“จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่ 1”
2. ขอบพระคุณและแสดงความยินดี (3)
- เรารู้ว่า นักบุญเปาโลรู้ดีว่า ตนได้รับพระพรจากพระเจ้า และพี่น้องชาวเธสะโลนิกาก็ได้รับเช่นเดียวกัน ฉะนั้น การของพระคุณพระเจ้าจึงเกิดจากการระลึกถึง แต่การระลึกถึงเรียกร้องความรู้ คือเราขอบคุณได้เพียงแต่สิ่งที่เราระลึกถึง และเราระลึกถึงได้เพียงแต่สิ่งที่เรารู้
- ท่านได้รับเลือกสรร ความรักเป็นการเลือกสรรเสมอ เป็นการตัดสินใจ อิสราเอลเป็นประชากรที่พระเจ้าทรงเลือก (เทียบ ฉธบ 7:6,สดด 135:4, อสย 41:8-9,42:1-7, รม 11:28-29) การเลือกบางคนไม่ได้หมายความว่าจะกีดกันคนอื่น ๆ แต่เป็นสัญญาสำหรับทุกคนว่า จะได้เป็นดังที่พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าทรงเป็น ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบุตรคนแรก หมายความว่าเขาเป็นคนแรกที่มีจิตสำนึกถึงพระพรของพระเจ้าที่ประทานแก่พี่น้องทุกคน เพราะเหตุนี้ การเลือกสรรกลับกลายเป็นภารกิจที่ผู้ได้รับเลือกจะต้องปฏิบัติ คือนำแสงสว่างไปสู่ชนชาติทั้งหลาย (เทียบ ลก 2: 32, อสย 42:6 ,49:6) ผู้ที่รู้ว่าตนเป็นบุตรจำเป็นต้องไปพบผู้ที่เป็นพี่น้องของตน
- เพราะข่าวดีที่เราประกาศมาถึงท่าน นักบุญเปาโลให้เครื่องหมาย 2 ประการที่พิสูจน์ว่า ชาวเธสะโลนิกาได้รับการเลือกสรรจากพระเจ้าคือ ในข้อ 5 นี้วิธีที่ข่าวดีได้ถูกประกาศแก่เขาและในข้อ 6 วิธีที่เขาได้รับข่าวดี ข่าวดีเป็นการแจ้งว่าพระเจ้าทรงเลือกสรรเช่นนี้ พระเจ้าทรงส่งพระบุตรของพระเจ้าสิ้นพระชนม์และทรงคืนพระชนมชีพเพื่อพี่น้องทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นทั้งผู้นำข่าวดีและสาระของข่าวดีนั้น เป็นทั้งผู้ประกาศ ผู้ตรัส และผู้ที่กล่าวถึง เป็นผู้ที่ทำให้คำประกาศนั้นเป็นจริงสำหรับพระองค์ ธรรมชาติมนุษย์ และเป็นความจริงสำหรับผู้ฟังว่า มนุษย์ทั้งหลายเป็นบุตรของพระบิดาและเป็นพี่น้องกัน
- มิใช่ด้วยคำพูดเท่านั้น ข่าวดีไม่เป็นเพียงคำพูดเท่านั้น แต่ยังเป็นพระอานุภาพของพระจิตเจ้าอยู่เสมอ เพราะเป็นการกระทำในสิ่งที่พูด และพูดในสิ่งที่กระทำ ดังที่จดหมายถึงชาวฮีบรู บทที่ 4 ข้อ 12 กล่าวว่า “พระวาจาของพระเจ้าเป็นวาจาที่มีชีวิตและบังเกิดผล” คือเป็นพระวาจาที่ช่วยโลกและช่วยมนุษย์ให้รอดพ้น และพระเจ้าทรงเข้ามามีความสนิทสัมพันธ์กับมนุษย์อาศัยพระวาจา และเรามีความสัมพันธ์กับพระองค์ด้วยพระวาจาเช่นกัน
- แต่ด้วยพระอานุภาพ หมายถึงอัศจรรย์ที่พระวาจาเข้าสู่จิตใจมนุษย์ทำให้เขากลับใจ เขาเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า เพราะได้รับความรอดพ้น
- เดชะพระจิตเจ้า พระวาจาของพระเจ้าแสดงถึงพระจิตของพระเจ้า ชีวิตของพระองค์และความรักของพระบิดา และพระบุตรทรงมอบแก่ผู้ที่ยอมรับความรักของพระองค์ พระจิตเจ้าเป็นผลที่พระองค์ทรงก่อให้เกิดในจิตใจของมนุษย์ เช่น ทรงเปลี่ยนชีวิตของผู้เห็นแก่ตัวให้มีความรัก ผู้เศร้าโศกให้ชื่นชม ผู้ชอบต่อสู้ให้มีความสงบ ผู้ที่ขาดความเพียรให้มีความเพียรทน ผู้ที่หยาบคายให้มีใจเมตตากรุณา ผู้ที่ใจร้ายให้เป็นผู้ที่ใจดี จากผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ให้เป็นคนซื่อสัตย์ ผู้ที่มีใจแข็งกระด้างให้มีใจอ่อนโยน ผู้ที่เป็นทาสของกิเลสให้รู้จักบังคับตน
- และด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม การประกาศข่าวดีก็มาจากใจ เพราะเขาแน่ใจว่าเขาพูดด้วยอำนาจของพระจิตเจ้า มิใช่พลังของตนเอง และผู้ที่มีความมั่นใจเช่นนี้ก็กล้าที่จะพูด ความเชื่อที่เป็นความมั่นใจเช่นนี้คือ เมื่อคนหนึ่งแน่ใจว่าความรักของพระเจ้าอยู่ในใจของตน เป็นความรักที่ดึงดูดเรา เป็นเสน่ห์ของความรักที่ทำให้เรายอมทุกอย่างแก่พระองค์และยึดมั่นในพระองค์
- ท่านทั้งหลายรู้ว่าเราปฏิบัติตนอย่างไรในหมู่ท่านเพราะเห็นแก่ท่าน การประกาศข่าวดีเป็นการกระทำที่เปิดเผย ทุกคนเห็นได้ ไม่ต้องหลบซ่อน ทุกคนรับรู้ได้ว่า การประกาศข่าวดีมาจากอำนาจของพระวาจาพระจิตเจ้าและสร้างความมั่นใจ ในข้อ 5 นี้ จึงสรุปคุณลักษณะของผู้ที่ประกาศข่าวดี ไม่มีความลับใดที่จะต้องเก็บไว้ เขาถ่ายทอดทุกอย่างที่เขารู้ เขาเป็นคนโปร่งใส เพราะต้องการให้ทุกคนเป็นเหมือนตนเอง ตรงกันข้ามผู้ที่แสวงหาอำนาจ ต้องการให้ผู้อื่นมาขึ้นกับเขา เขามีความลับและอยู่ห่างไกลจากผู้อื่น
- และท่านก็ได้ทำตามอย่างเราและตามแบบฉบับขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้อนี้บ่งบอกคุณลักษณะของผู้ที่ยอมรับข่าวดี ก่อนอื่นเขาเลียนแบบผู้ประกาศ เพราะผู้ประกาศเลียนแบบพระฉบับขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้รับพระวาจาจำเป็นต้องเปลี่ยนความรู้สึกคิดและดำเนินชีวิตให้เป็นแบบใหม่ ผู้ประกาศพระวาจาก็ได้เปลี่ยนแปลงตนอยู่แล้ว จึงถ่ายทอดข่าวดีแก่คนอื่นได้ เขาไม่เป็นผู้โฆษณาชวนเชื่อ ไม่เป็นผู้ขายสินค้าที่หมดอายุ เพื่อจะได้กำไรโดยหลอกลวงผู้อื่น ความรักต่อพระบิดาเจ้าและต่อพี่น้องกระตุ้นเขาให้อุทิศตนจนกระทั่งกลายเป็นชีวิต และเขายอมเสี่ยงตนเองเพื่อความรักนั้น สำหรับผู้ที่ประกาศข่าวดีจาวาและแบบอย่างแยกจากกันไม่ได้ นักบุญเปาโลไม่เรียกร้องให้มีพรสวรรค์ตามแบบอย่างของเขา แต่เรียกร้องให้มีความเชื่อ ความหวังและความรักที่เขาประกาศ