“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ค. พิธีรับรองพันธสัญญาa

24 1พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “ท่านจงขึ้นไปเฝ้าพระยาห์เวห์บนภูเขาพร้อมกับอาโรน นาดับ อาบีฮู และผู้อาวุโสชาวอิสราเอลอีกเจ็ดสิบคน ท่านทั้งหลายจะต้องกราบนมัสการเราอยู่ห่างๆ 2โมเสสเท่านั้นจะเข้าใกล้พระยาห์เวห์ได้ ส่วนคนอื่นจะเข้าใกล้ไม่ได้ และประชากรจะไม่ขึ้นไปพร้อมกับเขา”

3โมเสสไปบอกให้ประชากรรู้พระวาจาทุกคำและข้อกำหนดทั้งหมดbของพระยาห์เวห์ ประชากรทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “พวกเราจะปฏิบัติตามพระวาจาทุกคำที่พระยาห์เวห์ตรัสกับเรา” 4โมเสสบันทึกพระวาจาทุกคำของพระยาห์เวห์ไว้ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เขาสร้างพระแท่นบูชาไว้ที่เชิงภูเขา และตั้งหินสิบสองก้อนไว้เป็นตัวแทนทั้งสิบสองเผ่าของอิสราเอล 5เขาให้ชายหนุ่มชาวอิสราเอลเป็นผู้ถวายเครื่องเผาบูชา และฆ่าโคถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นศานติบูชา 6โมเสสรองเลือดครึ่งหนึ่งใส่ชามไว้ แล้วพรมเลือดอีกครึ่งหนึ่งบนพระแท่นบูชา 7เขาเอาหนังสือพันธสัญญาขึ้นมาอ่านให้ประชากรฟัง ประชากรตอบว่า “พวกเราจะเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระวาจาที่พระยาห์เวห์ตรัส” 8โมเสสนำเลือดcในชามประพรมประชากรพูดว่า “นี่คือโลหิตแห่งพันธสัญญาที่พระยาห์เวห์ทรงกระทำกับท่านตามพระวาจาเหล่านี้ทั้งหมด”

9แล้วโมเสส อาโรน นาดับ อาบีฮู และผู้อาวุโสชาวอิสราเอลเจ็ดสิบคนขึ้นไปบนภูเขา 10และเห็นพระเจ้าของอิสราเอล ใต้พระบาทของพระองค์เป็นพื้นสุกใสเหมือนนิลสีครามบริสุทธิ์ดังท้องฟ้า 11บรรดาหัวหน้าชาวอิสราเอลเหล่านี้เห็นพระเจ้า แต่พระองค์มิได้ทรงลงโทษเขา เขายังคงกินและดื่มกัน

 

โมเสสบนภูเขาd

12พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “ท่านจงขึ้นมาหาเราบนภูเขานี้ และจงอยู่ที่นี่เถิด เราจะให้แผ่นศิลาที่จารึกธรรมบัญญัติและบทบัญญัติที่เราได้เขียนไว้เพื่อสั่งสอนประชากร” 13โมเสสพร้อมกับโยชูวาผู้ช่วยจึงเตรียมตัวขึ้นไปeบนภูเขาของพระเจ้า 14เขาสั่งบรรดาผู้อาวุโสว่า “ท่านทั้งหลายจงคอยอยู่ที่นี่จนกว่าเราจะกลับมาหาท่าน อาโรนและเฮอร์จะอยู่ที่นี่กับท่านทั้งหลาย ใครมีข้อพิพาท ก็จงมาหาเขาทั้งสองคนเถิด” 15โมเสสขึ้นไปบนภูเขา แล้วเมฆปกคลุมภูเขาไว้ 16พระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์fลงมาอยู่บนภูเขาซีนาย เมฆปกคลุมภูเขานั้นไว้เป็นเวลาหกวัน ในวันที่เจ็ด พระยาห์เวห์ทรงเรียกโมเสสจากกลางเมฆนั้น 17ชาวอิสราเอลเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์เป็นเหมือนไฟลุกลามอยู่บนยอดเขา 18โมเสสเข้าไปในกลุ่มเมฆแล้วขึ้นไปบนภูเขา โมเสสอยู่บนภูเขาเป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืนg

24 a ข้อความตอนนี้รวมเรื่องเล่าถึงพิธีรับรองพันธสัญญาสองเรื่องเข้าด้วยกัน คือ (1) ข้อ 1-2, 9-11 จากตำนานยาห์วิสต์ มีงานเลี้ยงเป็นพิธีรับรองพันธสัญญา (2) ข้อ 3-8 จากตำนานเอโลฮิสต์ ซึ่งมีการประพรมเลือดเหนือพระแท่นและเหนือประชาชนเป็นพิธีรับรองพันธสัญญา เราจะพบเรื่องพิธีรับรองพันธสัญญาอีกแบบหนึ่ง (จากตำนานยาห์วิสต์) ในบทที่ 34

b “พระวาจา” หมายถึง บทบัญญัติสิบประการ (ดู 20:1ฯ) ซึ่งจะเรียกว่า “ประมวลกฎหมายพันธสัญญา” ใน 24:7 ส่วน “ข้อกำหนด” หมายถึง กฎต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาหลังจากที่ “ประมวลกฎหมายพันธสัญญา” ได้เพิ่มเข้ามาก่อนแล้ว (ดู 21:1)

c โมเสสเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้าและประชาชน เขาจึงเอาเลือดจากโคตัวเดียวกันมาประพรมพระแท่นบูชาซึ่งเป็นสัญลักษณ์หมายถึงพระยาห์เวห์ และประพรมประชากรเพื่อแสดงว่าพระเจ้าและประชากรของพระองค์รวมเป็นหนึ่งเดียวอาศัยพันธสัญญา ดังนั้น ต้องใช้เลือดในพิธีรับรองพันธสัญญา (ดู ลนต 1:5 เชิงอรรถ e) เช่นเดียวกับที่พระโลหิตของพระคริสตเจ้ารับรองพันธสัญญาใหม่ (มธ 26:28 เชิงอรรถ i; ฮบ 9:12-26, 15 เชิงอรรถ i)

d ข้อ 12-15ก และ 18ข ดูเหมือนว่าจะมาจากตำนานเอโลฮิสต์ ส่วนข้อ 15ข-18ก มาจากตำนานสงฆ์

e แปลตามต้นฉบับภาษากรีก

f ตามตำนานสงฆ์ (ดู 13:22 เชิงอรรถ h) “พระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์” แสดงว่าพระเจ้าประทับอยู่ที่นั่น พระสิริรุ่งโรจน์นี้มีลักษณะเหมือนไฟ (ในที่นี้และใน 40:34-35) ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากกลุ่มเมฆที่อยู่รอบๆ ไฟนั้น ไฟและกลุ่มเมฆเป็นภาพลักษณ์ที่ยืมมาจากการเล่าถึงการสำแดงพระองค์ในพายุพร้อมกับฟ้าแลบ ฟ้าร้อง (19:16 เชิงอรรถ g) แต่มีความหมายลึกซึ้งกว่าอีก กล่าวคือ แสงเจิดจ้าซึ่งไม่จำเป็นต้องมีพร้อมกับพายุ (33:22) และทำให้ใบหน้าของโมเสสสุกใส (34:29) หมายถึง พระเดชานุภาพของพระเจ้าที่มนุษย์เข้าถึงไม่ได้ พระสิริรุ่งโรจน์นี้เข้าอยู่ในกระโจมนัดพบที่เพิ่งสร้างขึ้น (40:34-35) และภายหลังจะเข้าครอบครองพระวิหารของกษัตริย์ซาโลมอน (1 พกษ 8:10-11) ก่อนที่กรุงเยรูซาเล็มจะถูกทำลาย ประกาศกเอเสเคียลเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าออกจากนครไป (อสค 9:3; 10:4, 18-19; 11:22-23) ต่อมา เขายังได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์กลับมายังพระวิหารหลังใหม่ (อสค 43:1ฯ) สำหรับเอเสเคียล พระสิริรุ่งโรจน์จะมีรูปร่างมนุษย์ที่สุกใส (อสค 1:26-28) ในพระคัมภีร์ตอนอื่นๆ โดยเฉพาะในหนังสือเพลงสดุดี พระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์จะหมายถึงเพียงพระเดชานุภาพของพระเจ้าเท่านั้น และหมายถึงการถวายเกียรติที่พระองค์ควรจะได้รับ โดยเฉพาะในวาระสุดท้ายของโลก หรือมิฉะนั้น หมายถึงอำนาจทำอัศจรรย์ของพระเจ้า (15:7 เทียบ “พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้า” ใน ยน 2:11; 11:40)

g จงเปรียบเทียบการเดินทางสี่สิบวันของประกาศกเอลียาห์ไปถึงภูเขาซีนาย (1 พกษ 19:8) และการอยู่ในถิ่นทุรกันดารสี่สิบวันของพระเยซูเจ้า (มธ 4:2//)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก