เพลงสดุดีที่ 150
เพลงสรรเสริญส่งท้ายa
เป็นการเหมาะสมแล้ว ที่เพลงบทสุดท้ายในหนังสือเพลงสดุดีจะเป็นการเชิญชวนสรรพสิ่งในโลกและบนสวรรค์ให้บรรเลงดนตรีสรรเสริญพระเจ้า พร้อมกับนักดนตรีและนักเต้นรำของพระวิหาร สดด บทนี้เป็นบทเพลงสรรเสริญเพื่อปิดหนังสือเพลงสดุดีทั้ง 150 บท จึงรื้อฟื้นเจตนาของเพลงสดุดีแต่ละบทอีกครั้งหนึ่ง เพลงเหล่านี้มีไว้เพื่อ “สรรเสริญพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า” (เทียบ อฟ 1:12, 14) แต่เจตนานี้จะสำเร็จบริบูรณ์ได้ในอนาคตเท่านั้น “เมื่อนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงสิ่งสร้างทั้งมวล ทั้งที่อยู่ในสวรรค์และบนแผ่นดิน ทั้งใต้พิภพและในทะเล และทุกสิ่งที่อยู่ในที่เหล่านั้น ร้องสรรเสริญว่า “พระองค์ผู้ประทับบนพระบัลลังก์และลูกแกะจงได้รับคำถวายพระพร พระเกียรติยศ พระสิริรุ่งโรจน์และอำนาจปกครอง ตลอดนิรันดรเทอญ” (วว 5:13)
1อัลเลลูยา
จงสรรเสริญพระเจ้าในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
จงสรรเสริญพระองค์บนท้องฟ้าที่ประทับแห่งพระอานุภาพของพระองค์
2จงสรรเสริญพระองค์เพราะพระราชกิจทรงอานุภาพ
จงสรรเสริญพระองค์เพราะความยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตของพระองค์
3จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงแตร
จงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณใหญ่และพิณเล็ก
4จงสรรเสริญพระองค์ด้วยรำมะนาและการฟ้อนรำ
จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเครื่องสายและขลุ่ย
5จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงกึกก้องของฉาบ
จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงฉาบฉลองชัยb
6ทุกสิ่งที่มีลมหายใจ จงสรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
อัลเลลูยา
150 a เพลงสดุดีบทนี้ทำหน้าที่เหมือน “บทยอพระเกียรติ” (doxology) ที่ลงท้ายแต่ละบรรพของหนังสือเพลงสดุดี แต่แทนที่จะเป็นเพียงข้อสุดท้ายที่เสริมเข้ามา เช่น สดด 41:13; 72:18-20; 89:51; 106:48 เพลงสดุดีบทนี้เชิญชวนเครื่องดนตรีทุกชนิดและเชิญสิ่งมีชีวิตทั้งหลายให้มาสรรเสริญพระยาห์เวห์
b “ฉาบฉลองชัย” แปลตามตัวอักษรว่า “ฉาบแห่งการโห่ร้อง” (เทียบ สดด 33:3 เชิงอรรถ a; กดว 10:5)