“พระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว”
88. พระคูหาว่างเปล่า ข่าวดีจากทูตสวรรค์ (3)
b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
- ข้อความนี้ไม่ได้อธิบายลักษณะและช่วงเวลาการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า เพราะไม่มีผู้ใดที่เป็นพยานเห็นเหตุการณ์นี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นการกระทำของพระเจ้าผู้ทรงบันดาลการเปลี่ยนแปลงจากพระศพให้เป็นชีวิตใหม่โดยสิ้นเชิง เป็นชีวิตที่ไม่สามารถอธิบายหรือเปรียบเทียบได้ เพราะเราไม่มีความคิดเกี่ยวกับประสบการณ์นี้ ผู้ที่ได้เห็นพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์ก็ไม่ได้เห็นพระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพ แต่ได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าว่า พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ
- การกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าไม่สามารถพิสูจน์ได้จากหลักฐานใดๆ ที่มาจากมนุษย์ แม้บรรดาศิษย์ก็ไม่เชื่อว่า พระคริสตเจ้าได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ การที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าพระคริสตเจ้าจะทรงกลับคืนพระชนมชีพ ไม่เป็นหลักฐานเพียงพอที่ทำให้ทั้งบรรดาศิษย์และเรารอคอยที่จะมีความสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ นักบุญเปาโลย้ำว่า ความเชื่อไม่เป็นรากฐานการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า ตรงกันข้าม การกลับคืนพระชนมชีพเป็นรากฐานของความเชื่อ “ถ้าพระคริสตเจ้ามิได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ การเทศน์สอนของเราก็ไร้ประโยชน์...ความเชื่อของท่านก็ไร้ความหมายและท่านก็ยังคงอยู่ในบาป” (1 คร 15:14,17)
- นักบุญมาระโกเล่าว่า เมื่อพระเยซูเจ้าทรงรับเจิมที่หมู่บ้านเบธานี พระองค์ตรัสกับหญิงคนนั้นว่า “นางได้ทำสิ่งที่นางทำได้แล้ว” (มก 14:8) หมายความว่า สำหรับพระองค์เป็นลักษณะเฉพาะของสตรีที่จะทำสิ่งที่นางทำได้ ในกรณีนี้ความซื่อสัตย์ต่อพระบุคคลของพระเยซูเจ้า ทำให้บรรดาสตรีพยายามอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์มากที่สุด ดังนั้น เขาเหล่านั้นจึงมีส่วนร่วมในการก้าวเดินของพระเยซูเจ้า และได้รับภารกิจใหม่ให้เป็นผู้ประกาศการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ และประกาศการคืนดีกับพระองค์ ไม่ใช่ถ้อยคำและความคิดยิ่งใหญ่เป็นเรื่องสำคัญ แต่เป็นความซื่อสัตย์ต่อพระเยซูเจ้าและการกระทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงเวลานั้น เพราะถ้าทำเช่นนี้ เราก็รักษาความสนิทสัมพันธ์กับพระเยซูเจ้า ผู้ทรงช่วยเราให้มีความชิดสนิทที่มีชีวิตชีวาและลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับพระองค์
- บรรดาศิษย์ได้รับเชิญให้ก้าวเดินพร้อมกับพระเยซูเจ้าในแคว้นกาลิลี เพื่อรื้อฟื้นประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เคยอยู่กับพระองค์ เราด้วยเหมือนกัน ได้รับเชิญให้ก้าวเดินเช่นนี้จากพระวรสาร คือเราได้รับเชิญให้มีส่วนกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า โดยรับแสงสว่างจากกลับคืนพระชนมชีพ เพราะเราตระหนักว่า พระบิดาทรงรับรองการกระทำทั้งหมดของพระเยซูเจ้าด้วยพระอานุภาพของพระองค์
- การกระทำทรงสรรพนุภาพของพระเจ้า ผู้ประทานให้พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ ไม่เป็นเพียงแสงสว่างยิ่งใหญ่สำหรับพระองค์ ผู้ทรงถูกมอบไว้ในเงื้อมมือของคนบาป แต่ยังเป็นแสงสว่างสำหรับทุกคนที่ถูกมอบไว้ในเงื้อมมือของมนุษย์ ถูกทำลาย และถูกลืมอย่างน่าสมเพช ถ้าไม่มีการกระทำของพระเจ้าเช่นนี้ พลังต่าง ๆ ของความชั่วร้าย ความเกลียดชังและการทำลาย ก็จะมีชัยชนะ แต่เมื่อพระเจ้าเสด็จมาช่วยเหลือพระบุตร ก็ทรงมีชัยชนะเหนือพลังของชั่วร้ายเหล่านี้ และทรงส่องแสงสว่างยิ่งใหญ่แก่ทุกคนที่อยู่ในอันตรายและถูกทำลาย มิฉะนั้นแล้ว จะมีแต่ความมืดและความสิ้นหวัง
- พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพทรงมีชีวิตชิดสนิทอย่างเต็มเปี่ยมตลอดไป ทรงอภัยบาปของมนุษย์ การที่มนุษย์คืนดีกับพระเจ้า แม้อาศัยศีลอภัยบาปก็เป็นของประทานจากพระเยซูเจ้า ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ พระองค์ทรงอภัยความไม่ซื่อสัตย์ของมนุษย์ และทรงบันดาลให้เรามีชีวิตชิดสนิทกับพระเจ้า บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าแม้เคยมีความอ่อนแอและไม่ซื่อสัตย์ก็ยังได้รับของประทานนี้ ดังนั้น เราจงขอบคุณพระเจ้าเช่นกัน
7. นักบุญมาระโกบันทึกเพียงข่าวดีที่บรรดาสตรีจะต้องนำไปประกาศแก่บรรดาศิษย์ แต่ไม่ได้เล่าว่านางได้ปฏิบัติตาม ดูเหมือนผู้เขียนต้องการให้ผู้อ่านและผู้ฟังมีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจนี้ โดยประกาศการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้าบนแผ่นดินนี้ จนถึงวันที่จะได้พบกับพระองค์ในโลกหน้า อาเมน
