บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

อาทิตย์ที่ 14 เทศกาลธรรมดา
8 กรกฎาคม 2018
บทอ่าน
อสค 2:2-5 ; 2 คร 12:7-10 ; มก 6:1-6ก
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 500, 699, 2610
                               ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร (CSDC) 259
จุดเน้น ในฐานะผู้มีความเชื่อ พละกำลังของเราขึ้นอยู่ในสัมพันธภาพของเรากับพระคริสตเจ้า มิใช่ในความสามารถหรือความเก่งของเรา


            ตลอดหลายร้อยปี หลายคนได้คิดถึงหนามของนักบุญเปาโล (2 คร 12:7) บางคนกล่าวว่ามันคือความป่วยไข้ฝ่ายร่างกายเหมือนมาลาเรีย หรือตาอักเสบที่ทำให้ท่านมองลำบาก บางคนคิดว่าเป็นความป่วยไข้ฝ่ายจิตใจ เหมือนความเจ็บปวดจากการถูกต่อต้าน หรือปีศาจที่ทดสอบความเชื่อเสมอและผจญให้ทำบาป แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร และเราไม่มีทางทราบชัด มันได้ทำให้นักบุญเปาโลเข้าหาพระคริสตเจ้ามากยิ่งขึ้น ดังในคำของเพลงสดุดีวันนี้ว่า ข้าพเจ้าเงยหน้ามองหาพระองค์ (สดุดี 122:1) ดังนั้นในระยะยาว ดีที่สุดที่เราไม่รู้ว่า “หนามทิ่มแทง” เป็นอะไรแน่ มิฉะนั้นเราอาจพลาดเหตุผลแท้ของสิ่งที่ท่านแบ่งปัน ว่าในสมัยของเรามีการต่อสู้ เราควรเรียนรู้จากท่าน และหาทางลี้ภัยในพระคริสตเจ้า

         ในคำพูดจริงใจมาก นักบุญเปาโลมิได้บอกว่าเป็นการทดลองและสิ่งท้าทาย แต่ข้อเท็จจริง ท่านได้วอนขอองค์พระผู้เป็นเจ้า 3 ครั้ง ขอให้พ้นจาก “หนาม” นี้ นี่แหละ ท่านตระหนักว่า ความอ่อนแอและความผิดหวังล้มเหลวต่อหน้าโลก เป็นสิ่งทำลายชีวิตจิตส่วนตัว นักบุญเปาโลขจัดความคิดผิดๆ เกี่ยวกับความสำเร็จด้วยการสร้างจิตใจภายใน ให้มีที่สำหรับพระอานุภาพสามารถอยู่และแผ่ขยายในตัวท่านจริงๆ ราวกับว่าท่านยืนตัวเปล่าฝ่ายจิตวิญญาณ เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า อ่อนแอ เปิดใจ หรือแม้เวลาเข้มแข็งที่สุดก็ตาม

         ในช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์นี้ที่นักบุญเปาโลตระหนักว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดกับท่านในชีวิต หน้าที่ประการแรกต้องอยู่กับพระคริสตเจ้า ไม่มีอะไรจะถวายเกียรติแด่พระเจ้า หรือแสดงความเคารพแท้ต่อของขวัญนี้ที่พระเจ้าได้ประทานให้ เหมือนประกาศกเอเสเคียลในบทอ่านแรก นักบุญเปาโลตระหนักว่าไม่ว่าท่านได้รับอะไรบ้าง ท่านต้องกล้าหาญ เข้มแข็งในชีวิตที่เป็นประจักษ์พยาน ท่านต้องยอมรับเหมือนพระเยซูเจ้าได้ทรงชี้แสดงในพระวรสาร ว่าประกาศกมิได้รับการยอมรับเสมอ “ในถิ่นกำเนิด ท่ามกลางวงศ์ญาติ และในบ้านของตน” แต่บุคคลมากมายยอมรับสาระคำสอนนี้ แต่มากมายจะปฏิเสธ

         บางทีนี่เป็นสิ่งที่นักบุญเปาโลพูดกับเราวันนี้ การเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้า เราต้องกล้าและซื่อสัตย์ในทุกสิ่ง แม้ว่าต้องสวนกระแสโลก หรือสิ่งที่คนส่วนมากยอมรับในสังคม นี่เป็นก้าวแรกในการเจริญชีวิตคริสตชน

          บทอ่านวันนี้เตือนใจเรา เหมือนบรรดาประกาศกว่า พระเจ้าทรงส่งเราไปในโลก เหมือนส่งบรรดาอัครสาวก เราต้องอธิบายและปกป้องความเชื่อต่อหน้าคนอื่น เราจะเป็นคนที่เชื่อแต่นั่งเฉยๆ หรือเป็นศิษย์ที่อุ่นๆ หรือมีใจครึ่งเดียวในการอุทิศตน พยายามประนีประนอมกับวิถีทางของโลก กับพวกเขาในพระวรสารที่ทำให้เราต้องเลือกตัดสินใจระหว่าง 2 กลุ่มนี้

       พี่น้อง เราต้องเป็นศิษย์ที่รู้ว่าเราต้องทำอะไรเพื่อพระเจ้า เป็นศิษย์ที่มีความเชื่อเติบโตเสมอ ในชีวิตภาวนา เมื่อเรากล้า เพียรพยายามและซื่อสัตย์ เป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้าและพันธกิจ เหมือนนักบุญเปาโลและประกาศกเอเสเคียล เรายอมรับว่าเราอ่อนแอ และต้องการพึ่งพระหรรษทานและพละกำลังของพระเจ้า เราจึงยืนขึ้นได้ มีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้น และมีสัมพันธภาพกับพระคริสตเจ้าลึกซึ้งยิ่งขึ้น
พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Daily Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing (กรกฎาคม-กันยายน 2018), หน้า 311-312.