“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

IV. พระดำรัสของพระยาห์เวห์

 

พระดำรัสครั้งแรก

 

โยบจำต้องยอมรับพระปรีชาญาณของพระผู้สร้าง

38 1พระยาห์เวห์ทรงตอบโยบจากกลางลมพายุaว่า

2“ผู้นี้เป็นใครที่ใช้ถ้อยคำไร้ความรู้

ทำให้แผนการของเรามืดไป

3จงคาดสะเอวอย่างชายฉกรรจ์เถิด

เราจะถามท่าน ท่านจะต้องตอบเราb

4ท่านอยู่ที่ไหนเมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดิน

จงบอกมาซิ ถ้าท่านมีความรู้มากจริง

5ท่านต้องรู้ซิว่าผู้ใดกำหนดเขตให้แผ่นดิน

หรือผู้ใดขึงเชือกวัดขนาดแผ่นดิน

6รากฐานของโลกวางอยู่บนสิ่งใด

หรือผู้ใดได้วางศิลาหัวมุมของแผ่นดิน

7ท่านอยู่ที่ไหน เมื่อดาวรุ่งพร้อมกันขับร้อง

และบุตรทั้งหลายของพระเจ้าโห่ร้องด้วยความยินดี

8ผู้ใดปิดประตูcขังทะเลไว้

เมื่อทะเลคลอดออกมาจากครรภ์

9ท่านอยู่ที่ไหน เมื่อเราสร้างเมฆให้เป็นเสื้อ

และสร้างความมืดทึบเป็นผ้าอ้อมของทะเล

10เมื่อเรากำหนดเขต

และวางดาลปิดประตูให้ทะเล

11พูดว่า ‘เจ้ามาได้ไกลแค่นี้ อย่าเลยไปอีก

คลื่นคะนองของเจ้าจะหยุดเพียงแค่นี้’d

12ตั้งแต่วันที่ท่านเกิดมา ท่านเคยสั่งรุ่งอรุณ

และเคยกำหนดสถานที่ให้รุ่งอรุณอยู่หรือ

13รุ่งอรุณจะได้จับชายแผ่นดินไว้

และสลัดคนชั่วออกไป

14แผ่นดินเปลี่ยนไปเหมือนดินเหนียวถูกตราประทับ

และมีสีต่างๆe เหมือนเสื้อผ้า

15แสงสว่างถูกถอนไปจากคนชั่วf

เพราะแขนของเขาที่เงื้อขึ้นเพื่อทำร้ายย่อมถูกหัก

16ท่านเคยเข้าไปจนถึงตาน้ำแห่งทะเลg

หรือเดินเข้าไปในขุมลึกแล้วหรือ

17มีใครแสดงให้ท่านเห็นประตูแห่งความตาย

หรือท่านได้เห็นประตูเงาแห่งความตายhแล้วหรือ

18ท่านรู้ความกว้างใหญ่ของแผ่นดินหรือ

ถ้าท่านรู้ทุกสิ่งแล้ว ก็จงบอกมา

19หนทางไหนนำไปสู่ที่พำนักของความสว่างi

และที่ไหนเป็นสถานที่ของความมืด

20ท่านจะได้นำทั้งแสงสว่างและความมืดไปอยู่ในเขตแดนของตน

หรืออย่างน้อยก็ชี้ทางjให้มันกลับไปบ้านได้

21แน่นอน ท่านต้องรู้ เพราะเวลานั้นท่านเกิดมาแล้ว

จำนวนวันของท่านก็มากมาย

22ท่านเคยเข้าไปถึงคลังที่เก็บหิมะ

ท่านเคยเห็นคลังที่เก็บลูกเห็บแล้วหรือ

23เราเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้สำหรับเวลาที่มีเหตุร้าย

สำหรับวันที่มีสงครามและการสู้รบ

24แสงสว่างแยกย้ายไปทางไหนบ้าง

ลมตะวันออกพัดผ่านเหนือแผ่นดินส่วนใด

25ผู้ใดเซาะช่องให้สายฝน

หรือเปิดทางให้ฟ้าร้องฟ้าแลบ

26เพื่อนำฝนให้ตกบนแผ่นดินที่ไม่ผู้คนอาศัย

และในถิ่นทุรกันดารซึ่งไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่

27เพื่อให้ที่ดินว่างเปล่าและแห้งแล้งได้อิ่มน้ำ

และทำให้หญ้างอกขึ้นในทุ่งk

28ฝนมีพ่อหรือ

ผู้ใดให้กำเนิดหยาดน้ำค้าง

29น้ำแข็งออกมาจากครรภ์ใด

ใครให้กำเนิดน้ำค้างแข็งของท้องฟ้า

30น้ำกลายเป็นของแข็งเหมือนก้อนหิน

และผิวของทะเลลึกก็แข็งตัวl

31ท่านมัดดาวลูกไก่ไว้ให้เป็นกลุ่ม

หรือแก้เชือกมัดดาวไถได้หรือ

32ท่านนำดาวนักษัตรออกมาตามฤดูกาลได้หรือ

นำทางดาวจระเข้พร้อมกับบริวารได้ไหมm

33ท่านรู้กฎของท้องฟ้าหรือ

ท่านนำกฎเหล่านี้มาปกครองแผ่นดินได้หรือ

34ท่านตะเบ็งเสียงดังขึ้นไปถึงเมฆ

เพื่อน้ำมากมายจะลงมาคลุมท่านได้ไหมn

35ท่านส่งฟ้าผ่าให้ออกไปตามคำสั่งได้ไหม

มันจะได้พูดกับท่านว่า ‘พวกเราอยู่ที่นี่’

36ใครให้ปัญญาแก่นกช้อนหอย

หรือให้ความเข้าใจแก่พ่อไก่o

37ใครมีปัญญานับเมฆได้อย่างครบถ้วน

ใครเทน้ำจากอ่างเก็บบนท้องฟ้าได้

38เมื่อฝุ่นดินแข็งตัวเป็นก้อน

เมื่อก้อนดินเกาะติดกันแน่น

39ท่านไปล่าเหยื่อแทนแม่สิงโตp

เพื่อเลี้ยงลูกสิงโตให้อิ่มได้ไหม

40เมื่อมันหมอบอยู่ในถ้ำ

หรือนอนคอยอยู่ในที่ซ่อนของมัน

41ใครให้อาหารแก่นกกา

เมื่อลูกอ่อนร้องหาพระเจ้า

และบินไปมาqเพราะขาดอาหาร”

 

38 a “ลมพายุ” เป็นภาพที่พระคัมภีร์ใช้บ่อยๆ เมื่อกล่าวถึงการสำแดงองค์ของพระเจ้า ลมพายุชวนให้คิดถึงพระอานุภาพของพระองค์ (ดู สดด 18:7-15; 50:3; อสค 1:4; นฮม 1:3; ดู อพย 13:22 เชิงอรรถ h; 19:16 เชิงอรรถ g)

b “อย่างชายฉกรรจ์” บัดนี้สถานการณ์กลับกัน พระยาห์เวห์ทรงกลับเป็นผู้ทรงซักถามโยบบ้าง ให้โยบต้องตอบเพื่อป้องกันตน

c “ผู้ใดปิดประตู” ตามสำนวนแปลภาษาละติน (Vg) ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “พระองค์ทรงปิดประตู”

d “หยุดเพียงแค่นี้” ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “พระองค์จะทรงวาง(ในความหยิ่งยโส)”

e “มีสีต่างๆ” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ตั้งตัวขึ้น”

f “แสงสว่าง” ที่นี่มิได้หมายถึงแสงสว่างของเวลากลางวัน แต่เป็น “แสงสว่าง” สำหรับคนชั่วที่ใช้ความมืดเป็นโอกาสทำความชั่ว จึงหมายถึง “ความมืด” นั่นเอง (ดู 24:13ฯ)

g “ตาน้ำแห่งทะเล” หมายถึงพุน้ำซึ่งคนโบราณคิดว่าเป็นต้นกำเนิดที่ให้น้ำแก่ทะเล

h “เงาแห่งความตาย” คือ “แดนผู้ตาย” หรือ “she’ol” (กดว 16:33 เชิงอรรถ f) เกี่ยวกับ “ประตูแห่งความตาย” ดู อสย 38:10; สดด 9:13; 107:18; ปชญ 16:13

i “ความสว่าง” ถูกกล่าวถึงเหมือนกับเป็นบุคคลหนึ่งที่แตกต่างจากดวงอาทิตย์ “ความสว่าง” นี้กลับไปพักในบ้านทุกเย็นเมื่อ “ความมืด” ออกมาแทนที่

j “ชี้ทาง” แปลตามตัวอักษรว่า “นำกลับไป(ในหนทาง)”

k “ที่ดินว่างเปล่าและแห้งแล้ง” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ที่เกิด, ที่ออกมา” ข้อ 26-27 เน้นถึงพระทัยกว้างของพระเจ้า หรือความเอาพระทัยใส่ของพระองค์ต่อสิ่งสร้างอื่นๆ นอกเหนือจากมนุษย์ด้วย

l “แข็งตัว” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ซ่อน”

m “ดาวนักษัตร” ดาวลูกไก่ ดาวไถ ดาวจระเข้ เป็นดาวที่กำหนดฤดูกาลและชี้ทิศทาง

n “มาคลุมท่าน” บางคนแปลตามต้นฉบับภาษากรีกว่า “ทำตามที่ท่านสั่ง”

o “นกช้อนหอย – พ่อไก่” แปลโดยคาดคะเน คำที่แปลว่า “พ่อไก่” พบได้ที่ตรงนี้เท่านั้น สำนวนแปลภาษาอาราเมอิก (Targum) แปลเช่นนี้ “นกช้อนหอย” น่าจะเป็นการเขียนนามของเทพ “โธท” ของชาวอียิปต์ ซึ่งเป็นเทพแห่งปรีชาญาณและมีรูปร่างเป็นนก คำนี้ยังพบได้ที่อื่นอีกครั้งหนึ่ง (สดด 51:6) แต่มีความหมายต่างไปโดยสิ้นเชิง คนโบราณคิดว่าสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ (นกช้อนหอยและพ่อไก่) มีความรู้ถึงอนาคตได้ นกช้อนหอยบอกให้เรารู้ว่าเมื่อไรน้ำในแม่น้ำไนล์จะท่วม ส่วนพ่อไก่ขันบอกเราว่าเวลาเช้ามาถึงแล้ว บางคนเชื่ออีกว่าไก่ยังบอกล่วงหน้าด้วยว่าเมื่อไรฝนจะตก

p จากสิ่งที่ไม่มีชีวิตในธรรมชาติ ผู้เขียนกล่าวถึงสัตว์ต่างๆ และบัดนี้กล่าวถึงสัตว์ดุร้ายหรือสัตว์แปลกประหลาด ที่พระเจ้าทรงเอาพระทัยใส่ดูแลทั้งหมด

q “บินไปมา” บางคนแปลโดยคาดคะเนว่า “ยืดคอขึ้น” หรือแปลตามตัวอักษรว่า “ยืนขึ้น”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก