“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

พระคริสตเจ้าทรงเป็นแบบฉบับของเรา

12 1พวกเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีพยานจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ เราจงละทิ้งทุกสิ่งที่ถ่วงอยู่และบาปที่เกาะแน่น เราจงมีมานะวิ่งต่อไปในการแข่งขันซึ่งกำหนดไว้สำหรับเรา 2จงเพ่งมองไปยังพระเยซูเจ้าผู้ทรงบุกเบิกความเชื่อและทรงทำให้ความเชื่อนั้นสมบูรณ์ พระองค์ทรงยอมสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ไม่ทรงถือว่าเป็นความตายที่น่าอับอาย เพราะทรงคำนึงถึงความยินดีที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ บัดนี้พระองค์ประทับ ณ เบื้องขวาแห่งพระที่นั่งของพระเจ้าแล้ว 3ท่านทั้งหลายจงคิดถึงพระองค์ที่ทรงอดทนต่อการคัดค้านเช่นนี้ของคนบาปa ท่านจะได้ไม่ท้อถอยหมดกำลังใจ 4ในการต่อสู้กับบาป ท่านยังมิได้ต้านทานจนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย

พระเจ้าทรงตักเตือนอย่างบิดา

5ท่านลืมคำเตือนที่พระเจ้าตรัสกับท่านในฐานะที่เป็นบุตรแล้วหรือ

ลูกเอ๋ย อย่าดูถูกการเฆี่ยนตีสั่งสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า

อย่าท้อถอยเมื่อพระองค์ทรงตำหนิเจ้า

6เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก

และทรงเฆี่ยนตีทุกคนที่ทรงรับไว้เป็นบุตร

 

7ท่านจงอดทนรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเถิดb พระเจ้าทรงกระทำต่อท่านเยี่ยงกระทำต่อบุตร มีบุตรคนใดบ้างที่บิดาไม่เฆี่ยนตีสั่งสอนเลย 8ถ้าท่านไม่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนอย่างที่ทุกคนได้รับ ท่านก็ไม่ใช่บุตร แต่เป็นลูกไม่มีพ่อ 9นอกจากนั้น เราทุกคนต่างมีบิดาผู้ให้กำเนิดเฆี่ยนตีสั่งสอนเรา และเราเคารพท่าน เราก็ยิ่งควรอ่อนน้อมเชื่อฟังพระบิดาฝ่ายจิตของเราเพื่อจะมีชีวิตมิใช่หรือ 10บิดาผู้ให้กำเนิดเราเฆี่ยนตีสั่งสอนเพียงไม่กี่วันตามที่ท่านเห็นสมควร แต่พระเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนเพื่อประโยชน์ของเรา เพื่อให้เรามีส่วนร่วมในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ 11เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอน ไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็นสันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอน เป็นการฝึกฝนตนเอง 12ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงทำให้มือที่อ่อนเปลี้ยและหัวเข่าที่สั่นเทามีกำลังมั่นคงขึ้น 13จงเดินให้ตรงทาง เพื่อว่าขากะเผลกจะได้ไม่ต้องพิการ แต่จะหายเป็นปกติ

ผู้ไม่ซื่อสัตย์จะถูกลงโทษ

14จงพยายามอยู่อย่างสันติกับทุกคน จงมีความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจำเป็นเพื่อจะได้เห็นพระเจ้า 15จงระวังอย่าให้มีผู้ใดขาดพระหรรษทานของพระเจ้า และอย่าให้มีรากแห่งความขมขื่นใดๆ งอกขึ้นมาก่อความวุ่นวายซึ่งอาจจะเป็นพิษแก่คนจำนวนมาก 16อย่าให้ผู้ใดทำผิดประเวณีหรือดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับเอซาวc ซึ่งขายสิทธิการเป็นบุตรคนแรกของตนเพียงเพื่อแลกกับอาหารมื้อเดียว 17ท่านทั้งหลายรู้อยู่แล้วว่า เมื่อเอซาวต้องการได้รับพรจากบิดา เขาก็ถูกปฏิเสธ และไม่อาจเปลี่ยนใจบิดาได้ แม้จะร่ำไห้วอนขอแล้วก็ตาม

 

พันธสัญญาสองฉบับd

18ท่านทั้งหลายมิได้เข้าใกล้สิ่งที่ประสาทสัมผัสได้e หรือสิ่งที่มีเปลวไฟลุกโชติช่วง หรือสิ่งที่มีความมืดมัวและมืดมิดหรือพายุ 19หรือเสียงแตรหรือพระสุรเสียง ซึ่งทำให้ทุกคนที่ได้ยินพากันร้องขอให้ยุติ 20เพราะพวกเขาทนไม่ได้ที่จะฟังพระบัญชาที่ว่า ใครก็ตาม แม้สัตว์ ถ้าสัมผัสกับภูเขาจะต้องถูกหินทุ่มให้ตาย 21ภาพที่เห็นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก จนโมเสสถึงกับพูดว่า “ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่น” 22แต่ท่านเข้ามาถึงภูเขาศิโยนและนครแห่งพระเจ้าผู้ทรงชีวิต คือนครเยรูซาเล็มในสวรรค์ ซึ่งมีทูตสวรรค์เหลือคณานับ 23ท่านเข้ามาถึงที่ชุมนุมฉลองชัยและมาถึงชุมนุมของบุตรคนแรกที่ได้รับการลงชื่อไว้ในสวรรค์แล้ว มาถึงพระเจ้า พระตุลาการของมนุษย์ทุกคน ร่วมกับบรรดาจิตของผู้ชอบธรรมที่บรรลุถึงความสมบูรณ์แล้ว 24และยังเข้ามาถึงพระเยซูเจ้าผู้เป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ และมาถึงพระโลหิตที่ประพรมซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่ดียิ่งกว่าโลหิตของอาแบล 25จงระวัง อย่าปฏิเสธที่จะรับฟังกระแสพระดำรัสของพระเจ้า ถ้าผู้ที่ไม่ยอมฟังคำตักเตือนในโลกนี้ยังหนีไม่พ้นการลงโทษ พวกเราที่หันหลังให้กับผู้ที่ตักเตือนเราจากสวรรค์fจะหนีพ้นการลงโทษได้หรือ 26ในอดีต พระสุรเสียงทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน แต่บัดนี้ พระองค์ทรงสัญญาว่า จะทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนอีกครั้งหนึ่ง มิใช่แผ่นดินเท่านั้นที่สั่นสะเทือน แต่จะทำให้สวรรค์สั่นสะเทือนอีกด้วย 27คำว่าอีกครั้งหนึ่ง หมายความว่าสิ่งที่สั่นสะเทือนจะสูญหายไป เพราะเป็นเพียงสิ่งสร้าง แต่สิ่งที่ไม่สั่นสะเทือนจะคงอยู่g 28ดังนั้น เมื่อได้รับอาณาจักรที่มั่นคงไม่คลอนแคลนนี้แล้ว เราจงขอบพระคุณและแสดงคารวกิจรับใช้พระเจ้าตามพระประสงค์ด้วยความเคารพยำเกรงh 29เพราะพระเจ้าของเราทรงเป็นประดุจเพลิงที่เผาผลาญทุกสิ่ง

 

12 a แปลตามตัวอักษรได้ว่า ทนต่อการคัดค้านของคนบาปที่มีต่อพระองค์ สำเนาโบราณบางฉบับว่า “…ที่มีต่อพวกเขาเอง

b ในที่นี้ ผู้เขียนคิดว่าความยากลำบากต่างๆ ในชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของ การตีสอน หรือ การลงโทษ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการฝึกอบรมที่บิดาให้กับบุตรของตน ดังจะเห็นได้ในธรรมประเพณีของพันธสัญญาเดิม โดยเฉพาะในหนังสือฉบับหลังๆ เช่น โยบ 5:17; 33:19; สดด 94:12; บสร 1:27; 4:17; 23:2 ความยากลำบากเหล่านี้มาจากพระเจ้าเอง จึงแสดงและพิสูจน์ให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นบิดาของเรา

c เอซาวได้ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อเขายอมสละสิทธิการเป็นบุตรคนแรกซึ่งเป็นของตนโดยกำเนิดให้แก่ยาโคบ จึงดูหมิ่นสิทธิที่จะเป็นทายาทรับพระสัญญาที่จะเป็นบรรพบุรุษของพระผู้ไถ่

d เมื่อพระคริสตเจ้าเสด็จสู่สวรรค์แล้ว มนุษย์จะไม่เข้าเฝ้าพระเจ้า (ข้อ 18) ในเหตุการณ์น่ากลัวดังเมื่อพระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ที่ภูเขาซีนายอีก (4:16; 10:22) แต่ข้อ 22 บอกว่า มนุษย์จะเข้าเฝ้าพระเจ้าในนครที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญาเดิมได้ปรารถนาที่จะไปให้ถึงนครนี้ (11:10, 16) ซึ่งได้แก่เมืองสวรรค์ (4:14; วว 21:1 เชิงอรรถ a) คริสตชนทุกคนพร้อมกับเหล่าทูตสวรรค์ (เทียบ ลก 10:20; ยก 1:18) จะมาชุมนุมอยู่รอบพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นคนกลางผู้ทรงชัย พระองค์ได้ทรงบันดาลให้พวกเขาบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์ (ฮบ 10:14; 11:40 เชิงอรรถ i; 12:14)

e สำเนาโบราณบางฉบับว่า ภูเขาที่ประสาทสัมผัสได้

f ณ ที่นี้ การเปรียบเทียบไม่ใช่ระหว่างโมเสสและพระคริสตเจ้า แต่ระหว่างผู้ได้รับผลจากพันธสัญญาเดิมและจากพันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาเดิมมีกฎสำหรับชีวิตบนแผ่นดินนี้ เป็นเสมือนเงาลางๆ ของชีวิตในสวรรค์ซึ่งพันธสัญญาใหม่นำมาให้ ดังนั้น การไม่ยอมรับพันธสัญญาใหม่ย่อมจะได้รับโทษหนักกว่า

g ความปั่นป่วนของจักรวาลเป็นภาษาที่ใช้ในวรรณกรรมประเภทวิวรณ์ เป็นเครื่องหมายถึงเวลาที่พระเจ้าจะทรงแทรกเข้ามาในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเพื่อเริ่มการปกครองระบอบใหม่ (ดู อมส 8:9 เชิงอรรถ h; มธ 24:1 เชิงอรรถ a; 1 คร 1:8 เชิงอรรถ e)

h ข้อ 28 นี้สรุปความคิดของจดหมายนี้อย่างดี และเป็นคำลงท้ายที่เหมาะมากของจดหมายซึ่งเน้นเรื่องพิธีกรรมเป็นพิเศษ อาณาจักร ที่มั่นคงไม่คลอนแคลน สรุปความคิดในข้อ 22-24 พระเจ้าทรงปกครองทั้งทูตสวรรค์และบรรดานักบุญในอาณาจักรสวรรค์ ซึ่งได้แก่นครเยรูซาเล็มนิรันดรฝ่ายจิต ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปคริสตชนเข้าสู่อาณาจักรนี้ได้เพื่อดำเนินชีวิตเป็นเสมือนพิธีกรรมขอบพระคุณ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก