"ข้าพเจ้ามีความหวังในพระวาจาของพระองค์" (สดด. 119:74)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน 2015
สัปดาห์ที่สิบเอ็ด เทศกาลธรรมดา
มธ 6:24-34…

24“ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้”
25“ฉะนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า อย่ากังวลถึงชีวิตของท่านว่าจะกินอะไร อย่ากังวลถึงร่างกายของท่านว่าจะนุ่งห่มอะไร ชีวิตย่อมสำคัญกว่าอาหาร และร่างกายย่อมสำคัญกว่าเครื่องนุ่งห่มมิใช่หรือ 26จงมองดูนกในอากาศเถิด มันมิได้หว่าน มิได้เก็บเกี่ยว มิได้สะสมไว้ในยุ้งฉาง แต่พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงมัน ท่านทั้งหลายมิได้มีค่ามากกว่านกหรือ

27ท่านใดบ้างที่กังวลแล้วต่ออายุของตนให้ยาวออกไปอีกสักหนึ่งวันได้ 28ท่านจะกังวลถึงเครื่องนุ่งห่มทำไม จงสังเกตดูดอกไม้ในทุ่งนาเถิด มันเจริญงอกงามขึ้นได้อย่างไร มันไม่ทำงาน มันไม่ปั่นด้าย 29แต่เราบอกท่านทั้งหลายว่า กษัตริย์ซาโลมอนเมื่อทรงเครื่องอย่างหรูหรา ก็ยังไม่งดงามเท่าดอกไม้นี้ดอกหนึ่ง 30แม้แต่หญ้าในทุ่งนา ซึ่งมีชีวิตอยู่วันนี้ รุ่งขึ้นจะถูกโยนทิ้งในเตาไฟ พระเจ้ายังทรงตกแต่งให้งดงามเช่นนี้ พระองค์จะไม่สนพระทัยท่านมากกว่านั้นหรือ ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง 31ดังนั้น อย่ากังวลและกล่าวว่า ‘เราจะกินอะไร หรือจะดื่มอะไร หรือเราจะนุ่งห่มอะไร’ 32เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้คนต่างศาสนาแสวงหา พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการทุกสิ่งเหล่านี้ 33จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งเหล่านี้ให้”
34“ดังนั้น ท่านทั้งหลายอย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์พออยู่แล้ว”


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• ประโยคจากพระวรสารวันนี้ พระวาจาของพระเยซูเจ้าวันนี้มาแรงและบาดใจ “ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้” 

o พ่อคิดว่า พ่อได้เคยได้ยินประสบการณ์ ได้ผ่านประสบการณ์แบบนี้มากพอสมควรกับชีวิตที่เพิ่งผ่านเลขห้าสิบปีมา การมีเจ้านายพ่อได้ยินมามากการสรรเสริญเยินยอผู้ใหญ่ เจ้านาย อาจมีน้อยสักหน่อย เพราะที่ผ่านมาได้ยินได้ฟัง ได้เห็นและสัมผัสการวิภากษณ์วิจารณ์การนินทาผู้ใหญ่ นินทาเจ้านายมิใช่น้อย 

o คนเรามักจะรักคนหนึ่ง ไม่รักคนอีกหนึ่งหรือเกลียดคนหนึ่ง พ่อเห็นมามากได้ยินมามากใช้ได้... คนมีอำนาจหรือมีเงินทองมากก็มีมิตรมากมาย จนเขากล่าวกันว่า “เมื่อมั่งมีมิตรมากมาย เมื่อมอดม้วยหรือไม่มีแล้ว หมูหมาไม่มามามอง” ข้อความแบบนี้ก็จริงอยู่เนือง 

o พ่อเคยได้ยินคุณพ่ออาวุโสสอนพ่อ.. “เวลาที่เราอยู่ในหน้าที่ อยู่ในตำแหน่งคนเขาจะสรรเสริญเราเยอะแยะ อย่าไปหลงหรือสนใจให้ความสำคัญมากนัก... แต่เมื่อเราหมดหน้าที่หมดตำแหน่งแล้ว หลุดมาจากสถานที่นั้นๆ ไปแล้ว ถ้าคนเหล่านั้นเขายังรักเรา สรรเสริญเรา คิดถึงเรา พูดดีถึงเรา แบบนั้น น่ะควรฟังเพราะมันคือความจริง...”

• ประสบการณ์ของพ่อ....พ่อก็มีประสบการณ์ไม่มากนัก อย่างที่เคยเขียนบอก พ่อไม่เคยเป็นเจ้าอาวาส ไม่เคยอยู่ตามวัดเลย ชีวิตสงฆ์ 22 ปีเคยอยู่วัดเดียวและปีเดียวเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสก่อนกลับเข้ามาบ้านเณรอีก ปีและก็ไปเรียนที่โรม... เมื่อจบจากโรมดีเมื่อครั้งที่พ่อกลับมาและได้อยู่ศูนย์ฝึกอบรมห้าปี และจากนั้นก็ได้เป็นอธิการศูนย์ฝึกอบรมอีกห้าปี ณ เวลานั้น พ่อได้มีโอกาสเป็นจิตตาธิการอารามคาร์แมลด้วย ข้อดีคือพ่อได้เป็นเหมือนเจ้าวัดในเรื่องการอภิบาลมิสซาประจำวันและวัน อาทิตย์ ฟังแก้บาป ฯลฯ มีโอกาสได้ทำงานวัดว่าอย่างนั้นเถอะ ก็ดีเหมือนกัน พ่อก็มีความสุขที่ได้ทำแบบนี้ แต่ไม่เคยเป็นเจ้าวาสกับเขาครับ... ไม่เป็นไร และขอไม่เป็นก็ดีครับเพราะถ้าพ่อเป็นเจ้าวัด พ่อไม่แน่ใจว่าพ่อจะเป็นได้ดีไหม..

• ประสบการณ์อยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมงานอภิบาลสิบปี เมื่อออกมานาน เจ็ดปีแล้วละครับ แต่ทุกครั้งที่พ่อกลับมาเข้าเงียบ สัมมนา มาสอน หรืออื่นๆ บรรดาเจ้าหน้าที่ที่ยังเป็นคนรุ่นเก่าๆ ก็ยังคิดถึง ยังทักทาย และก็ยังมีความสุขที่ได้เจอกัน.. (อาจมีบ้างน้อยคนที่ไม่ยินดีที่ได้เห็นพ่อก็ได้ น้อยมากครับ ยืนยัน) และพ่อรู้ มันใจจริงๆว่า คนจำนวนมาที่เคยทำงานกับพ่อจริงใจ รักเรา น่ารัก และใส่ใจมากๆ เป็นความรักที่แสนบริสุทธิ์ไม่มีมารยาจริงๆ น่ารักจริงๆ 

o พ่อเคยถามตนเองว่า ทำไมคนเหล่านี้ที่เราจากมานานพอควรยังรักเราเสมอ 

o พ่อพบคำตอบ เพราะเรารักกัน เพราะพ่อรักพวกเขา เป็นห่วงพวกเขา และรักพวกเขาเหมือนลูกของเรา... (อาจยกเว้นคนที่ไม่ต้องการความรัก หรือขาดความรักจริงๆ หรือไม่รู้จักความรักเท่านั้น หรือเสียผลประโยชน์หรือไม่ได้กดขี่คนอื่นๆเพราะพ่อไม่มีวันยอม) เวลาทำงานพ่อก็ไม่มีการเมือง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม (อาจมีบ้างก็ได้เพื่อทันเล่ห์เหลี่ยมของคนอื่น) พ่อไม่มีผลประโยชน์ และที่สำคัญ พ่ออยู่กับพวกเขาแบบพ่อ พ่อกับลูก ไม่เคยอยู่แบบการเมืองหรือการทูต มีแต่อยากให้พวกเขาได้ดีและมีความสุข และบ้านของเราศูนย์อบรมก็ได้เป็นอย่างที่ควรเป็น คือเป็นบ้าน เป็นสถานที่ๆให้สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคนอื่นที่เข้ามาใน “บ้านเรา ที่เราหว่านความดีของพระเจ้า”

• ประสบการณ์อีกทางตรงและทางอ้อม คือ ได้ชมละครไทยมาก็เยอะ เห้นของจริงๆมาก็แยะ ดูการบ้านการเมืองมาก็มาก... พ่อก็เคยเห็นนะ “ข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย” ยังไม่ต้องกล่าวถึงพระเจ้ากับมนุษย์หรืองเงินทอง 

o พ่อเคยเห็นคนที่วิ่งเอาใจนาย ทำอะไรก็เหนื่อยไปหมดวิ่งพล่านขาดสติทำอะไรก็ผิดไปหมด ลืม หลง เก้อ... เพราะต้องวิ่งเอาใจนาย บางทีก็เอาใจนายคนหนึ่งอย่างกระตือรือร้นมาก แต่พ่อมีอีกคนที่สำคัญกว่า ยิ่งใหญ่กว่าเข้ามา ก็ทิ้งคนนี้ไปเอาใจคนนั้น ออกจากพวกตรงนี้ไปหาพวกตรงนั้น... 

o พ่อเห็นแล้ว อาลัยจริงๆ เหนื่อยมากกับการวิ่งเอาอกเอาใจ บางทีก็เคลื่อนที่แทบไม่ไหวแล้วเพราะอายุอานาม แต่ก็ต้องวิ่ง และร้องเอ็ดตะโลขาดสติใช้คนร้อบข้างให้วิ่งเพื่อสิ่งเดียวคือ “เอาใจ” เฮ้อ เหนื่อยแทนจริงๆ เหนื่อยมาก ไม่อยากจะคิดเลย... 
o การที่จะต้องเป็นข้าสองเจ้าบ่าวร้อยนายสำหรับคนเรานี่เหนื่อยจริงๆ แล้วขณะที่ทำเช่นนี้ก็ต้องหาบ่าวหาไพร่พวกพ้องมาช่วยหนุนกิจการเพื่อเอาใจคน อื่นของตน ผลคือกดขี่คนทั่วไปเพื่อให้ตนได้เอาใจนายและดูดี... 

o พ่อก็คิดไปมา... คนเราที่ถ้าเขาทำแบบนี้ เขาทำไปเพื่ออะไรจริงๆหนอ... เพื่อคนนี้คนนั้นหรือเพื่อคนที่ยิ่งใหญ่กว่าขึ้นไปอีก... วิ่งเอาใจไปทั่ว... 

o พ่อวิเคราะห์แล้วอย่างรอบคอบจากประสบการณ์และปัญญาเล็กน้อยของพ่อ ที่สุดพ่อพบ พบจริงๆว่า คนช่างวิ่งเอาใจแบบนี้ อันที่จริงทำไปมิใช่เพื่อใครอื่น มิใช่เพื่อนายหรือคนที่เขาเอาใจเลย...

o แต่ แต่ แต่ คนเอาใจนายมากมายเหล่านี้ เขาทำไปก็ “เพื่อตนเอง” จริงๆ เพื่อตนเองจริงๆ เพื่อความพอใจของตน เพื่อประโยชน์ของตนนะครับ เขาต้องวิ่งพล่านเอาใจคน เอาใจผู้ใหญ่ คนแบบนี้สรุปได้ว่า เขาทำไปเพื่อ “ตนเอง” เพื่อความพอใจของตนเพื่อตนเองจะได้รับความพอใจหรือที่เราเรียกว่า “เฟเวอร์” ก็เท่านั้น....

o พ่อพบเจอมาเยอะ... คนแบบนี้ขาดอิสรภาพนะครับ เหนื่อยครับ ต้องผูกมัดตนเองให้เป็นบ่าว หรือเป็นเหมือนทาสไปเลยครับ แทนที่จะเป็นลูกในครอบครัว รักพี่น้องร่วมงานร่วมอุดมการณ์ กลับมัวแต่เอาใจเพื่อได้ประโยชน์ตน และทำลายความเป็นอิสรภาพของทุกคนในบ้าน ในที่ทำงาน ต้องคอยหวาดกลัวการเท็จทูลเอาใจ ฯลฯ... ขอถอนหายใจหน่อย “เฮ้อออ เหนื่อยยยยย”

• พระเยซูตรัสถูกต้องที่สุด... “ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้” เขาจะรักคนหนึ่งและเกลียดนายอีกคนหนึ่ง... (เรื่องแบบนี้เราเข้าใจได้เลย ประเภทนี้นะ นินทาเก่งที่สุด นินทานายไม่ได้ว่างเว้น ต่อหน้าชื่นชม เบื้องหลังกลับนินทาวิจารณ์ ชีวิตแบบนี้เหนื่อย ต้องเสแสร้งแกล้งทำ เสนอหน้าและนิทาลับหลังเหนื่อยจะตาย แต่บ่อยครั้งคนแบบนี้ก็รู้สึกสนุก มันส์ ถามจริงๆ มันสนุกนักหรือกับความไม่จริงใจและนินทาวิจารณ์ลับหลัง)

• คำสอนส่วนที่สองของพระวาจาวันนี้ คือ “อย่ากังวล” ความจริงสัมพันธ์กับส่วนแรกแหละครับ คนที่มีอิสรภาพทางชีวิตความคิดและกิจการ ไม่กังวล... แต่คนที่เล่นการเมืองในชีวิตและไม่จริงๆใจ ไม่อยู่กับความจริง หน้าไว้หลังหลอกแบบที่พ่อกล่าวถึงตอนแรก ไม่มีอิสรภาพครับ ต้องคิดเอาชีวิตจิตรอดไปวันต่อวัน จะวางแผนทำร้าย ทำลาย แบบการเมืองอย่างไร... กังวลครับ ห่วงครับ เพราะพูดไว้เมื่อวานก็ลืม พูดอีกวันก็จำความไม่ได้ เพราะนินทาเยอะ ความจำสั้น ความมันส์เข้าแทรก เลยเผลลืมไปหมด

• บ่อยครั้ง ในระดับชุมชนวัด ก็เป็นเช่นนี้ ต้องสอนกันเลยครับ.. เหนื่อยน่า.. ชุมชนวัดเพื่อเจริญชีวิตคริสตชน พระสงฆ์ นักบวช คริสตชน.. บ่อยครั้งก็ตกอยู่ในวังวนของการนินทา วิจารณ์ จริงไม่จริงไม่รับผิดชอบ นินทากัน ทำร้ายกันด้วยคำพูด พูดแบบหวังดีประสงค์ร้ายลึกอะไรทำนองนี้ ทำให้ชุมชนวัดวุ่นวายไปหมด ไม่มีความสุข ต้องหวาดระแวงกันไป ไม่ไว้ใจกัน วิ่งพล่านหาพวกนินทาทำร้ายประหนึ่งว่าจะช่วยกันสร้างสรรค์พัฒนา... โถๆๆๆ ลูกๆเอ๋ย แค่พูดดีถึงกันสักนิดยังทำไม่ได้เลย จะกล่าวขวัญถึงกันก็ไม่ทำ เอาแต่กล่าวขานกัน ไม่น่ารักเลย หมู่บ้านก็พลอยไม่สงบสุขไปด้วย.... ทั้งชุมชนวัด ทั้งสำนักงานองค์กรของพระศาสนจักรเองก็บ่อยครั้งอ่อนแอไปด้วย... ไม่น่ารักเลย... พระสันตะปาปาฟรังซิสเตือนเรา “พอเถอะ การเมืองในหมู่เรา”

• สรุปว่า... คำสอนของพระเยซูเตือนเราให้ “อย่ากังวล” พระเจ้าทรงดูแล พระจัดครับ พระองค์จะดูแล (จาของพ่อสอนลูกๆตลอดชีวิต “พระจัด” แค่คำนี้ พวกเราก็วางใจแล้วครับ) ฟังคำสอนพระเยซูเถอะครับ....

o อย่ากังวลถึงชีวิตของท่านว่าจะกินอะไร

o อย่ากังวลถึงร่างกายของท่านว่าจะนุ่งห่มอะไร 

o จงมองดูนกในอากาศเถิด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงมัน ท่านทั้งหลายมิได้มีค่ามากกว่านกหรือ 

o ท่านใดบ้างที่กังวลแล้วต่ออายุของตนให้ยาวออกไปอีกสักหนึ่งวันได้ 

o ท่านจะกังวลถึงเครื่องนุ่งห่มทำไม จงสังเกตดูดอกไม้ในทุ่งนาเถิด มันเจริญงอกงามขึ้นได้อย่างไร มันไม่ทำงาน มันไม่ปั่นด้าย แต่เราบอกท่านทั้งหลายว่า กษัตริย์ซาโลมอนเมื่อทรงเครื่องอย่างหรูหรา ก็ยังไม่งดงามเท่าดอกไม้นี้ดอกหนึ่ง 

o แม้แต่หญ้าในทุ่งนา ซึ่งมีชีวิตอยู่วันนี้ รุ่งขึ้นจะถูกโยนทิ้งในเตาไฟ พระเจ้ายังทรงตกแต่งให้งดงามเช่นนี้ พระองค์จะไม่สนพระทัยท่านมากกว่านั้นหรือ ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง

o ดังนั้น อย่ากังวลและกล่าวว่า ‘เราจะกินอะไร หรือจะดื่มอะไร หรือเราจะนุ่งห่มอะไร’ 32เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้คนต่างศาสนาแสวงหา พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการทุกสิ่งเหล่านี้

o จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งเหล่านี้ให้”

o ดังนั้น ท่านทั้งหลายอย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์พออยู่แล้ว”

• อ่านพระวรสารส่วนนี้แล้ว ยิ้มไปเลยลูก อย่ากังวล อย่าทุรนทุลาย อย่ามัววุ่นกับการวิ่งเอาใจแบบทาสเอาใจนาย.. แต่จงเป็นลูกพระเจ้านะครับ เป็นพี่น้องเป็นน้องกันทุกคน อย่าอยู่กันแบบทาสเอาใจนายเลย ทั้งในระดับชุมชนวัด ครอยครัว สำนักงาน ศูนย์ฯต่างๆ จงเป็นคริสตชนที่มีอิสระแท้จริงๆ จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าเสมอครับ.... ขอพระเจ้าอวยพรครับ และให้เราปรับปรุงตัวเรานะครับ น่ารัก พูดดี คิดดี ทำดี มีธรรมแห่งรักเมตตานะครับ

Sunday of the Word of God 2025

Sunday of the Word of God 2025

เช้าวันใหม่ใส่ใจภาวนา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2025

Sinapis Talk | ซีนาปีส ทอล์ค

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก