“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

6 1กษัตริย์ซาโลมอนทูลว่า

          “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์พอพระทัยประทับในเมฆมืดทึบ

          2ข้าพเจ้าสร้างพระวิหารสง่างามถวายพระองค์

                    เป็นที่พำนักถาวรแด่พระองค์”

 

กษัตริย์ซาโลมอนทรงปราศรัยกับประชาชนa

            3ขณะที่ประชากรอิสราเอลซึ่งมาชุมนุมกันยังยืนอยู่ที่นั่น กษัตริย์ทรงหันกลับมาอวยพรเขา 4ตรัสว่า “ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล พระองค์ทรงบันดาลให้พระสัญญาที่ตรัสไว้แก่ดาวิดพระบิดาเป็นจริงว่า 5‘นับตั้งแต่วันที่เรานำอิสราเอลประชากรของเราออกจากอียิปต์ เราไม่ได้เลือกเมืองใดจากทุกเผ่าของอิสราเอล เพื่อสร้างพระวิหารเป็นที่อยู่สำหรับนามของเรา ไม่ได้เลือกผู้ใดให้เป็นผู้นำอิสราเอลประชากรของเรา 6แต่เราเลือกกรุงเยรูซาเล็มเพื่อเป็นที่อยู่สำหรับนามของเรา และเลือกดาวิดให้ปกครองอิสราเอลประชากรของเรา’ 7กษัตริย์ดาวิดพระบิดาทรงตั้งพระทัยจะสร้างพระวิหารถวายแด่พระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล 8แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับกษัตริย์ดาวิดพระบิดาว่า ‘ท่านตั้งใจจะสร้างพระวิหารถวายแก่นามของเรา ท่านทำดีแล้วที่คิดเช่นนี้ 9ไม่ใช่ท่านที่จะสร้างพระวิหาร แต่บุตรที่จะเกิดจากท่านจะสร้างพระวิหารถวายแก่นามของเรา’ 10บัดนี้ พระยาห์เวห์ทรงรักษาพระสัญญาที่ตรัสไว้ ข้าพเจ้าได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลสืบต่อจากดาวิดพระบิดา ตามที่พระยาห์เวห์ทรงสัญญาไว้ ข้าพเจ้าได้สร้างพระวิหารถวายแด่พระนามพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล 11ทั้งยังได้ประดิษฐานหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ ซึ่งพระองค์ทรงกระทำกับชาวอิสราเอลไว้ที่นั่น”

 

กษัตริย์ซาโลมอนทรงอธิษฐานภาวนาสำหรับพระองค์เอง

            12กษัตริย์ซาโลมอนทรงยืนอยู่หน้าพระแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ ต่อหน้าชาวอิสราเอลทุกคนที่มาชุมนุมกัน ทรงชูพระกรขึ้นสู่สวรรค์ 13พระองค์ได้ทรงสร้างยกพื้นทองสัมฤทธิ์bไว้กลางลานใหญ่ ยาวสองเมตรครึ่ง กว้างสองเมตรครึ่ง สูงหนึ่งเมตรครึ่ง เสด็จขึ้นบนยกพื้น ทรงคุกเข่าลงต่อหน้าชุมชนอิสราเอลทั้งปวงและทรงชูพระกรขึ้นสู่สวรรค์ 14ทรงอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ไม่มีพระเจ้าอื่นใดเหมือนพระองค์ทั้งในสวรรค์หรือบนแผ่นดิน พระองค์ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงต่อผู้รับใช้ของพระองค์ ที่ดำเนินชีวิตเฉพาะพระพักตร์อย่างสุดจิตสุดใจ 15พระองค์ทรงรักษาพระสัญญาที่ตรัสไว้กับดาวิดพระบิดาผู้รับใช้ของพระองค์ วันนี้พระองค์ทรงกระทำให้เป็นจริงตามที่ทรงสัญญาไว้ทุกประการ 16บัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล โปรดทรงรักษาพระสัญญาที่ทรงให้แก่ดาวิดพระบิดาผู้รับใช้ของพระองค์ เมื่อตรัสว่า ‘ถ้าลูกหลานของท่านจะดำเนินชีวิตต่อหน้าเราเหมือนกับที่ท่านเคยดำเนินมาแล้ว เราจะให้ท่านมีเชื้อสายเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลสืบต่อจากท่านตลอดไป’ 17บัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล โปรดให้พระวาจาที่พระองค์ตรัสไว้กับดาวิดพระบิดาผู้รับใช้ของพระองค์เป็นจริงเถิด 18แต่พระเจ้าทรงพำนักกับมนุษย์บนแผ่นดินได้จริงหรือ แม้สวรรค์ชั้นสูงสุดและจักรวาลทั้งปวงยังไม่อาจรองรับพระองค์ได้ แล้วพระวิหารที่ข้าพเจ้าได้สร้างนี้จะรองรับพระองค์ได้อย่างไร 19ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดทรงรับคำภาวนาและคำวอนขอของผู้รับใช้พระองค์ โปรดทรงฟังเสียงร้องและคำอธิษฐานภาวนาซึ่งผู้รับใช้พระองค์กราบทูลเฉพาะพระพักตร์เถิด 20ขอพระองค์ทอดพระเนตรดูแลพระวิหารนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน พระองค์ตรัสถึงพระวิหารนี้ว่า ‘นามของเราจะอยู่ที่นั่น’ โปรดทรงฟังคำอธิษฐานภาวนาที่ผู้รับใช้พระองค์กราบทูลในสถานที่แห่งนี้ด้วยเถิด”

 

กษัตริย์ซาโลมอนทรงอธิษฐานภาวนาเพื่อประชากร

            21“โปรดทรงฟังคำวอนขอของผู้รับใช้และของอิสราเอลประชากรของพระองค์ เมื่อเขาอธิษฐานในสถานที่แห่งนี้ โปรดทรงฟังจากสวรรค์ที่พำนักของพระองค์ โปรดทรงฟังและประทานอภัยด้วยเถิด

          22ถ้าผู้ใดทำผิดต่อพี่น้องของตน และมาสาบานต่อหน้าพระแท่นบูชาของพระองค์ในพระวิหารนี้ เพราะถูกบังคับให้สาบานว่าตนบริสุทธิ์c 23ขอพระองค์ทรงฟังผู้นั้นจากสวรรค์ โปรดทรงจัดการพิพากษาผู้รับใช้พระองค์ทั้งสองฝ่าย โปรดทรงตัดสินลงโทษผู้ผิดให้เขาได้รับโทษตามการกระทำของเขา และโปรดทรงประกาศความบริสุทธิ์ของผู้ชอบธรรมให้เขาได้รับความเป็นธรรมด้วยเถิด

          24เมื่ออิสราเอลประชากรของพระองค์ต้องพ่ายแพ้ศัตรู เพราะทำบาปต่อพระองค์ ถ้าเขากลับมาหาพระองค์ สรรเสริญพระนามพระองค์ อธิษฐานภาวนาและวอนขอพระองค์ในพระวิหารนี้ 25โปรดทรงฟังจากสวรรค์ โปรดประทานอภัยบาปของอิสราเอลประชากรของพระองค์ และทรงนำเขากลับมายังแผ่นดินที่พระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเขาด้วยเถิด

          26เมื่ออิสราเอลประชากรของพระองค์ทำบาป และพระองค์ทรงปิดท้องฟ้าไม่ให้ฝนตก ถ้าเขาอธิษฐานภาวนาต่อพระองค์ในสถานที่แห่งนี้ ถ้าเขาสรรเสริญพระนามพระองค์และกลับใจละทิ้งบาป เพราะพระองค์ทรงทำให้เขาตกต่ำแล้ว 27โปรดทรงฟังจากสวรรค์ โปรดประทานอภัยบาปของบรรดาผู้รับใช้พระองค์ อิสราเอลประชากรของพระองค์ โปรดทรงสอนเขาให้ดำเนินชีวิตอย่างดี และทรงส่งฝนมารดแผ่นดินที่พระองค์ประทานให้เป็นมรดกแก่ประชากรของพระองค์เถิด

          28เมื่อเกิดกันดารอาหารในแผ่นดิน เกิดโรคระบาด เมื่อพืชผลถูกโรคหรือเชื้อราทำลาย ถูกตั๊กแตนหรือหนอนมาทำลาย เมื่อศัตรูมาล้อมเมือง เกิดโรคภัยไข้เจ็บหรือภัยพิบัติใดๆ 29ถ้าคนใดคนหนึ่ง หรือชาวอิสราเอลประชากรของพระองค์ทุกคนเป็นทุกข์ใจ ชูมือมาทางพระวิหารนี้ อธิษฐานภาวนาและวอนขอพระองค์ 30โปรดทรงฟังเขาจากสวรรค์ที่ประทับของพระองค์ โปรดประทานอภัยและทรงตอบแทนแต่ละคนตามความประพฤติของเขา เพราะพระองค์ทรงทราบความคิดในใจของเขา พระองค์เพียงพระองค์เดียวทรงทราบความคิดในใจของมนุษย์ 31เขาจะได้ยำเกรงพระองค์ และดำเนินชีวิตตามหนทางของพระองค์ทุกๆ วันที่เขามีชีวิตอยู่ในแผ่นดินที่พระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลาย

          32เมื่อคนต่างด้าวซึ่งไม่ใช่ชาวอิสราเอลประชากรของพระองค์ มาจากแผ่นดินห่างไกลเพราะพระนามยิ่งใหญ่ของพระองค์ เพราะพระหัตถ์ทรงอานุภาพและพระกรที่เหยียดออก เพื่ออธิษฐานภาวนาในพระวิหารนี้ 33โปรดทรงฟังจากสวรรค์ที่พำนักของพระองค์และทรงตอบสนองตามที่คนต่างด้าวทูลขอจากพระองค์ เพื่อประชาชาติทั้งหลายบนแผ่นดินจะได้รู้จักพระนามพระองค์ ยำเกรงพระองค์เหมือนอิสราเอลประชากรของพระองค์ เขาจะได้รู้ว่าพระวิหารที่ข้าพเจ้าได้สร้างนี้เป็นสถานที่นมัสการพระนามพระองค์

          34เมื่อประชากรของพระองค์ออกไปทำสงครามกับศัตรู ไม่ว่าพระองค์จะทรงส่งเขาไปที่ใด และเขาอธิษฐานภาวนาต่อพระองค์โดยหันหน้าไปทางนครที่พระองค์ทรงเลือกสรร และทางพระวิหารที่ข้าพเจ้าได้สร้างถวายแด่พระนามพระองค์ 35โปรดทรงฟังคำอธิษฐานภาวนาและคำวอนขอของเขาจากสวรรค์ และประทานชัยชนะแก่เขาด้วยเถิด

          36เมื่อประชากรทำบาปผิดต่อพระองค์ เพราะไม่มีมนุษย์คนใดไม่ทำบาป แล้วพระองค์ทรงลงโทษเขา ทรงมอบเขาแก่ศัตรูที่จับเขาเป็นเชลย นำไปยังแผ่นดินใกล้หรือไกลของศัตรู 37ถ้าเขากลับใจในแผ่นดินที่เขาถูกจับเป็นเชลย และกลับมาวอนขอพระองค์ในแผ่นดินที่เขาเป็นเชลยอยู่ ทูลว่า ‘ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป ทำผิด และประพฤติชั่ว’ 38ถ้าเขากลับมาหาพระองค์สุดจิตสุดใจในแผ่นดินเนรเทศที่เขาถูกนำไปเป็นเชลย และถ้าเขาอธิษฐานภาวนาต่อพระองค์ หันหน้าไปทางแผ่นดินที่พระองค์ประทานแก่บรรพบุรุษของเขา หันหน้าไปทางนครที่พระองค์ทรงเลือก และทางพระวิหารซึ่งข้าพเจ้าได้สร้างถวายแด่พระนามพระองค์ 39จากสวรรค์ที่ประทับของพระองค์ โปรดทรงฟังคำอธิษฐานภาวนาและคำวอนขอของเขา และประทานความยุติธรรมแก่เขาเถิด โปรดทรงอภัยบาปและความผิดของประชากรที่เขาได้ทำต่อพระองค์เถิด”

 

บทสรุปคำอธิษฐานภาวนาd

          40“ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า บัดนี้ โปรดทอดพระเนตรและเอียงพระกรรณฟังคำอธิษฐานภาวนาที่ข้าพเจ้าวอนขอจากสถานที่นี้

          41ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า

โปรดทรงลุกขึ้น เสด็จไปยังที่ประทับของพระองค์

          พระองค์และหีบพันธสัญญา

เครื่องหมายแห่งพระอานุภาพของพระองค์

          ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า

บรรดาสมณะของพระองค์จงสวมความรอดพ้นเป็นอาภรณ์

ผู้จงรักภักดีต่อพระองค์จงชื่นชมในความดีเถิด

          42ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า

ขออย่าได้ทรงผลักไสผู้รับเจิมของพระองค์เลย

          โปรดทรงระลึกถึงความรักมั่นคงของพระองค์

ต่อดาวิดผู้รับใช้พระองค์เถิด”

 

6 a ข้อความในบทนี้เล่าเรื่องเกือบเหมือนกับ 1 พกษ 8 ผู้เขียนประวัติศาสตร์ตามแนวเฉลยธรรมบัญญัติเป็นผู้เขียนข้อความส่วนใหญ่ ส่วนผู้เขียนพงศาวดารจะเพิ่มเติมข้อความซึ่งเขาจะให้ความสนใจเป็นพิเศษเข้ามาในภายหลัง

b “ยกพื้นทองสัมฤทธิ์” พระคัมภีร์ไม่กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ “ยกพื้น” สำหรับกษัตริย์ในพระวิหารในหนังสือใดเลย ผู้เขียนพงศาวดารอาจจะบันทึกธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติมาแล้วจริงๆ ก็ได้ เพราะในพระวิหารจะมีสถานที่พิเศษสำหรับเฉพาะกษัตริย์อยู่ด้วย (ดู 2 พกษ 16:18; 23:3)

c “ถูกบังคับให้สาบานว่าตนบริสุทธิ์” แปลตามตัวอักษรว่า “สาบานให้ตนถูกสาปแช่ง”

d ผู้เขียนพงศาวดารละข้อความใน 1 พกษ 8:51-53 ที่กล่าวถึงการอพยพจากอียิปต์ โมเสส และการที่พระเจ้าทรงเลือกสรรอิสราเอล แต่เสริมข้อความจาก สดด 132:8-10 แทน เพราะเพลงสดุดีบทนี้กล่าวถึงการประดิษฐานหีบพันธสัญญาที่กรุงเยรูซาเล็ม พันธสัญญากับกษัตริย์ดาวิด และความมั่นคงของพระราชวงศ์

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก