“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

การดำเนินชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์ในความรัก

4 1พี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดเราวอนขอและเตือนสติท่านในพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าa ท่านเรียนรู้จากเราว่า จะต้องดำเนินชีวิตอย่างไรเพื่อเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ท่านก็ดำเนินชีวิตเช่นนี้อยู่แล้วb แต่ขอให้ท่านมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้นอีก 2ท่านทั้งหลายรู้อยู่แล้วถึงคำสั่งสอนที่เราให้ท่านเดชะพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า

3นี่คือพระประสงค์ของพระเจ้า คือให้ท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์c ละเว้นจากการผิดประเวณี 4แต่ละคนรู้จักใช้ร่างกายของตนdด้วยความศักดิ์สิทธิ์และด้วยความเคารพ 5โดยไม่ปล่อยตัวตามราคตัณหาอย่างคนต่างชาติที่ไม่รู้จักพระเจ้า 6อย่าให้ผู้ใดล่วงเกินหรือหลอกลวงพี่น้องของตนในเรื่องนี้ เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลงโทษในเรื่องความผิดเหล่านี้ทั้งหมดดังที่เราเคยบอกและกำชับท่าน 7พระเจ้ามิได้ทรงเรียกเราให้มาเป็นคนสกปรกลามก แต่ให้เป็นคนศักดิ์สิทธิ์ 8ดังนั้น ผู้ที่ดูถูกคำเตือนนี้ ก็มิใช่ดูถูกเพียงมนุษย์เท่านั้น แต่ดูถูกพระเจ้าผู้ประทานพระจิตของพระองค์ให้แก่ท่านeด้วย

9ส่วนเรื่องความรักฉันพี่น้องนั้น ไม่จำเป็นต้องเขียนบอกอะไรท่านอีก เพราะท่านได้รับคำสอนจากพระเจ้าให้รักกัน 10และท่านก็ปฏิบัติเช่นนี้ต่อพี่น้องทุกคนทั่วแคว้นมาซิโดเนียอยู่แล้ว พี่น้องทั้งหลาย เราขอร้องท่านให้รักกันยิ่งๆ ขึ้น 11เอาใจใส่ที่จะดำเนินชีวิตอย่างสงบ ต่างคนต่างทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน ดังที่เราเคยกำชับท่าน 12เพื่อการดำเนินชีวิตของท่านจะได้รับการยกย่องนับถือจากบุคคลภายนอก และไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น

ผู้ตายและผู้มีชีวิตขณะที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาf

13พี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านขาดความรู้ความเข้าใจถึงเรื่องผู้ล่วงหลับคือผู้ที่ตายไปแล้วg เพื่อท่านจะได้ไม่โศกเศร้าเหมือนคนอื่นที่ไม่มีความหวัง 14เราเชื่อว่าพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนมชีพ เราจึงเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงนำบรรดาผู้ที่หลับอยู่มากับพระองค์โดยทางพระเยซูเจ้าเช่นเดียวกัน 15ตามพระวาจาhขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราขอบอกท่านว่า เราiผู้ยังมีชีวิตและรออยู่จนถึงวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะไม่ได้เปรียบบรรดาผู้ที่ล่วงหลับไปแล้ว 16เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จลงมาจากสวรรค์jตามพระบัญชา เมื่อมีเสียงหัวหน้าทูตสวรรค์และเสียงแตรของพระเจ้า บรรดาผู้ตายในพระคริสตเจ้าจะกลับคืนชีพก่อน 17ต่อจากนั้น เราผู้ยังมีชีวิตอยู่k จะถูกรับขึ้นไปในกลุ่มเมฆพร้อมกับพวกเขา ไปพบองค์พระผู้เป็นเจ้าในท้องฟ้า เราจะได้อยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไปl 18จงใช้ถ้อยคำเช่นนี้ปลอบใจกันเถิด

 

4 a เปาโลพูดว่า “ในพระเยซู” (ข้อ 1) “เดชะพระเยซู” (ข้อ 2) หรือ “ในพระนามของพระคริสตเจ้า” (2 ธส 3:6, 12) หลักคำสอนด้านศีลธรรมของเปาโลซึ่งมาจากคำสอนสมัยแรกของคริสตชนนั้นเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันตามปกติ แต่มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพราะความสัมพันธ์กับพระคริสตเจ้า (คส 3:18 เชิงอรรถ l)

b สำเนาโบราณบางฉบับละคำว่า “ท่านก็ดำเนินชีวิตเช่นนี้อยู่แล้ว”

c เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า (เทียบ มธ 6:10) ซึ่งทำให้มนุษย์มีความศักดิ์สิทธิ์ (1 ธส 4:3,7; 2 ธส 2:13; อฟ 1:4) เป็นพระเจ้าที่ทรงบันดาลให้พวกเขาศักดิ์สิทธิ์ (5:23; 1 คร 6:11; ดู ยน 17:17; กจ 20:32) พระคริสตเจ้าทรงกระทำให้พระองค์เป็น “ความศักดิ์สิทธิ์ของเรา” (1 คร 1:30) พระจิตเจ้าทรงมีส่วนในการทำให้เราศักดิ์สิทธิ์ (ข้อ 8; 2 ธส 2:13; 1 คร 6:11) อย่างไรก็ตาม คริสตชนจะต้องใช้พระคุณที่พระเจ้าประทานให้นี้ด้วย (รม 6:19 เชิงอรรถ h) คำว่า “ผู้ศักดิ์สิทธิ์” เป็นคำที่คริสตชนใช้เรียกกันโดยทั่วไป (กจ 9:13 เชิงอรรถ h)

d “ร่างกาย” อาจจะหมายถึงร่างกายของตนเอง (5:23; เทียบ รม 12:1; 1 คร 6:19) หรือไม่ก็หมายถึงร่างกายของภรรยาอย่างที่มักจะใช้กันในหนังสือของพวกรับบี และ 1 ปต 3:7

e ประกาศกเอเสเคียลได้ประกาศล่วงหน้าไว้ว่า พระเจ้าจะประทานพระจิตเจ้าให้แก่ประชากรในยุคของพระผู้ไถ่ การพูดเช่นนี้เน้นให้เห็นความต่อเนื่องระหว่างพระศาสนจักรที่เมืองเธสะโลนิกากับคริสตชนกลุ่มแรกที่ได้รับพระคุณนี้ (กจ 2:16ฯ, 33, 38; ฯลฯ) เรื่องพระคุณของพระจิตที่พระเจ้าประทานให้แก่จิตใจของแต่ละคน ดู รม 5:5 เชิงอรรถ e

f คริสตชนที่เมืองเธสะโลนิกามีความกังวลใจเกี่ยวกับมิตรสหายและญาติพี่น้องผู้ล่วงหลับไปแล้ว เพราะพวกเขาจะไม่อยู่ที่นั่นเพื่อรับเสด็จองค์พระผู้เป็นเจ้า เปาโลได้ตอบคำถามนี้โดยยืนยันคำสอนพื้นฐานเรื่องการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย เพื่อค้ำจุนความเชื่อและความหวังของพวกเขา

g “ผู้ล่วงหลับ” (ไม่ใช่ “ล่วงลับ” ตามปกติ) ภาพพจน์กล่าวถึงความตายว่าเป็นการนอนหลับ พบได้บ่อยๆ ในพันธสัญญาเดิม พันธสัญญาใหม่และวรรณคดีกรีก ในทำนองเดียวกัน “การกลับคืนชีพ” จึงเปรียบได้กับ “การตื่นจากหลับ”

h ดู มธ 25:32 เชิงอรรถ f “พระวาจา” ในที่นี้หมายถึงคำสอนของพระเยซูเจ้าอย่างกว้างๆ เท่านั้น (เทียบ ดนล 7:1, 13, 16)

i “เรา” เปาโลคิดว่าตนจะอยู่กับพวกที่รับเสด็จพระคริสตเจ้าด้วย เป็นการแสดงความปรารถนามากกว่าความมั่นใจ (ดู 5:1 เชิงอรรถ a)

j แตร เสียงและเมฆเป็นเครื่องหมายที่เคยใช้บรรยายการสำแดงองค์ของพระเจ้า (ดู อพย 13:22 เชิงอรรถ h; 19:16 เชิงอรรถ g) รายละเอียดเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในวรรณกรรมวิวรณ์ (ดู มธ 24:30ฯ; 2 ธส 1:8 เชิงอรรถ b)

k สำเนาโบราณบางฉบับละ “ผู้ยังมีชีวิตอยู่”

l รายละเอียดของการเสด็จมาของพระคริสตเจ้าในวาระสุดท้ายมีหลายประการ คือ ผู้ตายจะกลับคืนชีพตามพระบัญชา เขาและผู้ยังมีชีวิตอยู่จะถูกนำไปพบกับองค์พระผู้เป็นเจ้า และจะติดตามพระองค์ไปยังการพิพากษา อันเป็นจุดเริ่มต้นของพระอาณาจักรนิรันดร รายละเอียดที่สำคัญที่สุดคือประการสุดท้ายได้แก่ ชีวิตนิรันดรกับพระคริสตเจ้า (ดู 5:10; 2 ธส 2:1) นี่คือ “ความรอดพ้น” “สิริรุ่งโรจน์” และ “อาณาจักร” ที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกบรรดาศิษย์ที่ทรงเลือกสรรให้มีส่วนร่วมด้วย

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก