“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

หน้าที่ต่อบิดามารดา

3 1ลูกทั้งหลาย จงฟังข้าพเจ้าซึ่งเป็นบิดาของท่านเถิด

                    ถ้าท่านทำเช่นนี้ ท่านจะรอดพ้น

          2องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรารถนาให้บิดาได้รับเกียรติจากบุตร

                    ทรงกำหนดให้มารดาได้รับความเคารพจากบุตร

          3บุตรที่ยำเกรงบิดาก็ชดเชยบาปของตน

          4บุตรที่ให้เกียรติมารดาก็เหมือนกับสะสมทรัพย์สมบัติไว้

          5ผู้ที่ยำเกรงบิดาก็มีความสุขจากบุตรของตน

                    เมื่อเขาอธิษฐานภาวนา พระเจ้าก็จะทรงฟังเขา

          6บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน

                    บุตรที่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้า จะทำให้มารดาชื่นใจ

          7ผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า ย่อมให้เกียรติแก่บิดาa

                    เขารับใช้บิดามารดาเหมือนรับใช้เจ้านายb

          8จงให้เกียรติบิดาด้วยกิจการและวาจา

                    เพื่อพรจากบิดาจะได้ลงมาเหนือท่าน

          9พรของบิดาทำให้บ้านเรือนของบุตรมั่นคง

                    แต่คำสาปแช่งของมารดา ย่อมถอนรากฐาน

          10อย่าภูมิใจเมื่อบิดาของท่านต้องอับอาย

                    เพราะความเสื่อมศักดิ์ศรีของบิดาไม่เป็นเกียรติแก่ท่าน

          11เกียรติของมนุษย์ย่อมมาจากเกียรติของบิดา

                    และความอับอายของมารดา ก็เป็นความอับอายของบุตรด้วย

          12ลูกเอ๋ย จงดูแลบิดาของท่านในวัยชรา

                    อย่าให้เขาเศร้าโศกในชีวิต

          13แม้สติปัญญาของบิดาจะเสื่อมลง ก็จงสงสารเขา

                    อย่าดูหมิ่นเขาขณะที่ท่านยังแข็งแรงอยู่

          14เพราะพระเจ้าจะไม่ทรงลืมความเมตตาของท่านต่อบิดา

                    พระองค์จะทรงนับว่าความเมตตานั้นเป็นการใช้โทษบาปของท่าน

          15เมื่อท่านตกทุกข์ได้ยาก พระเจ้าจะทรงระลึกถึงท่าน

                    บาปของท่านจะสลายไปดุจน้ำแข็งละลายเมื่อถูกแสงแดด

          16บุตรที่ละทิ้งบิดาก็เหมือนผู้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า

                    บุตรที่ทำให้มารดาเสียใจ จะถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าสาปแช่ง

ความถ่อมตน

            17ลูกเอ๋ย ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด จงทำด้วยความอ่อนโยนเถิด

                    แล้วท่านจะเป็นที่รักมากกว่าคนให้ของกำนัลc

          18ท่านยิ่งเป็นใหญ่มากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งต้องถ่อมตนลงมากเท่านั้น

                    แล้วพระเจ้าจะโปรดปรานท่านd

          (19) 20เพราะพระอานุภาพขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้นยิ่งใหญ่

                    พระองค์ทรงได้รับเกียรติจากผู้ต่ำต้อยe

          21อย่าแสวงหาความรู้ที่ยากเกินไปสำหรับท่าน

                    อย่าค้นคว้าสิ่งที่เกินกำลังของท่านf

          22จงไตร่ตรองแต่สิ่งที่ท่านได้รับมอบหมาย

                    ท่านไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องเร้นลับต่างๆ

          23อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่เกินปัญญาของท่านg

                    เพราะเรื่องที่พระเจ้าทรงเปิดเผยก็เกินปัญญามนุษย์อยู่แล้ว

          24การยึดมั่นในความเห็นของตน ทำให้หลายคนหลงทางh

                    ความคิดที่ผิดทำให้เขาตัดสินโดยลำเอียงi(25)

 

ความหยิ่งจองหอง

            26ผู้มีใจดื้อดึงจะได้รับผลร้ายในบั้นปลาย

                    ผู้ที่ชอบเสี่ยงอันตราย ก็ย่อมพินาศในอันตรายนั้นj

          27ผู้มีใจดื้อดึงจะรับทุกข์ทรมานอย่างหนัก

                    คนบาปยิ่งจะสะสมบาปมากขึ้น

          28ผลร้ายของความเย่อหยิ่งยากอย่างยิ่งที่จะบำบัดได้

                    เพราะความชั่วร้ายฝังรากลึกในตัวเขา

          29จิตใจของคนฉลาดย่อมไตร่ตรองเรื่องอุปมา

                    ผู้มีปัญญาย่อมใฝ่หาคนที่ตั้งใจฟัง

การแสดงความรักต่อคนยากจน

            30น้ำย่อมดับไฟที่ลุกโชนฉันใด

การให้ทานย่อมชดเชยบาปฉันนั้น

          31ผู้ตอบแทนการกระทำของผู้อื่นด้วยความดีkย่อมคิดถึงอนาคต

                    เมื่อเขาล้ม เขาก็จะพบผู้คอยค้ำจุน

 

3 a แปลตามสำเนาโบราณภาษากรีก Gk 248 และสำนวนแปลโบราณภาษาละติน

b “เหมือนรับใช้เจ้านาย” บางคนแปลข้อนี้โดยคาดคะเนว่า “เหมือนรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า”

c “ท่านจะเป็นที่รักมากกว่าคนให้ของกำนัล” ต้นฉบับภาษากรีกว่า “ท่านจะเป็นที่รักของผู้ที่พระเจ้าพอพระทัย”

d สำเนาโบราณภาษากรีก Gk 248 และสำนวนแปลโบราณภาษาซีเรียคเสริมข้อ 19 ว่า “19ผู้หยิ่งจองหองและมีชื่อเสียงมีจำนวนมาก แต่ผู้ถ่อมตนเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเปิดเผยให้รู้ความลับ”

e ผู้เขียนต้องการเน้นว่าพระเจ้าทรงพระกรุณาเป็นพิเศษต่อผู้ถ่อมตน โปรดให้เขามาสัมผัสกับพระองค์ได้ แต่ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “พระเมตตาของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่ ทรงเปิดเผยความลับแก่ผู้ถ่อมตน” ซึ่งเป็นความคิดที่พบได้บ่อยๆ ในพันธสัญญาเดิมว่าพระเจ้าประทานพระพรมากมายแก่ผู้ถ่อมตน (สดด 25:14; สภษ 3:34; เทียบ มธ 11:25; ลก 1:52)

f “อย่าค้นคว้าสิ่งที่เกินกำลังของท่าน” ผู้เขียนตำหนิผู้มักรู้มักเห็น (ข้อ 21-24) ถ้าผู้มีปรีชาศึกษาธรรมบัญญัติก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิต

g “อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่เกินปัญญาของท่าน” แปลตามต้นฉบับภาษาฮีบรู ส่วนต้นฉบับภาษากรีกว่า “อย่ายุ่งกับกิจการที่ไม่จำเป็น”

h “การยึดมั่นในความเห็นของตนทำให้หลายคนหลงทาง” ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เพราะความคิดเห็นของมนุษย์มีมากมาย”

i สำเนาโบราณภาษากรีก Gk 248 เสริมข้อ 25 ว่า “25ถ้าไม่มีตา ท่านก็ไม่เห็นแสงสว่าง ถ้าไม่มีความรู้ ก็อย่าพยายามสอนผู้อื่น”

j ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ผู้ที่ชอบความสบาย ก็จะถูกความสบายจูงไป”

k “ผู้ตอบแทนการกระทำของผู้อื่นด้วยความดี” ไม่ชัดว่า “การกระทำของผู้อื่น” เป็นการกระทำดีหรือเลว สิ่งที่ผู้เขียนต้องการสอนคือ “เราต้องตอบแทนการกระทำนั้น (ไม่ว่าจะดีหรือเลว) ด้วยความดีเสมอ”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก