“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

คนเกียจคร้าน

22 1คนเกียจคร้านเป็นเหมือนก้อนหินที่เปื้อนสิ่งโสโครก

                    ใครๆ ก็ผิวปากดูหมิ่นเขา

          2คนเกียจคร้านเป็นเหมือนกองปุ๋ย

                    ใครไปหยิบเข้าก็ต้องสะบัดมือ

ลูกนอกคอก

            3บุตรชายเหลวไหลเป็นความอับอายของบิดา

                    ส่วนบุตรหญิงก็เป็นความเสียหายแล้ว

          4บุตรหญิงที่รอบคอบจะได้สามี

                    ส่วนบุตรหญิงหน้าด้านนำความทุกข์แก่ผู้ให้กำเนิด

          5บุตรหญิงหน้าด้านทำให้ทั้งบิดาและสามีต้องอับอาย

                    และทั้งสองคนจะดูหมิ่นนาง

          6การพูดไม่ถูกกาลเทศะเป็นเหมือนงานรื่นเริงในยามไว้ทุกข์

                    แต่การเฆี่ยนตีดัดนิสัยเป็นปรีชาญาณในทุกกรณีa (7) (8)

 

ปรีชาญาณและความโง่เขลา

            9สอนคนโง่เขลาก็เหมือนนำเศษหม้อดินที่แตกแล้วมาต่อให้ติดกัน

                    หรือเหมือนปลุกคนที่นอนหลับสนิทให้ตื่นขึ้น

          10การสนทนากับคนโง่เขลาก็เหมือนพูดกับคนที่นอนหลับ

                    เมื่อพูดจบเรื่อง เขาก็จะถามว่า “พูดเรื่องอะไร”

          11จงร้องไห้ไว้ทุกข์ให้คนตาย เพราะเขาสูญเสียความสว่าง

                    จงร้องไห้สงสารคนโง่เขลาb เพราะเขาสูญเสียสติสัมปชัญญะ

          จงร้องไห้ไว้ทุกข์ให้ผู้ตายน้อยกว่า เพราะเขาได้พักผ่อนแล้ว

                    แต่ชีวิตของคนโง่เขลาเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย

          12สำหรับผู้ตาย ไว้ทุกข์เจ็ดวันก็เพียงพอ

                    แต่สำหรับคนโง่เขลาและคนอธรรม ต้องไว้ทุกข์ให้ทุกวันตลอดชีวิตของเขา

          13อย่าเสียเวลาพูดกับคนโง่เขลา

                    อย่าเดินไปกับคนเบาปัญญา

          จงระวังให้ดี จะได้ไม่มีปัญหา

                    ท่านจะได้ไม่มีมลทินเมื่อติดต่อกับเขา

          จงหลีกหนีห่างเขาไว้ แล้วท่านจะมีความสงบ

                    ท่านจะไม่ต้องเบื่อหน่ายเพราะความโง่เขลาของเขา

          14สิ่งใดเล่าหนักกว่าตะกั่ว

                    แล้วคนโง่เขลาจะได้ชื่ออะไรนอกจากชื่อ “คนโง่เขลา”

          15แบกทราย เกลือ ก้อนเหล็ก

                    ก็ยังง่ายกว่าทนคนโง่เขลา

          16ขื่อคานเมื่อตอกติดกับบ้าน

                    แม้แผ่นดินไหวก็ไม่หลุดฉันใด

          จิตใจที่ตัดสินเด็ดเดี่ยวเพราะไตร่ตรองอย่างดีแล้ว

                    ก็จะไม่หวั่นไหวเมื่อมีอันตรายฉันนั้น

          17จิตใจที่มั่นคงเพราะได้ไตร่ตรองอย่างฉลาดรอบคอบแล้ว

                    เป็นเหมือนปูนฉาบcบนกำแพงเรียบ

          18หินก้อนเล็กๆd วางบนกำแพงสูง

จะต้านลมไม่ได้ฉันใด

          จิตใจคนโง่เขลาที่กลัวแม้ความคิดของตน

ก็จะต้านความกลัวใดๆ ไม่ได้ฉันนั้น

มิตรภาพ

            19จิ้มตาย่อมทำให้น้ำตาไหล

                    จิ้มใจย่อมทำให้ความรู้สึกปรากฏ

          20ใช้หินขว้างนกย่อมทำให้นกบินหนีไป

                    กล่าวร้ายต่อมิตรย่อมทำลายมิตรภาพ

          21ถ้าท่านชักดาบต่อสู้กับมิตร

อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะยังอาจกลับมาคืนดีกันได้

22ถ้าท่านตำหนิเพื่อนต่อหน้า

ก็อย่ากลัว ยังมีทางคืนดีกันได้

แต่ถ้าท่านกล่าวร้าย ดูหมิ่น เผยความลับ และทำร้ายลับหลัง

เพื่อนทุกคนของท่านก็จะหนีไป

23จงทำให้เพื่อนบ้านไว้ใจท่านในยามที่เขายากจน

เพื่อว่าเมื่อเขาร่ำรวยขึ้น ท่านจะได้ร่วมสุขกับเขา

จงซื่อสัตย์ต่อเขาในยามที่เขาเดือดร้อน

เพื่อว่าเมื่อเขารับมรดก ท่านจะได้รับส่วนแบ่งมรดกด้วย

24ก่อนมีไฟย่อมมีไอและควันออกมาจากเตาฉันใด

ก่อนจะมีการนองเลือดก็ย่อมมีการกล่าวร้ายต่อกันฉันนั้น

25ข้าพเจ้าจะไม่อับอายที่จะปกป้องเพื่อน

ข้าพเจ้าจะไม่หลบหน้าเขา

26แต่ถ้าเหตุร้ายเกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าเพราะเขา

ทุกคนที่รู้เรื่องก็จะอยู่ห่างจากเขา

การอธิษฐานภาวนา

            27ใครจะเฝ้าระวังปากของข้าพเจ้า

                    ใครจะประทับตราไว้บนริมฝีปาก

ให้ข้าพเจ้ารอบคอบ

                    เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่พูดผิดพลาด

          และลิ้นของข้าพเจ้าจะไม่ทำร้ายข้าพเจ้า

 

22 a ผู้มีปรีชาสนับสนุนให้มีการใช้ไม้เรียวตีเด็กในการอบรมสั่งสอน (สภษ 13:24; 19:18; 22:15; 23:13-14; 29:15, 17) การตีสอนเยาวชนได้ผลเสมอ แต่การกล่าวติเตียนต้องระวังคำพูดที่ใช้ด้วย สำเนาโบราณภาษากรีก Gk 248 เสริมว่า “17เด็กๆ ที่ดำเนินชีวิตดี ไม่ขาดสิ่งใด มักทำให้คนทั้งหลายลืมฐานะต่ำต้อยของพ่อแม่ 18ส่วนเด็กที่หยิ่งผยอง ดูถูกผู้อื่น ไร้มรรยาท ทำให้ทุกคนดูถูกพ่อแม่ แม้จะมีตระกูลสูง”

b “คนโง่เขลา” มิได้หมายเพียงผู้ที่ขาดไหวพริบเท่านั้น แต่ยังหมายถึงคนดื้อดึงไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ และปล่อยตัวเสเพลอีกด้วย

c “ปูนฉาบ” แปลโดยคาดคะเน แปลตามตัวอักษรว่า “ทรายที่เป็นเครื่องประดับ”

d “หินก้อนเล็กๆ” แปลตามสำเนาโบราณบางฉบับ ตัวบทภาษากรีกที่ใช้กัน (Textus receptus) ว่า “ไม้หลัก” ความเข้าใจเช่นนี้อาจมาจากธรรมเนียมในแผ่นดินปาเลสไตน์ที่จะใช้หินก้อนเล็กๆ วางเรียงไว้บนกำแพงรอบสวนองุ่น เมื่อหมาในกระโดดข้ามจะทำให้ก้อนหินเหล่านี้พังลงมา ทำให้เกิดเสียงดังปลุกผู้เฝ้าให้รู้สึกตัว

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก