“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ง. การปฏิรูปศาสนาในรัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์a

โยสิยาห์ทรงเป็นกษัตริย์

34 1โยสิยาห์ทรงเป็นกษัตริย์เมื่อพระชนมายุแปดพรรษา และทรงครองราชย์เป็นเวลาสามสิบเอ็ดปีที่กรุงเยรูซาเล็ม 2พระองค์ทรงกระทำแต่สิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงเห็นว่าถูกต้อง ทรงดำเนินตามวิถีทางของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษ โดยไม่ทรงหันเหแต่ประการใด

 

การปฏิรูปศาสนาครั้งแรก

            3ปีที่แปดในรัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ ขณะที่ยังทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงเริ่มแสวงหาพระเจ้าของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษ ในปีที่สิบสอง พระองค์ทรงเริ่มชำระแคว้นยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็มให้หมดมลทินโดยทรงทำลายสักการสถานบนที่สูง ทรงทำลายเสาไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเทพีอาเชราห์และรูปเคารพแกะสลัก หรือรูปเคารพที่หล่อด้วยโลหะ 4พระองค์ทรงบัญชาให้ทำลายแท่นบูชาของพระบาอัล ทรงทำลายแท่นถวายกำยานซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ นั้น ทรงทำลายเสาไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเทพีอาเชราห์ และรูปเคารพแกะสลัก หรือรูปเคารพโลหะที่หล่อด้วยโลหะ ทรงบดละเอียดนำมาโปรยบนหลุมศพของผู้ที่ถวายบูชาแก่รูปเคารพเหล่านั้น 5พระองค์ทรงเผากระดูกของบรรดาสมณะบนแท่นบูชาของเขา และดังนี้ พระองค์ทรงชำระแคว้นยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็มให้หมดมลทิน 6พระองค์ทรงกระทำเช่นเดียวกันตามเมืองต่างๆ ของเผ่ามนัสเสห์ เอฟราอิม และสิเมโอน จนถึงเผ่านัฟทาลี และในชนบทโดยรอบ 7พระองค์ทรงทำลายแท่นบูชา ทรงสับเสาไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเทพีอาเชราห์ ทรงบดรูปเคารพให้แหลกละเอียด ทรงทำลายแท่นเผากำยานทั้งหมดทั่วแผ่นดินอิสราเอล แล้วเสด็จกลับกรุงเยรูซาเล็ม

 

งานซ่อมแซมพระวิหาร

8ปีที่สิบแปดในรัชกาลกษัตริย์โยสิยาห์ เมื่อทรงชำระแผ่นดินและพระวิหารแล้ว พระองค์ทรงส่งชาฟานบุตรของอาซาลิยาห์ มาอาเสยาห์ผู้ว่าราชการกรุงเยรูซาเล็ม และโยอัคราชเลขาบุตรของโยคัส ไปซ่อมแซมพระวิหารของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ 9คนเหล่านี้ไปพบมหาสมณะฮิลคียาห์ มอบเงินที่เก็บไว้ในพระวิหารของพระเจ้า เงินนี้ชนเลวีผู้เฝ้าประตูพระวิหารเก็บจากชนเผ่ามนัสเสห์ เอฟราอิม จากชนอิสราเอลที่รอดชีวิต จากชนเผ่ายูดาห์ทั้งหมด จากชนเผ่าเบนยามินและชาวกรุงเยรูซาเล็มb 10เขามอบเงินแก่ผู้ดูแลงานซ่อมแซมพระวิหารของพระยาห์เวห์ เพื่อจ่ายเป็นค่าจ้างแก่คนงานที่ทำงานซ่อมแซมในพระวิหารของพระยาห์เวห์ 11เขาให้เงินนี้แก่ช่างไม้และช่างก่อหินเพื่อซื้อหินที่ตัดแล้ว และไม้ขื่อสำหรับค้ำอาคารที่บรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ทรงปล่อยให้ชำรุดมีความมั่นคงขึ้น

12คนเหล่านั้นทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ผู้คุมงานคือ ยาคัทและโอบาดีห์ ชนเลวีลูกหลานของเมรารี เศคาริยาห์กับเมชุลลัม ลูกหลานของโคฮาท ชนเลวีทุกคนที่ชำนาญเล่นเครื่องดนตรีc 13ดูแลคนหาบหามและควบคุมคนงานที่ทำหน้าที่ต่างๆ ส่วนชนเลวีอื่นๆ เป็นผู้เก็บเอกสาร เป็นผู้ตรวจงานและยามเฝ้าประตู

 

การพบหนังสือธรรมบัญญัติ

            14เมื่อนำเงินที่เก็บไว้ในพระวิหารของพระยาห์เวห์ออกจากห้องคลัง ฮิลคียาห์สมณะได้พบหนังสือธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์ ที่พระองค์ประทานผ่านทางโมเสส 15สมณะฮิลคียาห์บอกชาฟานราชเลขาว่า “ข้าพเจ้าพบหนังสือธรรมบัญญัติอยู่ในพระวิหารของพระยาห์เวห์” ฮิลคียาห์มอบหนังสือนั้นแก่ชาฟาน 16ชาฟานนำหนังสือไปถวายกษัตริย์ ทูลว่า “บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ได้ทำตามพระบัญชาทุกประการ 17เขานำเงินที่พบในพระวิหารของพระยาห์เวห์มอบให้แก่ผู้ควบคุมงานและคนงานแล้ว” 18ชาฟานราชเลขาทูลเสริมอีกว่า “สมณะฮิลคียาห์ให้หนังสือเล่มหนึ่งแก่ข้าพเจ้า” แล้วชาฟานก็อ่านหนังสือถวายกษัตริย์d

          19เมื่อกษัตริย์ทรงได้ยินถ้อยคำจากหนังสือธรรมบัญญัติ พระองค์ทรงฉีกฉลองพระองค์ด้วยความทุกข์ 20ทรงสั่งสมณะฮิลคียาห์ อาคิคัมบุตรของชาฟาน อับโดนบุตรของมีคาห์ ชาฟานราชเลขา และอาสายาห์ข้าราชบริพารของกษัตริย์ว่า 21“จงไปทูลถามพระยาห์เวห์ให้เรา ให้ชาวอิสราเอลและชาวยูดาห์ที่รอดชีวิตถึงเรื่องถ้อยคำในหนังสือที่พบนี้เถิด พระยาห์เวห์ทรงพระพิโรธพวกเราอย่างยิ่ง เพราะบรรพบุรุษของเราไม่เชื่อฟังพระวาจาของพระยาห์เวห์ และไม่ปฏิบัติตามที่มีเขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้”

 

คำแนะนำของประกาศกหญิงฮุลดาห์

            22สมณะฮิลคียาห์พร้อมกับผู้ที่กษัตริย์ทรงเลือกจึงไปพบประกาศกหญิงฮุลดาห์ภรรยาของชัลลุม บุตรของทกคัท บุตรของคัสราห์ผู้รักษาอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์ในพระวิหาร นางอาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มเขตใหม่ เขาเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง 23นางก็ตอบว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ ‘จงไปบอกผู้ที่ส่งท่านมาพบข้าพเจ้าว่า 24พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ เรากำลังจะนำภัยพิบัติมาสู่สถานที่นี้ และแก่ผู้อาศัยทุกคน คือคำสาปแช่งที่เขียนไว้ในหนังสือที่กษัตริย์แห่งยูดาห์ทรงอ่าน 25เขาทั้งหลายได้ละทิ้งเราไปถวายกำยานแก่เทพเจ้าอื่น ผลงานจากมือของเขายั่วยุให้เราโกรธ ความโกรธของเราต่อสถานที่นี้พลุ่งขึ้นและจะไม่มีวันดับ 26จงไปทูลกษัตริย์แห่งยูดาห์ผู้ทรงส่งท่านมาทูลถามพระยาห์เวห์ว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ ท่านได้ยินถ้อยคำเหล่านี้แล้ว... 27เมื่อได้ยินถ้อยคำที่เรากล่าวคุกคามสถานที่นี้และชาวเมืองทุกคนว่าจะถูกทำลายและถูกสาปแช่ง ท่านก็สะเทือนใจ ถ่อมตนเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ท่านถ่อมตนต่อหน้าเรา ฉีกเสื้อผ้าด้วยความทุกข์และร้องไห้ต่อหน้าเรา เราก็ได้ยิน พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ 28เราจะให้ท่านตายอย่างสงบและถูกฝังในที่ฝังศพของท่าน ท่านจะไม่ต้องเห็นภัยพิบัติทั้งหมดที่เราจะนำมาสู่สถานที่นี้และมาสู่ชาวเมือง’” เขาจึงกลับไปทูลเรื่องนี้แด่กษัตริย์

 

พิธีรื้อฟื้นพันธสัญญา

            29กษัตริย์โยสิยาห์ทรงเรียกประชุมบรรดาผู้อาวุโสแห่งยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม 30พระองค์เสด็จขึ้นไปยังพระวิหารของพระยาห์เวห์พร้อมกับชาวยูดาห์และผู้อาศัยที่กรุงเยรูซาเล็มทุกคน บรรดาสมณะ ชนเลวีและประชากรทั้งหลาย ทั้งชนชั้นสูงและคนธรรมดา พระองค์ทรงอ่านถ้อยคำทั้งหมดของหนังสือพันธสัญญาที่พบในพระวิหารของพระยาห์เวห์ให้ทุกคนได้ยิน 31กษัตริย์ทรงยืนข้างเสาe ทรงกระทำพันธสัญญาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ว่าจะดำเนินตามพระยาห์เวห์ จะรักษาบทบัญญัติ กฤษฎีกา และข้อกำหนดของพระองค์สุดจิตใจ สุดวิญญาณ จะปฏิบัติตามถ้อยคำของพันธสัญญาที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้ 32พระองค์ทรงให้ทุกคนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มและชนเผ่าเบนยามินปฏิญาณตน

          ชาวกรุงเยรูซาเล็มก็ปฏิบัติตามพันธสัญญาของพระเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษf 33กษัตริย์โยสิยาห์ทรงทำลายรูปเคารพน่าสะอิดสะเอียนทั้งหมด ที่อยู่ในเขตแดนของชาวอิสราเอล และทรงบังคับทุกคนที่อยู่ในอิสราเอลให้รับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของตน ตราบเท่าที่ทรงพระชนม์อยู่ ประชาชนจึงไม่เปลี่ยนวิถีทางไปจากการติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษ

 

 

34 a 2 พกษ 22-23 เล่าเรื่องการปฏิรูปศาสนาของกษัตริย์โยสิยาห์ว่าเป็นผลต่อเนื่องมาจากการค้นพบหนังสือธรรมบัญญัติขณะที่คนงานกำลังทำงานซ่อมแซมพระวิหาร แต่ผู้เขียนพงศาวดารเล่าว่าการปฏิรูปศาสนานี้เป็นการชำระพระวิหารให้หมดมลทิน (34:8) และเป็นเวลาช่วงที่สองของการชำระกรุงเยรูซาเล็ม แคว้นยูดาห์และอิสราเอลให้หมดมลทินจากการนับถือรูปเคารพ (ข้อ 3-7) เมื่อเป็นเช่นนี้ การปฏิรูปน่าจะเริ่มในปีที่สิบสองของรัชกาล เมื่อกษัตริย์โยสิยาห์ทรงพระชนมายุยี่สิบพรรษา ไม่ใช่ในปีที่สิบแปดของรัชกาลดังที่เล่าใน 2 พกษ 22:3 ลำดับเหตุการณ์ต่อไปนี้น่าจะถูกต้อง คือ การซ่อมแซมพระวิหารเริ่มขึ้นเพราะความกระตือรือร้นที่จะทำการปฏิรูปและต่อต้านการนับถือรูปเคารพของชนต่างชาติ ซึ่งแสดงการรื้อฟื้นความรักชาติในโอกาสที่อาณาจักรอัสซีเรียอ่อนแอลงตอนปลายรัชสมัยของกษัตริย์อาชูร์บานิปัล เราพอจะเห็นได้ชัดว่าการปฏิรูปศาสนาดำเนินเป็นขั้นตอน ซึ่ง 2 พกษ นำมารวมเข้าด้วยกันหลังจากการค้นพบหนังสือธรรมบัญญัติ และผู้เขียนพงศาวดารใช้แหล่งข้อมูลนี้เพื่อกล่าวถึงการปฏิรูปในช่วงเวลาแรก โดยนำเพียงแต่เรื่องการรื้อฟื้นพันธสัญญาและงานฉลองปัสกาอย่างสง่าเท่านั้นมากล่าวไว้ตอนปลาย

b “เก็บจากชนเผ่ามนัสเสห์...และชาวกรุงเยรูซาเล็ม” และดังนี้ชาวอิสราเอลทุกคนจึงมีส่วนร่วมในการซ่อมแซมพระวิหาร ผู้เขียนพงศาวดารมักจะย้ำอยู่เสมอว่าประชากรของพระยาห์เวห์มีเพียงประชากรเดียวเท่านั้น (ดู อสค 37:15ฯ)

c ข้อ 12ข-13 เป็นข้อความเฉพาะของผู้เขียนพงศาวดารเท่านั้น เขากล่าวว่ามีแต่ชนเลวีและนักขับร้องเท่านั้นที่รับผิดชอบงานซ่อมแซมพระวิหาร

d 2 พกษ 22:10 เล่าถึงการ “อ่านหนังสือ” ที่พบนี้ ซึ่งคงจะหมายถึงหนังสือ ฉธบ แต่ผู้เขียนพงศาวดารอาจคิดว่าหนังสือนี้คือ หนังสือปัญจบรรพทั้งหมด ซึ่งยาวเกินกว่าจะอ่านจบในการอ่านครั้งเดียว

e “ข้างเสา” แปลโดยคาดคะเน (ดู 23:13; 2 พกษ 11:14) ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ในที่ยืนของพระองค์”

f ผู้เขียนพงศาวดารสรุปข้อมูลของ 2 พกษ 23:4ฯ เพียงสั้นๆ และนำข้อมูลเหล่านี้มาใส่ไว้ตอนต้นของเรื่องที่เขาจะเล่าใน 2 พศด 34:3-7

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก