“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

เพลงสดุดีที่ 59

ขอพระเจ้าทรงช่วยให้พ้นจากคนชั่วร้ายa

เพลงอ้อนวอนบทนี้แบ่งออกเป็น 2 ภาค (ข้อ 1-8 และ 10ข-16) แต่ละภาคจบด้วยสร้อยตอบรับ (ข้อ 9 และ 17) แม้ว่าเนื้อหาดูเหมือนจะเป็นบทเพลงส่วนตัว ข้อความบางตอน (เช่น ข้อ 11) ดูเหมือนจะบอกว่าผู้ถูกคุกคามคือชุมชนมากกว่าจะเป็นปัจเจกบุคคล อาจเป็นไปได้ว่าพระราชาในฐานะผู้แทนของชาติเป็นผู้กล่าวเพลงสดุดีบทนี้ “ศัตรู” ที่กล่าวถึงอาจเป็นประชาชนที่กบฏหรือชนต่างชาติที่ไม่นับถือพระเจ้า คริสตชนอาจใช้ สดด บทนี้โดยคิดว่าพระคริสตเจ้ากำลังทรงถูกเบียดเบียนในพระศาสนจักรซึ่งเป็นพระกายทิพย์ของพระองค์

สำหรับหัวหน้านักขับร้อง ตามทำนองเพลง “อย่าทำลาย” ของกษัตริย์ดาวิด มิคตาม เมื่อกษัตริย์ซาอูลทรงส่งคนไปคอยเฝ้าบ้านของดาวิด เพื่อจะฆ่าเขา

1ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากบรรดาศัตรูด้วยเถิด

        โปรดทรงปกป้องข้าพเจ้าจากผู้ที่จู่โจม

2โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากผู้ทำความชั่ว

        โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากผู้กระหายเลือด

3ดูซิ เขาดักซุ่มจะเอาชีวิตของข้าพเจ้า

        ผู้ทรงอำนาจรวมหัวกันโจมตีข้าพเจ้า

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้ามิได้ทำผิดหรือทำบาป

4ข้าพเจ้าไม่มีความผิด แต่เขาก็วิ่งเข้ามาโจมตีข้าพเจ้า

        ขอทรงลุกขึ้นมาช่วยข้าพเจ้าและทอดพระเนตรเถิด

5พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าจอมจักรวาล พระเจ้าแห่งอิสราเอล

        ขอทรงลุกขึ้นมาลงโทษประชาชาติทั้งหลายb

อย่าได้ทรงพระเมตตาต่อผู้วางแผนร้าย

                                                                           (พักครู่หนึ่ง)

6เขากลับมาอีกเมื่อพลบค่ำ

        แยกเขี้ยวคำรามเหมือนสุนัข เดินไปทั่วเมืองc

7ดูซิ เขาสำรอกถ้อยคำชั่วร้าย

        เหมือนมีดาบคาอยู่ที่ริมฝีปาก พูดว่า

“ใครที่ไหนจะมาได้ยินเรา”d

8แต่พระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ทรงพระสรวล

        พระองค์ทรงเยาะเย้ยนานาชาติ

9ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงเป็นพลังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจับตามองพระองค์

        เพราะพระเจ้าทรงเป็นที่มั่นของข้าพเจ้า

10พระเจ้าผู้ทรงความรักมั่นคงeกำลังเสด็จมาช่วยข้าพเจ้า

        พระเจ้าจะทรงโปรดให้ข้าพเจ้าเห็นศัตรูต้องปราชัย

11ขอพระองค์อย่าทรงฆ่าเขา เพื่อประชากรของข้าพเจ้าจะไม่ลืมพระองค์

        แต่ขอพระองค์ทรงใช้พระอานุภาพบันดาลให้เขากระจัดกระจายไปf และต้องอับอาย

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นโล่กำบังข้าพเจ้าทั้งหลาย

12เมื่อเขาอ้าปาก คำพูดของเขาก็เป็นบาป

        ขอให้เขาติดกับอยู่ในความจองหองของตน

ในคำสาปแช่งและคำเท็จที่เขาพูด

13ขอพระองค์ทรงทำลายเขาด้วยพระพิโรธ

        ทรงทำลายเขาอย่าให้เหลือเลย

เขาจะได้รู้จนสุดปลายแผ่นดินว่า

        พระเจ้าทรงปกครองยาโคบ

                                                                           (พักครู่หนึ่ง)

14เขากลับมาอีกเมื่อพลบค่ำ

        แยกเขี้ยวคำรามเหมือนสุนัข เดินไปทั่วเมือง

15เขาเพ่นพ่านหาอาหาร

        เห่าหอนทั้งคืนg ถ้ากินไม่อิ่ม

16แต่ข้าพเจ้าจะขับร้องสรรเสริญพระพลานุภาพ

        ในยามเช้าจะประกาศความรักมั่นคงของพระองค์

พระองค์ทรงเป็นที่มั่นของข้าพเจ้า

        เป็นที่หลบภัยของข้าพเจ้าในยามทุกข์ร้อน

17ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงเป็นพลังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะถวายสดุดีแด่พระองค์

        เพราะพระเจ้าทรงเป็นที่มั่นของข้าพเจ้า

พระเจ้าผู้ทรงแสดงความรักมั่นคงต่อข้าพเจ้าh

 

59 a เพลงสดุดีบทนี้ประกอบด้วยคำสรรเสริญพระเจ้า และคำสาปแช่งศัตรู มีข้อความตอบรับเป็นบทสร้อย 2 ข้อ คือข้อ 6 (กับข้อ 14) และข้อ 9 (กับข้อ 17) ผู้นิพนธ์น่าจะเป็นชาวยิวที่อยู่นอกปาเลสไตน์ในหมู่คนต่างศาสนาที่เป็นศัตรู หรืออาจเป็นชาวยิวใจศรัทธาที่อยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มในสมัยที่มีคนต่างศาสนาจำนวนมากมาอยู่ด้วย

b “ลงโทษประชาชาติทั้งหลาย” เป็นความคิดเกี่ยวกับอันตวิทยา เมื่อพระเจ้าจะทรงพิพากษามนุษยชาติ (เทียบ อสย 26:21)

c ข้อความที่นี่และในข้อ 14-15 ชวนให้คิดถึงภาพของสุนัขจรจัดที่มักจะพบเป็นฝูงๆ ตามหมู่บ้านแถบตะวันออกกลาง

d “ใครที่ไหนจะมาได้ยินเรา” ถ้อยคำนี้อาจเป็นคำกล่าวดูหมิ่นพระเจ้าว่าไม่ทรงทราบเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับมนุษย์ (เทียบ สดด 10:4; 14:1; 64:5; 94:7) * บางคนคิดว่าประโยคนี้ไม่ใช่คำพูดของคนชั่ว แต่เป็นข้อสังเกตของผู้นิพนธ์เพลงสดุดี

e “พระเจ้าผู้ทรงความรักมั่นคง” แปลตามสำนวนแปลโบราณ

f “กระจัดกระจายไป” เหมือนคาอินใน ปฐก 4:14-15 พระเจ้าไม่ทรงทำลายคนชั่วให้สิ้นไป เพื่อจะได้เตือนใจชาวอิสราเอลให้เห็นพระยุติธรรมของพระองค์

g “เห่าหอนทั้งคืน” แปลตามตัวอักษรว่า “ค้างคืน” แต่คำนี้ยังเขียนคล้ายกับคำว่า “หอน” อีกด้วย ดูเหมือนว่าผู้เขียนต้องการรวมความหมายทั้งสองเข้าด้วยกัน

h ข้อความตอบรับเหมือนบทสร้อยข้อนี้ดูเหมือนจะไม่สมบูรณ์ น่าจะเพิ่มข้อความว่า “กำลังเสด็จมาช่วยข้าพเจ้า” (เทียบข้อ 10)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก