“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ประกาศกนาธัน

47 1หลังจากซามูเอล ประกาศกนาธันก็มาประกาศพระวาจา

ในรัชสมัยของกษัตริย์ดาวิด

กษัตริย์ดาวิด

            2เมื่อถวายศานติบูชา ไขมันย่อมถูกแยกออกมาฉันใด

                    ดาวิดก็ได้รับเลือกสรรออกมาจากชาวอิสราเอลทั้งปวงฉันนั้น

          3เขาเคยเล่นกับสิงโตเหมือนเล่นกับลูกแพะ

                    เล่นกับหมีเหมือนเล่นกับลูกแกะ

          4เมื่อเป็นหนุ่ม เขาได้ฆ่ายักษ์มิใช่หรือ

                    เขาลบล้างความอับอายของประชากร

          ใช้สลิงขว้างก้อนหิน

                    ทำให้โกลิอัทผู้โอหังต้องล้มคว่ำลง

          5เขาร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้สูงสุด

                    พระองค์จึงประทานกำลังแก่มือขวาของเขา

          เพื่อทำลายนักรบที่แกร่งกล้า

                    และยกอำนาจaประชากรของตนขึ้นมาอีก

          6ดังนั้น ประชาชนจึงให้เกียรติเขา ว่าได้ฆ่าคนเป็นหมื่น

                    สรรเสริญเขา ถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า

          และนำมงกุฎรุ่งโรจน์มาถวายให้เป็นกษัตริย์

          7พระองค์จึงทรงปราบศัตรูโดยรอบ

                    ทรงทำลายล้างชาวฟีลิสเตียที่เป็นศัตรู

          ทรงโค่นอำนาจของเขาจนถึงทุกวันนี้b

          8ในพระราชกิจทุกอย่าง พระองค์ทรงถวายพระพรแด่พระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์และสูงสุด

                    ด้วยถ้อยคำสรรเสริญพระเจ้าc

          ทรงขับร้องสรรเสริญพระเจ้าสุดจิตใจ

                    และทรงรักพระผู้ทรงสร้างพระองค์

          9ทรงจัดให้มีนักดนตรีบรรเลงเพลงสดุดีต่อหน้าพระแท่นบูชา

                    ทำให้เพลงขับร้องไพเราะยิ่งขึ้นด้วยเสียงดนตรี

          10ทรงจัดการฉลองให้สง่างาม

                    ทำให้วันสมโภชประจำปียิ่งใหญ่ที่สุด

          เพื่อสรรเสริญพระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า

                    และทำให้สักการสถานกึกก้องด้วยเสียงขับร้องสรรเสริญตั้งแต่เช้าตรู่

          11องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอภัยบาปของกษัตริย์ดาวิด

                    ทรงทวีอำนาจของพระองค์ให้มากยิ่งขึ้นอยู่เสมอ

          ประทานพันธสัญญาให้มีผู้สืบราชสมบัติต่อจากพระองค์d

                    และประทานราชบัลลังก์รุ่งโรจน์ในอิสราเอล

กษัตริย์ซาโลมอน

            12ต่อจากกษัตริย์ดาวิด พระโอรสผู้มีปรีชาองค์หนึ่งสืบราชสมบัติต่อมา

                    เพราะเห็นแก่กษัตริย์ดาวิดe ราชอาณาจักรจึงดำรงอยู่อย่างปลอดภัย

          13กษัตริย์ซาโลมอนทรงครองราชย์ในช่วงเวลาที่มีสันติภาพ

                    พระเจ้าประทานความสงบให้โดยรอบ

          เพื่อกษัตริย์จะได้ทรงสร้างพระวิหารถวายแด่พระนามพระเจ้า

                    และทรงเตรียมสักการสถานซึ่งจะดำรงอยู่ตลอดไป

          14เมื่อทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงปรีชายิ่งนัก

                    พระปัญญาเป็นเหมือนแม่น้ำท่วมล้นฝั่ง

          15ความรอบรู้ของพระองค์แผ่ขยายไปทั่วแผ่นดิน

                    ทำให้แผ่นดินเต็มไปด้วยคำอุปมาที่เป็นปริศนา

          16พระนามพระองค์เป็นที่เลื่องลือไปจนถึงหมู่เกาะห่างไกล

                    ทุกคนล้วนรักพระองค์ เพราะสันติภาพที่ทรงนำมาให้f

          17บทเพลง สุภาษิต คำพังเพย

                    และคำตอบของพระองค์gทำให้ชนชาติต่างๆ ประหลาดใจ

          18เดชะพระนามพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

ซึ่งเป็นพระนามที่ใช้เรียกพระเจ้าแห่งอิสราเอลh

พระองค์ทรงสะสมทองคำไว้เหมือนดีบุก

และทรงรวบรวมเงินไว้เหมือนตะกั่ว

19แต่พระองค์ทรงมอบพระกายแก่บรรดาสตรี

ทรงยอมเป็นทาสของตัณหา

20ทรงทำให้ศักดิ์ศรีของพระองค์ต้องมัวหมอง

ทำให้ราชวงศ์ต้องมีมลทิน

ทรงนำพระพิโรธลงมายังราชวงศ์

และทรงนำความทุกข์เพราะความโง่เขลาของพระองค์i

21พระอาณาจักรต้องแบ่งออกเป็นสองส่วน

อาณาจักรที่เป็นกบฏก็เกิดขึ้นจากเผ่าเอฟราอิม

22แต่องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงละทิ้งพระเมตตา

มิได้ทรงลบล้างพระวาจา

พระเจ้ามิได้ทรงทำลายเชื้อสายของผู้ที่ทรงเลือกสรร

มิได้ทรงทำลายลูกหลานของผู้ที่รักพระองค์

พระองค์จึงประทานชนกลุ่มหนึ่งที่เหลือรอดชีวิตอยู่แก่ยาโคบ

ประทานหน่อจากเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิดให้เป็นราชวงศ์ของพระองค์

เรโหโบอัม

            23กษัตริย์ซาโลมอนสิ้นพระชนม์ถูกฝังไว้กับบรรพบุรุษ

                    พระโอรสองค์หนึ่งทรงสืบราชสมบัติต่อมา

          พระโอรสองค์นี้ทรงโง่เขลากว่าทุกคน ไม่มีสติปัญญา

                    คือเรโหโบอัมj ซึ่งพระวินิจฉัยผลักดันให้ประชาชนเป็นกบฏ

เยโรโบอัม

            24เยโรโบอัมบุตรของเนบัทนำอิสราเอลให้ทำบาป

                    และเปิดทางบาปให้แก่เอฟราอิม

          อิสราเอลทำบาปมากขึ้น

                    จนต้องถูกเนรเทศไปจากแผ่นดินของตน

          25เขาปล่อยตัวทำความชั่วทุกชนิด

                    จนกระทั่งพระเจ้าทรงลงโทษเขา

 

47 a “อำนาจ” แปลตามตัวอักษรว่า “เขา(สัตว์)” ซึ่งเป็นภาพเปรียบเทียบที่ใช้บ่อยมากในพระคัมภีร์ (โดยเฉพาะเพลงสดุดี) เพื่อหมายถึงพลังอำนาจทางร่างกายหรือจิตใจ

b ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “6บรรดาสตรีร้องเพลงสรรเสริญเขา เรียกชื่อเขาว่า ‘หนึ่งหมื่นคน’ เมื่อเขารับมงกุฎแล้วก็สู้รบ 7และปราบศัตรูโดยรอบ สร้างเมืองในหมู่ชาวฟีลิสเตีย และโค่นอำนาจของพวกเขาจนถึงวันนี้”

c “ถ้อยคำสรรเสริญพระเจ้า” หมายถึง “เพลงสดุดี” (ดู 2 ซมอ 23:1)

d “พันธสัญญาให้มีผู้สืบราชสมบัติต่อจากพระองค์” แปลตามสำเนาโบราณภาษากรีก Gk 248 และต้นฉบับภาษาฮีบรู ต้นฉบับภาษากรีกที่ใช้กัน (Textus receptus) ว่า “พันธสัญญาของบรรดากษัตริย์”

e “เพราะเห็นแก่กษัตริย์ดาวิด” กษัตริย์ซาโลมอนได้รับประโยชน์หลายประการจากผลงานทางวัตถุของกษัตริย์ดาวิด และในด้านศาสนาก็ยังเป็นที่เข้าใจอีกว่าพระเจ้าทรงโปรดปรานกษัตริย์ซาโลมอนเพราะเห็นแก่กษัตริย์ดาวิดด้วย (เทียบข้อ 20, 22; 1 พกษ 11:12)

f “เพราะสันติภาพที่ทรงนำมาให้” เป็นการกล่าวพาดพิงถึงรากศัพท์ของพระนาม “ซาโลมอน” ซึ่งแปลว่า “ผู้รักสันติ” (ดู ข้อ 13)

g “บทเพลง...ของพระองค์” (เทียบ พซม) (ดู 1 พกษ 5:9-14) เกี่ยวกับผลงานด้านปรีชาญาณและวรรณกรรมของกษัตริย์ซาโลมอน ส่วนเรื่อง “คำตอบ” ดู 1 พกษ 10:1-10 (เรื่องพระราชินีแห่งเชบา)

h ตัวบทภาษาฮีบรูของบรรทัดนี้ว่า “พระองค์ทรงได้รับพระนามทรงเกียรติที่ประชากรเรียกขานให้ประทานพระพรแก่อิสราเอล” ซึ่งอาจเป็นการพาดพิงถึงพระนามที่กษัตริย์ซาโลมอนทรงได้รับเมื่อทรงสมภพ คือ “เยดีดิยาห์” ซึ่งแปลว่า “ที่รักของพระยาห์เวห์” (2 ซมอ 12:25)

i “ทรงนำความทุกข์เพราะความโง่เขลาของพระองค์” ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ความทุกข์บนที่บรรทมของพระองค์” ซึ่งหมายถึงผู้สืบเชื้อสาย

j “โง่เขลากว่าทุกคน ไม่มีสติปัญญา” เป็นการเล่นคำกับพระนาม “เรโหโบอัม” ในภาษาฮีบรู ซึ่งมาจากคำว่า “rahab” = “กว้าง” และคำ “cam” = “ประชากร” ต้นฉบับภาษาฮีบรูตามตัวอักษรว่า “มีความโง่เขลากว้างขวาง” ส่วนตัวบทภาษากรีกตามตัวอักษรว่า “ความโง่เขลาของประชากร” แต่ละภาษาจึงรักษารากศัพท์ของพระนามไว้เพียงส่วนเดียวเท่านั้น

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก