“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

บทบัญญัติสิบประการ

5 1โมเสสเรียกประชุมชาวอิสราเอลทั้งหมด แล้วพูดว่า “อิสราเอลเอ๋ย จงฟังข้อกำหนดและกฎเกณฑ์aที่ข้าพเจ้าประกาศให้ท่านรู้ในวันนี้ จงท่องไว้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด”

2พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงทำพันธสัญญาไว้กับเราที่ภูเขาโฮเรบ 3พระยาห์เวห์มิได้ทรงทำพันธสัญญานี้กับบรรพบุรุษของเรา แต่ทรงทำกับเราทุกคนที่มีชีวิตอยู่ที่นี่ในวันนี้ 4พระยาห์เวห์ตรัสแก่ท่านโดยตรงจากกองไฟบนภูเขา 5ขณะที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ระหว่างพระยาห์เวห์กับท่าน เพื่อแจ้งพระวาจาของพระยาห์เวห์แก่ท่าน เพราะท่านกลัวกองไฟนั้น และไม่ยอมขึ้นไปบนภูเขา พระองค์ตรัสว่า

6“เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เป็นผู้นำท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ ให้พ้นจากการเป็นทาส 7ท่านอย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา”

8“ท่านต้องไม่ทำรูปเคารพสำหรับตน ไม่ว่าจะเป็นรูปสิ่งใดสิ่งหนึ่งซึ่งอยู่ในท้องฟ้าเบื้องบน หรืออยู่ในแผ่นดินเบื้องล่าง หรืออยู่ในน้ำใต้แผ่นดิน 9ท่านต้องไม่กราบไหว้รูปเคารพเหล่านั้นb เพราะเรา พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าที่ไม่ทรงยอมให้มีคู่แข่ง เราลงโทษความผิดของบิดาที่เกลียดชังเราไปถึงลูกหลานจนถึงสามสี่ชั่วอายุคน 10แต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อผู้ที่รักเรา และปฏิบัติตามบทบัญญัติของเราจนถึงพันชั่วอายุคน”

11“อย่ากล่าวนามพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างไม่สมควร เพราะพระยาห์เวห์จะไม่ทรงเว้นโทษ ผู้ที่กล่าวพระนามพระองค์อย่างไม่สมควร

12“จงรักษาวันสับบาโตไว้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาแก่ท่าน 13ท่านจะต้องออกแรงทำงานทั้งสิ้นของท่านในหกวัน 14แต่วันที่เจ็ดเป็นวันพักผ่อนที่ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ท่านทั้งหลายพร้อมกับบุตรชายบุตรหญิง บ่าวไพร่ชายหญิง โค ลา และสัตว์อื่นๆ ของท่าน รวมทั้งคนต่างถิ่นที่อยู่กับท่าน ต้องไม่ทำงานใดๆ ในวันนั้น ดังนี้บ่าวไพร่ชายหญิงของท่านจะได้พักผ่อนเช่นเดียวกันกับท่าน 15จงจำไว้ว่า ท่านเคยเป็นทาสในแผ่นดินอียิปต์ และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงใช้พระหัตถ์ทรงฤทธิ์ และพระอานุภาพยิ่งใหญ่นำท่านออกจากที่นั่น เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจึงทรงบัญชาให้ท่านรักษาวันสับบาโตcไว้เป็นวันพักผ่อน”

16“จงนับถือบิดามารดา ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชา เพื่อท่านจะได้มีอายุยืน อยู่อย่างมีความสุขในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านประทานให้”

17“อย่าฆ่าคน”

18“อย่าล่วงประเวณี”

19“อย่าลักขโมย”

20“อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน”

21“อย่าโลภมักได้ภรรยาของเพื่อนบ้าน อย่าโลภมักได้บ้านเรือนของเพื่อนบ้าน ไร่นา บ่าวไพร่ชายหญิง โค ลา และทรัพย์สินใดๆ ที่เป็นของเพื่อนบ้าน”

22พระยาห์เวห์ตรัสพระวาจาเหล่านี้แก่ท่านทุกคนที่มาชุมนุมกันที่ภูเขาด้วยพระสุรเสียงดังจากกองไฟ จากเมฆและความมืดทึบ หลังจากนั้น พระองค์ไม่ได้ตรัสอะไรอีก พระองค์ทรงจารึกพระวาจานี้ไว้บนศิลาสองแผ่นและทรงมอบให้ข้าพเจ้า

 

โมเสสเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับประชากร

23เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินพระสุรเสียงจากความมืด และเห็นภูเขาลุกเป็นไฟ ทุกท่านรวมทั้งหัวหน้าเผ่าและผู้อาวุโสมาหาข้าพเจ้า 24พูดว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงสำแดงให้เราเห็นพระสิริรุ่งโรจน์และความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์จากกองไฟ วันนี้ เราเห็นแล้วว่าเป็นไปได้ที่มนุษย์จะคงมีชีวิตอยู่ทั้งๆ ที่พระเจ้าตรัสแก่เขา 25แต่บัดนี้ทำไมเราจะต้องเสี่ยงกับความตายอีก เราจะต้องตายแน่ๆ ถ้าเราได้ยินพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราอีก 26เพราะว่ามนุษย์คนใดยังจะมีชีวิตอยู่ได้หลังจากที่ได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าผู้ทรงชีวิตd ดังที่เราได้ยินพระองค์ตรัสจากกองไฟ 27ท่านผู้เดียวจงไปฟังพระวาจาที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราจะตรัสเถิด แล้วกลับมาบอกเราว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราตรัสประการใดบ้าง เราจะฟังและปฏิบัติตาม”

28พระยาห์เวห์ทรงฟังถ้อยคำที่ท่านพูดกับข้าพเจ้า แล้วตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “เราได้ยินถ้อยคำที่ประชากรนี้พูดแก่ท่านแล้ว สิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง 29ขอเพียงให้จิตใจเขาเป็นเช่นนี้ตลอดไปเถิด ให้เขายำเกรงเราและปฏิบัติตามบทบัญญัติของเราทุกประการ เขากับบุตรหลานจะอยู่อย่างมีความสุขตลอดไป” 30จงไปบอกเขาว่า “กลับไปที่กระโจมของท่านเถิด” 31แต่ท่านจงอยู่กับเราที่นี่ เราจะบอกบทบัญญัติทั้งหมดของเราแก่ท่าน รวมทั้งข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ที่ท่านจะต้องสั่งสอนเขา เพื่อเขาจะปฏิบัติตามในแผ่นดินที่เรากำลังจะมอบให้เป็นมรดกแก่เขา

 

ความรักต่อพระยาห์เวห์เป็นสาระสำคัญของธรรมบัญญัติe

32จงจำใส่ใจ และปฏิบัติตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาแก่ท่าน อย่าหันไปทางขวาหรือทางซ้ายเลย 33แต่จงเดินตามทางซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาท่านไว้ทุกประการ เพื่อท่านจะได้อยู่อย่างมีความสุข และจะมีชีวิตยืนยาวในแผ่นดินที่ท่านกำลังเข้ายึดครอง

 

5 a ข้อความตอนนี้ไม่เป็นเพียงแต่เกริ่นถึงบทบัญญัติสิบประการเท่านั้น แต่ยังเกริ่นถึงประมวลกฎหมายธรรมบัญญัติทั้งหมดด้วย (เทียบ 6:1)

b ดู อพย 20:5 เชิงอรรถ d

c เหตุผลว่าทำไมจึงต้องหยุดงานพักผ่อนในบทนี้ต่างจากเหตุผลที่ให้ใน อพย 20:11 ในที่นี้ วันสับบาโตเป็นการระลึกถึงการปลดปล่อยจากการเป็นทาสในอียิปต์ จึงมีความหมายสองประการ คือเป็นวันแห่งความชื่นชม (เทียบกับวันฉลองเทศกาลสัปดาห์ 16:10-12) และเป็นวันที่ผู้รับใช้และคนต่างด้าวที่เป็นทาสจะได้หยุดพักจากงานหนัก (เทียบกับเหตุผลในกฎหมายปกป้องคนยากจน 24:18, 22) แนวความคิดเช่นนี้ได้พัฒนาขึ้นในสมัยที่วันสับบาโตมีบทบาทมากขึ้นในสังคมอิสราเอล

d สำนวนว่า “พระเจ้าผู้ทรงชีวิต” เป็นสูตรโบราณแสดงความเชื่อในพระเจ้าเที่ยงแท้ (6:4 เชิงอรรถ b) เพราะเป็นการยืนยันว่าไม่มีพระอื่นๆ เพราะพระเหล่านั้นไม่มีชีวิต เป็นเพียงรูปเคารพ (ยชว 3:10; 1 ซมอ 17:26,36; สดด 84:2; อสย 37:4; ยรม 10:8-10; ฮชย 2:1; ดู มธ 16:16; 26:23; รม 9:26; 1 ธส 1:9; 1 ทธ 3:15)

e เมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีตแล้ว คำปราศรัยจะเป็นคำสอนและคำเตือนใจสั้นๆ ติดต่อกัน ซึ่งจะเป็นการสรุปจิตตารมณ์ทางศาสนาของเฉลยธรรมบัญญัติ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก