วันอาทิตย์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา
27 มกราคม 2013
บทอ่าน นฮม 8: 2-4ก, 5-6, 8-10
1 คร 12: 12-30 หรือ 12: 12-14, 27
ลก 1: 1-4 และ 4: 14-21
พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 436, 544, 695, 714, 1168, 1286, 2443
ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร (CSDC) 28
จุดเน้น เราเป็นพระกายของพระคริสตเจ้า เมื่อเป็นหนึ่งในพระคริสตเจ้า เราจะพบความหมายเอกภาพของเรากับพระองค์
พี่น้องเคยสังเกตไหมว่ามีโฆษณาค้าขายมากเท่าไรในโทรทัศน์ ในวารสาร หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต มีโฆษณาเกี่ยวกับศูนย์ฟิตเนส อุปกรณ์ออกกำลังกายใหม่ล่าสุด เราถูกล้างสมองทุกวัน มีดารา หรือผู้มีชื่อเสียงมาช่วยโฆษณารับรอง ขอให้เราทดลองใช้ จะมีสุขภาพดี ฯลฯ บ่อยๆ สังคมเน้นร่างกายสวยงาม หุ่นดี เราใช้เงินมากมายแต่ละปีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายภายนอกนี้
ในฐานะมนุษย์เราถูกสร้างตามภาพลักษณ์ของพระเจ้า เราจึงมีศักดิ์ศรีภายในที่มีคุณค่าเหนือสิ่งปรากฎภายนอก พระเจ้าทรงมอบศักดิ์ศรีให้ มิใช่เราดูปรากฏภายนอกเป็นอย่างไร ศักดิ์ศรีในตัวเรา คือ คุณธรรม ความสัมพันธ์กับพระเจ้าผู้ทรงสร้างและสนับสนุนชีวิตของเรา
เมื่อเรารู้ความจริงยิ่งใหญ่นี้แล้ว จึงไม่แปลกใจที่นักบุญเปาโลได้เลือกภาพลักษณ์ของร่างกาย และสอนเทววิทยาเกี่ยวกับอัตลักษณ์คริสตชน ในฐานะได้รับศีลล้างบาป น่าสนใจที่นักบุญเปาโลเลือกภาพลักษณ์ครอบครัว หรือ ชุมชน นักบุญเปาโลรู้ว่าภาพลักษณ์ร่างกายมนุษย์สามารถบอกได้ชัดเจนเกี่ยวกับฐานะที่เราเป็นในพระคริสตเจ้า เหมือนดังร่างกายที่ถูกสร้างขึ้นให้มีอวัยวะส่วนต่างๆ หลายประการ ดังที่เราแต่ละคนก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในพระกายพระคริสตเจ้า หรือ ในพระศาสนจักร
เราทุกคนรู้ว่าเมื่อร่างกายทำหน้าที่ดี ไม่เจ็บไม่ปวด คือรู้สึกสบายดี เราก็รู้ว่าความเจ็บปวดแม้เล็กน้อยที่สุด หรือ ความไม่สะดวกสบาย สามารถส่งผลต่อความรู้สึกได้ แม้สิ่งที่ดูเหมือนไม่สำคัญเช่นที่เล็บเท้า หรือ รอยไหม้เล็กๆ สามารถทำให้ปวดมากได้ เช่นเดียวกันกับพระกายพระคริสตเจ้า พระศาสนจักร สิ่งที่ดูเหมือนเล็กที่สุดก็สามารถทำให้ร่างกายเป็นทุกข์เสียใจมากได้
ในบทอ่านที่สอง นักบุญเปาโลสอนใจเราว่า “ถ้าอวัยวะหนึ่งเป็นทุกข์ อวัยวะอื่นๆ ทุกส่วนก็ร่วมเป็นทุกข์ด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรติ อวัยวะอื่นๆ ทุกส่วนก็ร่วมยินดีด้วยเช่นเดียวกัน” (1 คร 12: 26)
เมื่อเราไตร่ตรองพระวรสารนักบุญลูกาวันนี้ ดูเหมือนบอกเราถึงความจำเป็นฝ่ายโลก แต่ตามจริงเน้นเกี่ยวกับความจำเป็นฝ่ายจิตวิญญาณ กล่าวคือ พระเจ้าทรงเรียกเราให้เลี้ยงอาหารคนยากจน เราต้องเคารพศักดิ์ศรีของแต่ละคนในการเลี้ยงดูเขา เสรีภาพแท้จริงมีความหมายมากกว่าแค่สิทธิทางการเมือง เป็นการรับรู้ศักดิ์ศรีและศักยภาพของมนุษย์ เราต้องช่วยกันให้สามารถเห็นโลกถูกสร้างตามคุณค่าพระวรสาร และพยายามทำงานเพื่อวิสัยทัศน์แบบนี้ มิใช่พอใจกับความถูกต้องตามการเมือง หรือหน้าตาภายนอกที่ว่างเปล่าไร้คุณค่า
พระเยซูเจ้าทรงเริ่มภารกิจสาธารณะ ทรงเผยแสดงพันธกิจที่พระเจ้าทรงพอพระทัย เป็นพระพรชัดเจนสำหรับทุกคน คือ เพื่อความยุติธรรม และความถูกต้อง ให้เกิดขึ้นในชุมชนทุกยุคทุกสมัย นี่คือพันธกิจของเราด้วย คำถามที่เราน่าถามตนเองคือ ฉันได้ทำอะไร หรือ ควรทำอะไรให้บรรลุวิสัยทัศน์นี้
พระสังฆราชวีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
(มกราคม – มีนาคม 2013), หน้า 35-37.