“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

แผ่นดินคานาอันเป็นของประทานจากพระยาห์เวห์

9 1อิสราเอลเอ๋ย จงฟังเถิด วันนี้ ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครองแผ่นดินของชนชาติยิ่งใหญ่และแข็งแรงกว่าท่าน มีเมืองใหญ่ที่มีป้อมปราการสูงเทียมฟ้า 2ชาวเมืองก็มีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนบุตรของยักษ์อานาคที่ท่านเคยได้ยินแล้วว่า “ไม่มีใครต้านทานบุตรของยักษ์อานาคนี้ได้” 3ท่านจงรู้ในวันนี้เถิดว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเสด็จนำหน้าท่านไปเหมือนไฟเผาผลาญ พระองค์จะทรงทำลายและทรงทำให้เขาอยู่ใต้อำนาจของท่าน ท่านจะขับไล่เขาออกไป และทำลายเขาได้อย่างรวดเร็ว ดังที่พระยาห์เวห์ตรัสไว้แก่ท่าน 4เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงขับไล่เขาออกไปต่อหน้าท่านแล้ว อย่าคิดว่า “พระยาห์เวห์ทรงนำท่านมาครอบครองแผ่นดินนี้เป็นการตอบแทนคุณงามความดีของท่าน” แต่พระยาห์เวห์ทรงขับไล่ชนชาติเหล่านี้ต่อหน้าท่าน เพราะเขาทำความชั่วร้าย 5ท่านเข้ายึดครองแผ่นดินนี้ไม่ใช่เพราะท่านเป็นผู้ชอบธรรม หรือมีใจซื่อสัตย์ แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงขับไล่ชนชาติเหล่านี้ต่อหน้าท่าน เพราะเขาทำความชั่วร้าย และเพราะพระยาห์เวห์ทรงตั้งพระทัยจะรักษาพระสัญญาที่ทรงสาบานไว้กับบรรพบุรุษของท่าน คือ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ 6จงรู้เถิดว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานแผ่นดินอุดมสมบูรณ์นี้ให้ท่านครอบครอง มิใช่เป็นการตอบแทนคุณงามความดีของท่าน เพราะท่านเป็นประชากรที่ดื้อรั้นด้วย

 

ประชากรทำบาปที่ภูเขาโฮเรบ คำอธิษฐานภาวนาของโมเสสa

7จงจำไว้ อย่าลืมว่าเมื่อท่านอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ท่านทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกริ้ว ตั้งแต่วันที่ท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์จนถึงวันที่ท่านมาถึงที่นี่ ท่านกบฏต่อพระยาห์เวห์อย่างต่อเนื่อง 8เมื่ออยู่ที่ภูเขาโฮเรบ ท่านยังทำให้พระยาห์เวห์กริ้วอีก พระองค์กริ้วท่านจนตั้งพระทัยจะทำลายท่าน 9ข้าพเจ้าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อรับแผ่นศิลา คือแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญาที่พระยาห์เวห์ทรงกระทำกับท่าน ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขานั้นถึงสี่สิบวันสี่สิบคืน ไม่ได้กินหรือดื่มอะไรเลย 10แล้วพระยาห์เวห์ประทานศิลาสองแผ่นแก่ข้าพเจ้า พระองค์ทรงใช้นิ้วพระหัตถ์จารึกพระวาจาทุกคำที่พระองค์ตรัสแก่ท่านบนภูเขาจากกลางไฟ ในวันที่ท่านมาชุมนุมกันb 11หลังจากสี่สิบวันสี่สิบคืน พระยาห์เวห์ก็ประทานศิลาที่ทรงจารึกพันธสัญญาให้ข้าพเจ้า 12แล้วพระยาห์เวห์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “จงลุกขึ้น รีบลงไปจากภูเขานี้เถิด เพราะประชากรที่ท่านนำออกมาจากอียิปต์ได้ประพฤติชั่ว เขาได้เปลี่ยนวิถีทางอย่างรวดเร็วจากที่เราได้ชี้นำเขา เขาได้นำโลหะมาหลอมเป็นรูปเคารพ” 13พระยาห์เวห์ยังตรัสแก่ข้าพเจ้าอีกว่า “เราเห็นแล้วว่าประชากรนี้ดื้อรั้นเพียงไร 14ปล่อยเราเถิด เราจะทำลายล้างเขา จนไม่มีใครระลึกถึงชื่อของเขาอีกต่อไป แล้วเราจะทำให้ท่านเป็นชนชาติใหญ่กว่าและมีอำนาจมากกว่าเขา”

15ข้าพเจ้าจึงรีบลงมาจากภูเขาซึ่งลุกเป็นไฟ ถือศิลาสองแผ่นที่จารึกพันธสัญญา 16ข้าพเจ้าเห็นท่านกำลังทำบาปผิดต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านนำโลหะมาหลอมเป็นรูปลูกโค ท่านได้เปลี่ยนทางอย่างรวดเร็วจากที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาท่าน 17ข้าพเจ้าจึงทุ่มศิลาทั้งสองแผ่นลงที่พื้นดิน แตกเป็นเสี่ยงๆ ต่อหน้าท่านทั้งหลาย 18แล้วข้าพเจ้าไปกราบลงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืนเช่นเดียวกันกับครั้งก่อน ไม่ได้กินและไม่ได้ดื่ม ทั้งนี้เพราะบาปหนักที่ท่านทั้งหลายได้ทำเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ และความชั่วที่ท่านได้ทำเป็นเหตุให้พระองค์กริ้ว 19ข้าพเจ้าหวาดกลัวพระพิโรธของพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์กริ้วท่านมากจนตั้งพระทัยทำลายท่าน แต่พระยาห์เวห์ทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้าอีกครั้งหนึ่ง 20พระยาห์เวห์กริ้วอาโรนอย่างมาก จนตั้งพระทัยจะประหารชีวิตเขาเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจึงอธิษฐานภาวนาในเวลานั้นเพื่ออาโรนด้วย 21ข้าพเจ้านำรูปโคที่ท่านหลอมขึ้น และเป็นเหตุให้ท่านทำบาปมาเผาไฟ ทุบออกเป็นชิ้นๆ บดละเอียด แล้วโยนลงลำธารซึ่งไหลลงมาจากภูเขา

 

ชาวอิสราเอลทำบาปอีก คำอธิษฐานภาวนาของโมเสส

22ท่านทั้งหลายทำให้พระยาห์เวห์กริ้วที่ทาเบราห์ มัสสาห์ และขิบโรทฮัทธาอาวาห์ด้วย 23เมื่อพระยาห์เวห์ทรงบัญชาให้ท่านไปจากคาเดชบารเนอา ตรัสว่า “จงเข้าไปยึดครองแผ่นดินที่เรายกให้ท่าน” ท่านทั้งหลายกลับกบฏต่อพระบัญชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ไม่ไว้วางพระทัยพระองค์และไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ 24ท่านเป็นกบฏต่อพระยาห์เวห์ ตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้ารู้จักท่านc

25ข้าพเจ้าจึงกราบลงนมัสการเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืน เพราะพระยาห์เวห์ทรงขู่ว่าจะทำลายท่าน 26ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาต่อพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า ขออย่าทรงทำลายประชากรของพระองค์เลย คนเหล่านี้เป็นสมบัติของพระองค์ที่ทรงใช้ความยิ่งใหญ่ไถ่คืนมา และทรงใช้พระหัตถ์ทรงฤทธิ์นำออกมาจากอียิปต์ 27ขอทรงระลึกถึงผู้รับใช้พระองค์ คืออับราฮัม อิสอัค และยาโคบ โปรดอย่าทอดพระเนตรความดื้อรั้น ความชั่วร้าย และบาปของประชากรนี้ 28เกรงว่าชาวแผ่นดินที่พระองค์ทรงนำเราออกมาจะพูดว่า “พระยาห์เวห์ไม่ทรงสามารถพาเขาเข้าไปในแผ่นดินที่ทรงสัญญาไว้ได้ พระองค์ทรงเกลียดชังเขา จึงพาเขาออกไปจากที่นี่ เพื่อประหารชีวิตในถิ่นทุรกันดาร” 29แต่คนเหล่านี้เป็นประชากรของพระองค์ เป็นสมบัติของพระองค์ที่ทรงใช้พระหัตถ์ทรงฤทธิ์ และพระอานุภาพยิ่งใหญ่นำออกมา

 

9 a ข้อความต่อไปนี้เป็นการเริ่มต้นตอนใหม่ ซึ่งจะจบลงที่ 10:11 โมเสสใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่งเล่าเรื่องรูปลูกโคทองคำ เรื่องการทุ่มแผ่นศิลาจารึกพันธสัญญาแตก การจารึกแผ่นศิลาขึ้นใหม่ และคำอธิษฐานภาวนาของตน ลีลาการเขียนตอนนี้มีลักษณะชวนให้คิดถึงบทที่ 1-3 เรื่องที่เล่าก็คล้ายกับเรื่องใน อพย 32 แต่มีรายละเอียดต่างกันบ้าง ข้อความตอนนี้ไม่ได้เขียนขึ้นโดยคนคนเดียว แต่มีหลายคนเพิ่มเติมรายละเอียดในภายหลัง เช่น 9:20, 22-24; 10:8-9 เป็นต้น จึงทำให้มีข้อความซ้ำกันหลายครั้ง

b “มาชุมนุมกัน” หลายครั้งในหนังสือ ฉธบ คำว่า qahal หมายถึง การที่ประชากรของพระเจ้ามาชุมนุมกันประกอบศาสนพิธี เช่นในวันประกาศธรรมบัญญัติ (18:16; ดู 4:10; 23:2-9) คำว่า “qahal” นี้มีความหมายที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้น (2 พศด 31:18 เชิงอรรถ f) จนในที่สุด ในพันธสัญญาใหม่จะหมายถึง “พระศาสนจักร” (มธ 16:18 เชิงอรรถ g; กจ 7:38)

c ต้นฉบับภาษากรีกและของชาวสะมาริตันว่า “พระองค์ทรงรู้จักท่าน”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก