ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญ

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2016
สัปดาห์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา 

บทอ่าน อสย 7:1-9 / มธ 11:20-24

    นักบุญมอนีกาเป็นแม่ตัวอย่าง ที่ได้ติดตาม
นักบุญออกัสตินไปทุกแห่ง เพื่อดูแลบุตรชาย
ที่หลงใหลในลัทธิเฮเรติค และเจริญชีวิตในบาป
ท่านได้สวดภาวนา ทำพลีกรรม และทำงานทุกอย่าง


เพื่อให้บุตรชายกลับใจ มีครั้งหนึ่งที่นักบุญมอนีกาได้พูดกับนักบุญออกัสตินว่า
“ลูกรัก แม่มีเป้าหมายในชีวิตเพียงอย่างเดียว
คือ แม่อยากเห็นลูกกลับใจเป็นคาทอลิก พระเป็นเจ้าได้ประทานให้แม่ มากกว่าที่แม่จะกล้าทูลขอจากพระองค์
นั่นคือ ให้แม่ปฏิเสธทุกสิ่งที่เป็นของโลก เพื่อจะได้ติดตามพระองค์ไป ขอให้ลูกฝังร่างของแม่ไว้ในที่ใดก็ได้
มีสิ่งเดียวที่แม่จะขอ คือ ขอให้ลูกระลึกถึงแม่เสมอบนพระแท่นของพระเป็นเจ้า” นักบุญออกัสตินได้รับรู้ความพยายามและความรักที่เสียสละของแม่ เพื่อทำให้ท่านกลับใจ ท่านเองได้สารภาพว่า
“ข้าพเจ้าไม่สามารถบรรยายความรักที่แม่มีต่อข้าพเจ้าได้ แม่ได้ยกหัวใจของเราสองคนมอบให้พระเป็นเจ้า โดยผ่านทางการมองและคำพูด ข้าแต่พระเป็นเจ้า ถ้าข้าพเจ้าเป็นบุตรของพระองค์ เพราะพระองค์ได้มอบแม่ที่แสนดีให้ข้าพเจ้า”

...ในพระวรสารวันนี้ ทำไมพระเยซูเจ้าจึงได้ติเตียนเมืองโคราซิน เมืองเบธไซดา และคาเปอร์นาอุม

เมืองโคราซินมีศาลาธรรมที่มีที่นั่งของโมเสสตั้งอยู่ เบธไซดาเป็นสถานที่พระเยซูเจ้าได้ทวีขนมปังและปลาเลี้ยงประชาชน ส่วนคาเปอร์นาอุม
เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของซีมอน เปโตร ที่พระเยซูเจ้าได้เคยไปพักผ่อน เหมือนบ้านหลังที่สองของพระองค์ ระหว่างที่พระองค์ได้ออกเทศนาสั่งสอน
สถานที่ทั้งสามแห่งเป็นสถานที่พระองค์ได้ทำอัศจรรย์ มากมายให้ประชาชนเห็น แสดงว่าเป็นสถานที่สำคัญ และมีลักษณะพิเศษ แต่ทำไมพระองค์จึงสาปแช่ง เพราะว่าประชาชนในเมืองทั้งสามไม่ยอมกลับใจ ไม่ยอมตอบสนองสิ่งที่พระองค์คาดหวังและขอร้อง

และถ้าในวันนี้ถ้าพระเยซูเจ้าต้องการพูดกับข้าพเจ้าที่เป็นคนบาป พระองค์จะพูดกับข้าพเจ้าว่าอย่างไร?...ถ้าพระองค์จะตัดสินข้าพเจ้าในวันนี้ คำตัดสินของพระองค์จะเป็นเช่นไร?

จงระลึกเสมอว่า การกลับใจหมายถึงการยอมสยบให้แก่พระเยซูเจ้า ซึ่งหมายถึงการยินยอมที่จะทำทุกสิ่งที่พระองค์ต้องการให้ทำ.