“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

ค. การชำระข้อพิพาทในศาลของคนต่างศาสนาa

6 1คนใดบ้างเมื่อมีข้อพิพาทกับอีกคนหนึ่ง นำคดีไปว่าความกันต่อหน้าคนต่างศาสนา แทนที่จะให้ผู้ศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ตัดสินb 2ท่านไม่รู้หรือว่า บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะตัดสินโลกc ถ้าท่านจะเป็นผู้ตัดสินโลกแล้ว ท่านไม่เหมาะจะตัดสินเรื่องเล็กน้อยได้หรือ 3ท่านไม่รู้หรือว่า พวกเราจะตัดสินแม้กระทั่งทูตสวรรค์ แล้วเราจะตัดสินกันเองเรื่องของชีวิตนี้ไม่ได้หรือ 4เมื่อท่านเป็นความกันเรื่องของชีวิตนี้ ท่านยอมให้ผู้ไม่มีอำนาจในพระศาสนจักรเป็นผู้ตัดสินหรือd

5ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้เพื่อให้ท่านละอายใจ ในหมู่ท่านไม่มีใครสักคนที่ฉลาดพอจะตัดสินความระหว่างพี่น้องกันเองได้หรือ 6แล้วทำไมพี่น้องต้องเป็นความกัน ยิ่งกว่านั้นยังเป็นความกันต่อหน้าผู้ไม่มีความเชื่อด้วย 7อันที่จริง เมื่อท่านมีคดีพิพาทกัน ก็นับว่าเป็นการพ่ายแพ้อยู่แล้ว ท่านยอมถูกรังแกมิดีกว่าหรือ ท่านยอมถูกโกงมิดีกว่าหรือ 8แต่ท่านกลับไปรังแกและฉ้อโกงกันระหว่างพี่น้องด้วย

9ท่านไม่รู้หรือว่า คนอธรรมจะไม่ได้รับพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก จงอย่าหลอกตนเอง คนผิดประเวณี คนกราบไหว้รูปเคารพ คนเป็นชู้ คนลักเพศ คนรักร่วมเพศ 10คนขโมย คนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย คนฉ้อโกง คนเหล่านี้จะไม่ได้รับพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดกe 11บางท่านเคยเป็นเช่นนี้มาก่อน แต่ท่านได้รับการชำระล้างแล้ว ท่านได้รับความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ท่านได้รับความชอบธรรมแล้วเดชะพระนามพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า และเดชะพระจิตของพระเจ้าของเราf

 

ง. การล่วงประเวณี

12ท่านมักพูดว่า “ข้าพเจ้าทำอะไรก็ได้ทุกสิ่ง”g แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า “ทุกสิ่งมิใช่เป็นประโยชน์เสมอไป” ข้าพเจ้าทำอะไรได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ไม่ยอมให้สิ่งใดมาครอบงำข้าพเจ้า 13ท่านพูดอีกว่า “อาหารมีไว้สำหรับท้อง ท้องมีไว้สำหรับอาหาร” แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า “พระเจ้าจะทรงทำลายทั้งสองอย่าง” ร่างกายมิได้มีไว้สำหรับการล่วงประเวณีh แต่มีไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้ามีไว้สำหรับร่างกาย 14พระเจ้าผู้ทรงปลุกองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ จะทรงปลุกเราให้กลับคืนชีพiด้วยพระอานุภาพของพระองค์เช่นเดียวกัน 15ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นส่วนประกอบพระวรกายของพระคริสตเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะเอาส่วนประกอบพระวรกายของพระคริสตเจ้านี้ไปร่วมกับร่างกายของหญิงโสเภณีหรือ เป็นไปไม่ได้ 16ท่านไม่รู้หรือว่า ผู้ที่ร่วมเพศกับหญิงโสเภณีก็เป็นกายเดียวกับนาง เพราะมีกล่าวไว้ว่า ทั้งสองจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน 17แต่ผู้ที่สนิทสัมพันธ์กับองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นจิตใจเดียวกันกับพระองค์j

18จงหลีกหนีการล่วงประเวณี บาปทั้งหลายนั้นมนุษย์ทำนอกร่างกายk แต่ผู้ที่ล่วงประเวณีทำบาปต่อร่างกายของตนเอง 19ท่านไม่รู้หรือว่าร่างกายของท่านเป็นพระวิหารlของพระจิตเจ้าผู้สถิตในท่าน ท่านได้รับพระจิตนี้จากพระเจ้า 20ท่านจึงไม่เป็นเจ้าของของตนเอง พระเจ้าทรงซื้อท่านไว้ด้วยราคาแพงm ดังนั้น จงใช้ร่างกายของท่านถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด

 

6 a ใน 8 ข้อต่อไปนี้ เปาโลไม่เห็นด้วยที่คริสตชนไปขึ้นศาลคนต่างศาสนาเมื่อเกิดกรณีพิพาทกัน ณ ที่นี้เปาโลใช้สำนวนประชดประชัน ผิดกับคำแนะนำที่นุ่มนวลกว่า ใน รม 13:1-7

b หมายถึง ผู้พิพากษาต่างศาสนา ผู้พิพากษาต่างศาสนายังไม่ได้ “รับความชอบธรรม” จากพระเจ้าด้วยความเชื่อ จะมาให้ความยุติธรรมแก่คริสตชน ซึ่งเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร “ผู้ศักดิ์สิทธิ์” คือผู้ที่ได้รับความชอบธรรมและเป็นคนของพระเจ้าด้วยความเชื่อ

c บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะพิพากษาตัดสินโลกเคียงข้างพระคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นผู้พิพากษาสูงสุด

d ผู้ที่กลุ่มคริสตชนเห็นว่า มีความสำคัญน้อยที่สุดอาจหมายถึงผู้พิพากษาต่างศาสนา (เทียบ มธ 5:25; 18:17) หรืออาจหมายถึง คริสตชนสามัญคนหนึ่ง

e เทียบ 15:50; กท 5:21; อฟ 5:5; วว 21:8; 22:15

f พึงสังเกตสูตรที่กล่าวถึงพระตรีเอกภาพ (ดู 2 คร 13:13 เชิงอรรถ e)

g หรืออาจเป็นคำพูดของเปาโลเอง ซึ่งชาวโครินธ์ยกมาอ้างเพื่อกล่าวโจมตีเปาโล

h เป็นคำตอบของเปาโลต่อพวกที่ถือว่าไม่ต้องมีกฎศีลธรรม พวกนี้เห็นว่าการร่วมเพศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกายเช่นเดียวกับอาหารและเครื่องดื่ม เปาโลตอบว่าอาหารและเครื่องดื่มจำเป็นสำหรับโลกนี้ และจะต้องสูญสลายไปพร้อมกับโลก (ข้อ 13) แต่ (เทียบ 10:31) พฤติกรรมทางเพศเกี่ยวข้องกับการที่เรามีความสัมพันธ์เป็นกรรมสิทธิ์ของพระคริสตเจ้า และเพราะเหตุนี้คริสตชนต้องประพฤติตนให้เหมาะสมกับฐานะนี้ (ข้อ 15-17 ดู อฟ 5:21-33, 23 เชิงอรรถ f)

i บางฉบับว่า “ได้ทรงปลุกให้กลับคืนชีพ” ซึ่งสอดคล้องกับเทววิทยาของเปาโลใน คส 2:12 มากกว่าใน รม 6:4-8 แต่ดูเหมือนว่า เปาโลยังไม่ได้คิดเช่นนี้เมื่อเขียน 1 คร

j ผู้อ่านคงคาดว่า เปาโลน่าจะเขียนว่า “เป็นร่างกายเดียวกับพระองค์” แต่เปาโลระมัดระวังไม่ให้เข้าใจความสัมพันธ์กับพระคริสตเจ้าในความหมายทางวัตถุ ในทำนองว่าจะกลายเป็นร่างกายเดียวกับพระองค์ (ข้อ 15)

k วรรณกรรมชาวเซมิติกชอบเปรียบเทียบสิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม (เทียบ มธ 12:31; ลก 14:26; รม 9:13) คนผิดประเวณีทำบาปผิดต่อร่างกายของตนเองมากกว่าคนที่ทำบาปอื่นที่ใช้ร่างกายน้อยกว่า คนผิดประเวณีทำให้ร่างกายของตนไม่บรรลุถึงจุดมุ่งหมายแท้จริงของร่างกาย ร่างกายมีไว้เพื่อเข้าสัมพันธ์กับชีวิตของผู้อื่น

l ดู 3:16 เชิงอรรถ e; ยน 2:21 เชิงอรรถ i

m ดู รม 3:24 เชิงอรรถ j

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก