงไม้ตายที่ต้องบอกเขา พ่อตั้งคำถาม... “เรียกพ่อว่าอะไร เรียกว่าพ่อใช่ไหม... ทำไมพ่อจะไม่เป็นผู้เลี้ยงดูลูก... (เขาเงียบ) พ่อเองก็ไม่มีครอบครัวเหมือนลูก ลูกมีครอบครัว และลูกก็กำลังหนักต้องใช้เงินรักษาตัวมากมายตลอดมา แล้วพ่อจะให้นายเลี้ยงพ่อได้อย่างไร??? พ่อไม่ได้รวย แต่พ่อพอมีที่จะให้ได้ พ่อขอละถ้าเรียกพ่อว่าพ่อให้พ่อจัดการเองนะ”... 

o พ่อจำได้ จำได้แม่ยำว่าที่สุดเขายอม ยอมแบบรับยาก ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น ดูมันผิดธรรมเนียมไปหรือเปล่า... ที่สุด พ่อสั่งเขาว่า “นั่งนิ่งๆพ่อจัดการเองนะลูก” .. พ่อก็จ่ายเงินไปในขณะที่เขาก็ยอมแบบที่เขายังคงดื้อขืนๆ แต่ที่สุด..เขาก็สงบเงียบ 

o เมื่อพ่อจ่ายเงินเสร็จ พ่อจำได้แม่ยำกว่าทุกสิ่ง.. เขาน้ำตาคลอ ร้องไห้น้ำตาคลอ ตาแดงเลย (ป่วยอยู่แล้วด้วยตายิ่งแดงใหญ่) เขาปรารภว่า “พ่อ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตคริสตชนของผมที่ทานข้าวกับพระสงฆ์แล้วคุณพ่อเป็นคน เลี้ยงผม ผมไม่เคยคิดว่าพระสงฆ์จะต้องเป็นคนจ่ายเงินเลี้ยงสัตบุรุษเมื่อไปทานข้าว ด้วยกัน” พ่อจำได้ น้ำตาของเขา คือ คำตอบ และคือความจริง ที่พ่อได้คิดว่าพ่อต้องลงมือกระทำเสมอ เพราะเขาเรียกพ่อว่า “พ่อ คุณพ่อ บิดา” และปกิตพ่อ คนที่เป็นพ่อจริงๆเมื่อถูกเรียกและได้รับการเรียกเช่นนั้นต้องทำ และควรที่จะเป็นผู้เลี้ยงดูสัตบุรุษลูกๆของตนเสมอทุกโอกาสที่ทำได้ครับ

o วันนี้แม้เพื่อนแสนดี และลูกศิษย์และลูกที่แสนดีจะจากไปแล้ว แต่ประสบการณ์แสนดีแบบ พระสงฆ์ที่เป็นพ่อและสัตบุรุษที่เป็นลูก ยังคงอยู่ในความทรงจำเสมอ

• พี่น้องที่รัก พ่อเล่าเรื่องสองเรื่อง ประสบการณ์ของพ่อ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ที่พ่อเขียนบทเทศน์ กับเรื่องในอดีตกับเพื่อนที่เราไปรับประทานอาหารด้วยกัน พ่อยังมั่นใจว่า พระวาจาของพระเยซูเจ้า เรื่องเล่าการทวีขนมปัง ต้องไม่ใช่เรื่องราวเพื่อไตร่ตรองความมหัศจรรย์ของพระเยซูในครั้งกระโน้น แต่จำเป็นครับ จำเป็นมากที่ “เราต้องนำลงสู่ภาคปฏิบัติ” ลงไปสู่การกระทำ การเลี้ยงดู การเห็นใจ การรัก แบ่งปัน และเลี้ยงดูกันมากๆ โดยเฉพาะกับบรรดาผู้ขาดอาหารหรืออยู่อย่างลำบากกว่าเรา ความรักต้องนำลงไปสู่ภาคปฏิบัติ และความรักต้องปรากฎในการเลี้ยงดูกันแลกันเสมออย่างดีๆ ด้วยความใจดีและเชื่อพ่อครับ “มีความสุข”

• พ่อเองเป็นพระสงฆ์ ก็ต้องเลี้ยงดูสัตบุรุษครับ อยู่บ้านเณรอย่างพ่อ ก็ต้องเลี้ยงดูน้องเณร เจ้าหน้าที่พนักงาน ไม่มีเงินกลางให้เบิกนะครับ ต้องให้จากสิ่งที่พ่อมี เท่าที่มี เท่าที่ทำได้ ถ้าพ่อเองเป็นพระสงฆ์แล้วมีแต่ให้ทุกคนที่เรียกพ่อว่าพ่อเป็นผู้เลี้ยงพ่อ จ่ายให้พ่อ ไม่ว่างานไหนโอกาสใด พ่อว่า “นั่นผิดจากธรรมชาติของการเป็น “พ่อ” นะครับ” ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็คงเป็นสำหรับพ่อชรามากและพิการเลี้ยงใครไม่ได้อีกแล้วเท่านั้น

• พี่น้องที่รัก พ่ออาจคิดไม่ต่าง บ่อยครั้งพี่น้องคิดว่าต้องเลี้ยงพระสงฆ์ดีๆ ต้องเป็นผู้จ่ายในการรับประทานอาหารด้วยกัน แต่ แต่ แต่ พระเยซูเจ้ามิได้ทำเช่นนั้น พระวรสารเน้นว่าพระองค์ทรงห่วง ทรงสั่งให้บรรดาศิษย์เลี้ยงดู และทรงทำอัศจรรย์เลี้ยงดูเสมอ...

• พ่อสรุปครับ ลงสู่ภาคปฏิบัติกันเถอะครับ เลี้ยงดูคือเครื่องหมายชัดเจนของความรักครับ... ถ้าพ่อเองโดยธรรมชาติต้องรักลูกแต่ไม่เคยเลี้ยงดูเลย ยากที่จะบอกว่ารัก พ่อไม่อ้างนะครับ ไม่อ้างว่าเลี้ยงดูฝ่ายจิตใจ เพราะนั่นเป็นพันธกิจติดมากับชีวิตสงฆ์หรือเราคริสตชนอยู่แล้ว ทำเถอะครับ ให้ แบ่งปัน เมตตาเสมอ ใจดีเสมอ นั่นคือพระพักตร์ของพระเจ้าครับ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเน้นสอนว่าพระเยซูเจ้าคือ Misericordiae Vultus “พระพักตร์แห่งความเมตตาขอพระเจ้า” (คำสอนปีศักดิ์สิทธิแห่งเมตตาธรรม)

• พ่อมั่นใจว่า พวกเราทุกคน โดยเฉพาะพระสังฆราช และพระสงฆ์ต้องชัดที่สุดครับ และพี่น้องคริสตชนก็ต้องชัดเจนด้วยกัน พวกเราทุกคนต้อง รัก เมตตา เอาใจใส่ ห่วงใย และเลี้ยงดูกันและกัน โดยเฉพาะผู้อ่อนแอและยากไร้ ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก