"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม 2015
สัปดาห์ที่สิบสาม เทศกาลธรรมดา
มธ 9:14-17….

14วันหนึ่งบรรดาศิษย์ของยอห์น เข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “ทำไมพวกเราและพวกฟาริสีจำศีลอดอาหาร แต่ศิษย์ของท่านไม่จำศีลเลย” 15พระองค์ทรงตอบว่า “ผู้รับเชิญมาในงานแต่งงานจะโศกเศร้าหรือ ขณะที่เจ้าบ่าว ยังอยู่กับเขา แต่จะมีวันหนึ่งที่เจ้าบ่าวจะถูกแยกไป วันนั้นเขาจะจำศีลอดอาหาร 16ไม่มีใครนำผ้าใหม่ไปปะเสื้อเก่า เพราะผ้าใหม่ที่นำมาปะเสื้อเก่านั้นจะหดตัว ทำให้รอยขาดมากกว่าเดิม 17ไม่มีใครใส่เหล้าองุ่นใหม่ลงในถุงหนังเก่า เพราะถุงหนังจะขาด เหล้าองุ่นจะรั่วและถุงหนังจะเสียหายไปด้วย แต่เขาย่อมใส่เหล้าองุ่นใหม่ลงในถุงหนังใหม่และทั้งสองอย่างจะไม่เสียหาย


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ไม่มีใครนำผ้าใหม่ไปปะเสื้อเก่า....ไม่ใครใส่เหล้าองุ่นใหม่ในถุงหนังเก่า” พ่อเคยได้ยินคนถามพ่อบ่อยครั้งว่า พระวาจาตอนนี้หมายความว่างอย่างไร มีอะไรเป็นประเด็นความหมายที่พระเยซูต้องการจะบอกกับเราจริงๆหนอ

• ศิษย์ของยอห์น และศิษย์ของพระเยซูเจ้า ต่างกันอย่างไร อะไรคือความหมายของการเป็นศิษย์ของยอห์น และศิษย์ของพระเยซูเจ้า และที่ศิษย์ของยอห์นมาถามพระเยซูเจ้าเรื่องการจำศีลอดอาหารนั้นประเด็นคือ อะไร... เรามาเข้าใจกันตรงนี้ก่อน คือ

o ศิษย์ของยอห์น (บัปติส) ยอห์นคือตัวแทนของรอยต่อของพันสัญญาเดิม ที่นำมาสู่พันธสัญญาใหม่คือพระเยซูเจ้า พวกเขาคือตัวแทนของความเคร่งครัดด้วยบัญญัติของชาวยิว พันธสัญญาเดิม ตัวแทนของศาสนายิวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และยึดบัญญัติของโมเสส มีธรรมเนียมมากมายเหลือเกิน รายละเอียดของชีวิตศาสนมากมาย บัญญัติหยุมหยิมไปหมด เพื่อจะบอกว่าพวกเขาเป็นประชากรศักดิ์สิทธิ์ ประชากรพิเศษ ดังนั้นจึงมีกฎเกณฑ์มากมายทางศาสนา พร้อมธรรมเนียมปฏิบัติ (แม้ไม่ค่อยมีความเข้าใจนักแต่ก็ไม่กล้าละเลย) ศาสนายิวมีธรรมเนียมมากในพระคัมภีร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมเนียมเรื่องความสะอาด การมีมลทินหรือไม่มีมลทิน ดังนั้น พวกเขาจึงเน้นการชำระล้างตนเองมากมาย มีพิธีล้าง “การลงไปในน้ำเพื่อชำระล้าง” ดังนั้น ยอห์นจึงได้ชื่อว่ายอห์นบัปติส คือผู้พิธีล้าง.. และแน่นอน มีธรรมเนียมเรื่องการภาวนา การจำศีล อีกมากมาย...

o ศิษย์ของพระเยซูเจ้า... พระเยซูเจ้าคือพันธสัญญาใหม่ คือความยินดี คือชีวิตศาสนาในรูปแบบใหม่ เป็นความสมบูรณ์ของพันธสัญญาเดิม ไม่ใช่แบบเดิมที่แสนจะเคร่งครัดมากมายจนชีวิตศาสนากลับกลายเป็นชีวิตที่ ไม่สู้มีอิสระ กลับเป็นทาสของกฎเกณฑ์มากมายไปหมด.. แต่พระเยซูเจ้าเสด็จมาเป็นมิติใหม่ ไม่ได้ยึดติดกับกฎเพียงเพื่อกฎที่คิดว่าถือกฎเคร่งแล้วนั้นคือความศักดิ์ สิทธ์ทางศาสนา แต่พระองค์เสด็จมาในศาสนายิวเพื่อประทานกฎบัญญัติใหม่ที่สมบูรณ์คือบัญญัติ แห่งความรักเมตตา ไม่ยึดติดกับกฎเพื่อกฎแต่เพื่อความดีของมนุษย์โดยเฉพาะผู้ยากไร้.. พ่อยกตัวอย่าง ชาวยิวห้ามเข้าใกล้คนโรคเรื้อน ไม่แตะต้อง แต่พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปหา ทรงรักษา แตะต้อง (ไม่กลัวผิดกฎ) เรื่องวันสับบาโตเรื่องใหญ่มาก ชาวยิ่วเคร่งจนเรียกว่าหยุมหยิมจนไม่เป็นเรื่อง ห้ามทำงาน แม้กระทั่งพระเยซูเจ้ารักษาคนเจ็บที่ต้องการหายในวันสับบาโตก็โดนตำหนิ พระองค์ไม่ได้เป็นทาสของกฎ แต่ทรงถือกฎสูงสุดเหนือกฎใดๆคือ “บัญญัติแห่งความรัก”


• พี่น้องที่รัก จึงไม่ควรแปลกใจ...ที่บรรดาศิษย์ของยอห์นเห็นศิษย์พระเยซูไม่ได้เคร่งครัด กับการจำศีลอดอาหาร... แล้วพวกเขาได้ถาม “ทำไมพวกเราและฟาริสีจำศีล...แต่ศิษย์ของท่านไม่จำศีล” 


• พี่น้องที่รัก พี่น้องทราบไหมว่าฟาริสีคือคนถือศาสนาแบบเคร่งกฎเกณฑ์นั้น เคร่งเพียงใด พ่อมีประเด็นจะเล่านิดหน่อยครับ พ่อไปอิสราเอลบ่อยๆ พ่อได้ศึกษาพระคัมภีร์ ได้เห็นความเคร่งครัดของพวกฟาริสีที่เคร่งกับเรื่อง “กฎศาสนามากๆจนเป็นพวกคลั่งกฎ” มีหลายประเด็นครับ

o ชาวยิวเน้นเรื่องการล้างมากๆ ทำความสะอาด ล้างมือ อาบน้ำ เน้นๆๆๆ ความสะอาดมากเสียเหลือเกิน เน้นแต่ภายนอกเรื่องการล้างถ้วยชามภาชนะ แต่บ่อยครั้งไม่ได้ใส่ใจกับความสะอาดภายใน เอาเปรียบ ค้าเอากำไรเกินควร คดโกง ฯลฯ

o ชาวยิว วันสับบาโตเน้นหยุดๆๆๆ ห้ามจุดไฟวันสับบาโต... ขนาดขึ้นลิฟท์วันสับบาโตยังไม่กล้ากด (ขอให้คนอื่นกดให้เพราะโมเสสสั่งห้ามจุดไฟวันสับบาโต) ถ้าไปที่เยรูซาเล็ม ถนนโล่ง ยิวเคร่งไม่ขับรถ ห้ามสตาร์ทคือจุดไฟมั้ง ไม่ทำงาน ไม่ขับรถ เดินไปสวดภาวนา เยอะๆๆ (อย่าเยอะ แต่เยอะมาก) พ่อเคยไปและมีไกด์ยิว...ถ่ายรูปให้เราทุกวัน แต่พอวันเสาร์ คือ สับบาโต ไม่ถ่ายรูปให้เราบอกว่าห้ามจุดไฟ “ขำดีนะครับ” ไกด์เอามือไพ่หลังไม่ยอมถ่ายรูปให้เรา... แต่ แต่... ยังมาทำงานเป็นไกด์ให้เราต่อไป เพราะได้ตังค์ และที่สำคัญวันเสาร์ไปทัวร์ที่อื่นไม่ได้ต้องในเยรูซาเล็มเท่านั้น...เพราะ เขาเคร่ง ไม่ออกนอกกรุงตามบัญญัติ (ขำจริงๆนะครับ ไปคราวหน้าพ่อจะกลับเดินทางกลับวันสับบาโต...และบอกไกด์ว่าไม่มีทิปให้เพราะ เป็นวันสับบาโต...)

o เรื่องการกินต้องเคร่ง... ไม่กินสัตว์หลายชนิดมาก ปลาต้องมีเกล็ดและมีครีบ ปลาดุดปลาไหล ประเภทนี้รอดตายในอิสราเอล (แต่เสียดายมีแรงานไทยทำงานที่นั่นเยอะมาก ปลาพวกนี้รอดจากยิวแต่คงไม่พ้นคนไทย) สัตว์ที่ยิวจะรับประทานต้องเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องและเท้ากีบในขณะ เดียวกัน... หมูเท้ากีบแต่ไม่เคี้ยวเอื้องก็ไม่กิน... เยอะครับ เยอะจริงๆ พ่อเคยได้ยินว่า.. ขนาดไข่ไก่ที่พวกเขาจะกินเขายังต้องเช็คว่าแน่ใจได้นะว่าไข่ฟองนั้นแม่ไก่ ไม่ได้ออกไข่ฟองนั้นๆในวันสับบาโต เพราะแม่ไก่ออกไข่เป็นงานหนัก มันทำงานหนักในวันสับบาโต...เยอะนะครับ สัตว์ทะเลกุ้ง หอย ปู พวกมีกาบมีเปลือกแข็ง ยิวไม่กินเลย น่าเห็นใจนะครับ ติดทะเล แต่ไม่ทานสิ่งเหล่านี้... กฎธรรมเนียมศาสนาทั้งสิ้นครับ

o มีอีกเยอะเลยครับ... เพื่อจะเป็นยิวที่ดี มีศาสนา ต้องถือกฎอย่างครบถ้วน 613 ข้อนะครับ เรียกว่าพ่อดีใจที่พ่อไม่ได้เป็นเชื้อชาติยิว... และที่ดีใจมาก เพราะเด็กชายชาวยิวต้องเข้าสุหนัตทุกคน เป็นบัญญัติสำคัญสุดๆ (ดู ปฐก 17) และศาสนาคริสต์สมัยแรกๆ ทุกคนก็มาจากยิว ใครจะเข้าศาสนาคริสต์เชื่อในพระเยซูก็ต้องรับธรรมเนียมยิวด้วย (ก่อนเปาโลกลับใจ) โชคดีครับ ที่เปาโลไปประกาศพระคริสตเจ้า (ท่านเป็นฟาริสีจอมเคร่งที่สุดแต่ได้กลับใจเชื่อในพระเยซู) พ่อดีใจที่เปาโลเองไม่เห็นด้วยที่จะให้คนที่ไม่ใช่ยิวและจะมาเชื่อพระเยซู ต้องรับพิธีสุหนัตตามธรรมเนียมยิว... จนเวลานั้นเกิดการถกเถียงวุ่นวาย จนต้องเปาโลและบาร์นาบัสต้องไปสังคายนากันที่กรุงเยรูซาเล็มกับเปโตรและยาก อบ นั่นเป็นสังคายนาแรกของพระศาสนจักรเลยครับ (ดู กิจ 15) ที่สุด สังคายนาตัดสินว่า “ไม่ควรเอาแอกที่หนักสำหรับชาวยิวไปวางบนบ่าของคนต่างชาติ... จึงไม่ต้องบังคับให้ต้องถือธรรมเนียมเข้าสุหนัตถ้าจะมาเป็นคริสตชน” (พ่อดีใจแทบแย่ ไม่งั้นพ่อก็คงโดนสุหนัตไปด้วย... เฮ้อ รอดไป)


• พี่น้องที่รักครับ... สรุปว่า ศิษย์พระเยซูเจ้าไม่ต้องเคร่งกับธรรมเนียมอะไรมากมายที่ไม่จำเป็นครับ... เพราะว่าถ้าเราไปศึกษาดีๆ ไตร่ตรองพระคัมภีร์ดีๆจริงๆ เราจะพบกว่าพระเยซูเจ้าเสนอกฎเกณฑ์ใหม่ “บัญญัติใหม่” ไม่หยุมหยิม ไม่วุ่นวาย ไม่ซับซ้อน แต่เป็นบัญญัติแห่งความรักที่เหนือกว่าบัญญัติใดๆในพันธสัญญาเดิม... เรียกว่า บัญญัติทั้งหลายมากมายก่ายกองนั้นมุ่งสู่บัญญัติที่เหนือกว่า และที่สุด คือ “รัก เมตตา” ตามแบบอย่างพระเยซูเจ้า และนี่คือวิถีใหม่ นี่คือสิ่งที่พระวรสารวันนี้เน้น พระเยซูเจ้าตรัสตอบ... “ผ้าใหม่ ไม่ใครปะเสื้อเก่า... เหล่าองุ่นใหม่ไม่ควรใส่ถุงหนังเก่า”


• หมายความว่า ศิษย์พระเยซูเจ้า ต้องเจริญชีวิตบัญญัติใหม่ ไม่ใช่การเน้นเคร่งเรื่องมากมาย การล้าง การจำศีล ศรัทธาแบบต่างๆ แต่ต้อง “เจริญชีวิตด้วยความรักเมตตาเต็มเปี่ยม” พระเยซูเจ้ายอมละกฎวันสับบาโตเพื่อรักและรักษาเยียวยา เพื่อประทานความหวัง ความรอด..


• พี่น้องที่รักพ่อคิดว่าการถือศาสนาหรือการเป็นคริสตชน เราต้องเป็นผู้ใหญ่มากๆ คือ “มีวุฒิภาวะทางความเชื่อและศาสนาจริงๆ” มีชีวิตใหม่ ถือบัญญัติใหม่ ไม่ใช่เคร่งอะไรไปเสียทุกอย่างที่ไม่จำเป็น แต่กลับไม่ได้เจริญชีวิตในความรักเมตตากรุณา.. ถ้าเป็นคริสตชนแบบนั้นเสียดายแย่ เสียเวลาเปล่าครับ.. 

o ศาสนาไม่ใช่เรื่องกฎเกณฑ์มากมายครับ..

o ศาสนาคือการได้พบพระเจ้าและเจริญชีวิตด้วยบัญญัติของพระองค์ และพระเยซูเจ้าก็ให้บัญญัติใหม่แก่เรา

o เราก็รู้ดีนี่ครับ... “รักพระเจ้าสุดดวงใจ รักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” แค่นี้เอง..ที่นำไปสู่ความรักเมตตา การให้อภัย และภาคปฏิบัติที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักครับ...


• พี่น้องที่รักครับ เรื่องธรรมเนียมศาสนา...อย่าเยอะๆ ที่จำเป็นจริงๆ ขาดไม่ได้ “เพื่อคนทั้งหลายเห็นกิจการดีของท่านจะได้สรรเสริญพระบิดาเจ้าสวรรค์ของ ท่าน” (ดู มธ 5) สำคัญมากๆ คือ “กิจการดี” นะครับ... บางทีก็เน้นอดอาหารมากมายเน้นมาก แต่ไม่ได้รักพี่น้องเลย ก็ไม่เห็นมีค่าอะไร... เป็นคริสตชน บัญญัติใหม่ บัญญัติแห่งความรักให้ชัดเจนมากๆ พอครับ พ่อเสนอกฎที่พ่อใช้บ่อยๆเพื่ออยู่ด้วยกันกับพี่น้องในฐานะคริสตชน โดยเฉพเมื่อไปแสวงบุญด้วยกัน..พ่อจะเน้นกฎเหล็ก 3 ข้อครับ...คือ 1.อย่าเรื่องมาก 2. อย่ามากเรื่อง 3.อย่าลืมกฎสองข้อแรกนี้เด็ดขาด... แค่นี้พอเลยครับ... อย่าเยอะ อย่ามากเกิ๊น... ดังนั้น.... “รักพระเจ้า รักเพื่อนมนุษย์ อย่าลืมสองประการนี้ลงมือปฏิบัติสุดกำลัง พอแล้วครับ” ขอพระเจ้าอวยพรครับ

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก