“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

3 1จงดูเถิดว่า ความรักที่พระบิดาประทานให้เรานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด

เพื่อทำให้เราได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า

และเราก็เป็นเช่นนั้นจริงa

โลกไม่รู้จักเรา

เพราะโลกไม่รู้จักพระองค์

2ท่านที่รักทั้งหลาย บัดนี้ เราเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว

แต่เราจะเป็นอย่างไรในอนาคตนั้นยังไม่ปรากฏชัดแจ้ง

เราตระหนักดีว่า เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ

เราจะเป็นเหมือนพระองค์

เพราะเราจะได้เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น

เงื่อนไขประการที่หนึ่ง การตัดขาดจากบาป

3ทุกคนที่มีความหวังในพระองค์

ย่อมชำระใจของตนให้บริสุทธิ์ เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงบริสุทธิ์b

4ทุกคนที่ทำบาป ย่อมฝ่าฝืนธรรมบัญญัติ

เพราะบาปเป็นการฝ่าฝืนธรรมบัญญัติ

5ท่านทั้งหลายตระหนักดีแล้วว่า

พระองค์ทรงปรากฏเพื่อทรงลบล้างบาปให้สิ้นไปc

และไม่มีบาปใดในพระองค์

6ทุกคนที่ดำรงอยู่ในพระองค์ย่อมไม่ทำบาปd

และทุกคนที่ทำบาป

ย่อมไม่เคยเห็นและไม่รู้จักพระองค์

7ลูกที่รักทั้งหลาย จงอย่าให้ใครชักนำท่านให้หลงผิด

ผู้ประพฤติชอบย่อมเป็นผู้ชอบธรรม

ดังที่พระองค์eทรงเป็นผู้เที่ยงธรรม

8ผู้ที่ทำบาปย่อมมาจากปีศาจf

เพราะปีศาจนั้นทำบาปมาตั้งแต่แรกเริ่ม

พระบุตรของพระเจ้าทรงสำแดงพระองค์

เพื่อทรงทำลายงานของปีศาจ

9ทุกคนที่บังเกิดจากพระเจ้าย่อมไม่ทำบาป

เพราะเชื้อชีวิตgของพระเจ้าดำรงอยู่ในตัวเขา

และเขาไม่อาจทำบาปได้ เพราะเขาบังเกิดจากพระเจ้า

10เราจำแนกบุตรของพระเจ้าจากบุตรของปีศาจได้โดยวิธีนี้

คือทุกคนที่ไม่ประพฤติชอบ และไม่รักพี่น้องของตน

ก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า

เงื่อนไขประการที่สอง การปฏิบัติตามบทบัญญัติเรื่องความรัก

11นี่คือคำสอนที่ท่านทั้งหลายได้ฟังมาตั้งแต่แรกเริ่ม

คือเราจงรักกัน

12อย่าเป็นเหมือนกาอิน ซึ่งมาจากมารร้าย

และฆ่าน้องชายของตน

เหตุใดเขาจึงฆ่าน้องชาย

เพราะการกระทำของเขาเลวร้าย

แต่การกระทำของน้องชายชอบธรรมh

13พี่น้องทั้งหลาย อย่าแปลกใจเลย

ถ้าโลกเกลียดชังท่าน

14เรารู้ว่า เราผ่านพ้นความตายมาสู่ชีวิตแล้ว

เพราะเรารักพี่น้อง

ผู้ใดไม่มีความรัก ย่อมดำรงอยู่ในความตาย

15ทุกคนที่เกลียดชังพี่น้องของตน ย่อมเป็นฆาตกร

และท่านก็รู้ว่า ไม่มีฆาตกรคนใดมีชีวิตนิรันดรอยู่ในตน

16เรารู้จักความรัก

จากการที่พระองค์ทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อเรา

เราจึงควรสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้องเช่นเดียวกัน

17ถ้าผู้ใดมีทรัพย์สมบัติของโลกนี้

และเห็นพี่น้องของตนขาดแคลน

แต่ยังมีใจแคบต่อเขา

ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในผู้นั้นได้อย่างไร

18ลูกที่รักทั้งหลาย

เราอย่ารักกันแต่ปาก เพียงด้วยคำพูดเท่านั้น

แต่เราจงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง

19จากการกระทำนี้ เราจะรู้ว่าเราอยู่กับความจริงi

เราจะมั่นใจเฉพาะพระพักตร์พระองค์

20แม้ใจของเราอาจจะยังกล่าวโทษเราอยู่ก็ตาม

เพราะพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่าใจของเรา และทรงล่วงรู้ทุกสิ่งj

21ท่านที่รักทั้งหลาย

ถ้าใจของเราไม่กล่าวโทษเรา

เราย่อมมั่นใจได้เมื่ออยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า

22และถ้าเราวอนขอสิ่งใด

เราย่อมจะได้รับสิ่งนั้นจากพระองค์

เพราะเราปฏิบัติตามบทบัญญัติ

และทำสิ่งที่พระองค์พอพระทัย

23นี่เป็นบทบัญญัติของพระองค์ คือ

ให้เราเชื่อในพระนามพระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรของพระองค์

และให้เรารักกัน ดังที่พระองค์ทรงบัญญัติให้เรา

24ผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติ

ย่อมดำรงอยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าทรงดำรงอยู่ในผู้นั้น

เรารู้ว่าพระองค์ทรงดำรงอยู่ในเรา

จากพระจิตเจ้า ซึ่งพระองค์ประทานให้เรา

 

3 a สำเนาโบราณบางฉบับละ “และเราก็เป็นเช่นนั้นจริง”

b “พระองค์” หมายถึง “พระเยซูเจ้า”

c สำเนาโบราณบางฉบับว่า “บาปของเรา”

d ลำดับความคิดของยอห์นที่ตรงนี้ คือเริ่มจากความหวังที่จะเห็นพระเจ้า (ข้อ 2) และความศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์ (ข้อ 3) ยอห์น
กล่าวถึงการกระทำของพระเยซูคริสตเจ้า (ข้อ 5) (2:2) ซึ่งก่อให้เกิดการละเว้นความชั่วทุกประการอย่างที่บุตรของพระเจ้าควรจะทำ (ข้อ 9) (5:18; เทียบ กท 5:16) เพราะพระเจ้าทรงบันดาลให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมแล้ว (ข้อ 7) (2:29; ดู รม 3:24-25, 24 เชิงอรรถ i) แต่มิได้หมายความว่าเขาจะทำบาปอีกไม่ได้ (1:8-10, 9 เชิงอรรถ g) บาปเป็นการตัดความสัมพันธ์กับพระเจ้า (เทียบ 2:3-5)

e ดู 2:6 เชิงอรรถ e

f ยอห์นเคยใช้วลี “ของพระเจ้า” “จากความจริง” “บุตรของพระเจ้า” เพื่อแสดงว่าคริสตชนดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้อิทธิพลของพระเจ้า บัดนี้ยอห์นก็ใช้วลีคล้ายๆ กัน เช่น “ของปีศาจ” (3:8) “ของมารร้าย” (3:12) จากหรือของโลกที่ไม่จีรัง (2:16; 4:5) “ลูกของปีศาจ” เพื่อหมายถึงบุคคลที่ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้อิทธิพลของปีศาจ และปล่อยตนให้ถูกปีศาจล่อลวง

g “เชื้อชีวิต” แปลตามตัวอักษรว่า “เมล็ดพันธุ์ของพระเจ้า” อาจจะหมายถึงพระคริสตเจ้า (เทียบ กท 3:16; 1 ยน 5:18) แต่ผู้อธิบายพระคัมภีร์บางคนตีความว่าหมายถึงพระจิตเจ้า (เทียบ 2:20-27) หรือเชื้อชีวิตของพระเจ้าที่พระองค์ทรงนำมาให้เรา

h ความขัดแย้งระหว่างบุตรของพระเจ้าซึ่งดำเนินชีวิตในความจริงและความรัก กับโลกที่ถูกบาปและความเกลียดชังครอบงำอยู่ จะถูกกล่าวต่อไปจนถึง 4:6

i ในข้อเขียนของยอห์น คำว่า “ความจริง” (2:4) มีความหมายกว้างมาก และรวมทั้งความเชื่อและความรัก (3:23; 5:1) ผู้ที่อยู่ “ในความจริง” คือผู้ที่เชื่อ (2:21-22) และผู้ที่รัก (3:18-19; ดู ยน 3:21; 8:32 เชิงอรรถ k; 18:37; 2 ยน 4-6; 3 ยน 3-8)

j บุคคลที่มโนธรรม (ตามตัวอักษรว่า “ใจ”) ตำหนิติเตียน จะพบว่าพระเจ้าในฐานะผู้พิพากษามีความถี่ถ้วนและมีความผ่อนปรนมากกว่ามโนธรรมของเขา แต่เพื่อจะรู้สึกเช่นนี้ได้ เขาต้องปฏิบัติความรักเสียก่อน ประโยคนี้ยังแปลได้อีกว่า “เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า เราจะพิสูจน์ให้มโนธรรมของเราเห็นว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่ามโนธรรมของเราและทรงล่วงรู้ทุกสิ่ง ถ้ามโนธรรมนั้นกล่าวหาเรา”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก