วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม  2012
วันอาทิตย์สมโภชพระจิตเจ้า (ปี B)
บทอ่าน
: กจ  2: 1-11  ;    1 คร  12: 3ข-7, 12-13  ;    ยน  20: 19-23
พระวรสารสัมพันธ์กับ
คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก 575, 643, 645, 659, 730, 788, 858, 976, 1087, 1120, 1287, 1441, 1461, 1485, 2839
                               ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)   491
จุดเน้น พระจิตเจ้าทรงเพิ่มพูนชีวิตความเชื่อ  ที่ลุกร้อนและเปี่ยมด้วยความรักแก่เรา
             ในหนังสือกิจการอัครสาวก  นักบุญลูกายืนยันเหตุการณ์วันสมโภชพระจิตเจ้า  (วันเปนเตกอสเต)  ว่า  “บรรดาศิษย์ทุกคนมาชุมนุมในสถานที่เดียวกัน  ทันใดนั้น  มีเสียงจากฟ้าเหมือนเสียงลมพัดแรงกล้า  ทุกคนที่อยู่ในบ้านได้ยิน  เขาเห็นเปลวไฟลักษณะเหมือนลิ้น  แยกไปอยู่เหนือศีรษะของเขาแต่ละคน”  การประทับอยู่ของพระจิตเจ้าเหมือนไฟเป็นสิ่งน่าแปลก  ไฟในทางศาสนา  บางครั้งมีความหมายด้านลบ  เช่น  ไฟนรก  ข้าวละมานจะถูกมัดเผาในไฟไม่รู้ดับ  (มธ  13:40)  และไฟทำลายเมืองโสดมและโกโมราห์  (ปฐก  19:28)  ถึงแม้จะมีการอ้างอิงข้อความในพระคัมภีร์เกี่ยวกับไฟแง่ลบเช่นนี้  แต่ก็มีหลายครั้งที่ไฟเป็นสัญลักษณ์  หมายถึงการประทับอยู่ของพระเจ้า  เช่น  ตอนพระเจ้าตรัสกับโมเสสจากพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ  (อพย  3)  ตอนที่พระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับอับราม  อาศัย  “หม้อไฟที่มีควันพวยพุ่งและคบเพลิงที่ลุกอยู่”  ในตอนกลางคืนผ่านเครื่องบูชาของเขา  (ปฐก  15:17)
              ให้เราไตร่ตรองเกี่ยวกับคุณลักษณะของไฟ  จะช่วยเราให้เข้าใจพระจิตเจ้าดีขึ้น  ที่ปรากฏเป็นเปลวไฟลักษณะเหมือนลิ้น  ไฟช่วยทำให้บริสุทธิ์  ขับไล่เชื้อโรคบักเตรี  ไฟช่วยเปลี่ยนแปลง  กล่าวคือ  หลังจากใช้ไฟเผาสิ่งต่างๆ  สิ่งนั้นจะไม่เหมือนเดิม  ไฟเผาผลาญทำลายทุกสิ่ง  ไฟลุกร้อน  เคลื่อนไปในสถานที่ลมพัดไป

               ผลที่เกิดขึ้นจากไฟ  ก็คล้ายกับพระจิตเจ้าทรงนำผลมาสู่บุคคลที่เปิดใจรับพระองค์  นี่เป็นผลที่พระเจ้าปรารถนาให้บังเกิดในชีวิตของเรา  เราต้องรับการชำระให้บริสุทธิ์  และศักดิ์สิทธิ์  ชีวิตของเราต้องถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นเหมือนพระคริสตเจ้า  เราต้องยอมให้พระจิตเจ้าเผาผลาญ  (consume)  ชีวิตเก่าและครอบครองใจเรา  ให้ดวงใจลุกร้อนด้วยความรักต่อพระเยซูเจ้า  เพื่อเราจะสามารถนำความรักของพระองค์ไปสู่คนอื่น  ให้พระเจ้าประทานพระจิตแก่เรา  เหมือนไฟจากสวรรค์

                เมื่อเราพูดเกี่ยวกับจิตวิญญาณ  ตามความหมายฝ่ายโลกทั่วไป  เราหมายถึงบางสิ่งเกี่ยวกับชีวิตและความรักกระตือรือร้น  (passion)  เราอาจเปรียบเทียบกับใครบางคนที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ  เช่น  รักโรงเรียน  รักงาน  รักทีมงาน  รักครอบครัว  พวกเขามีไฟ  มีความรักกระตือรือร้น  เราสัมผัสได้จากเสียง  เวลาฟังเขาพูด  เราเห็นบนใบหน้า  เราเห็นวิธีที่เขาใช้เวลาดำเนินชีวิตและจ่ายเงิน  เขาทุ่มเทใจให้  พวกเขามีชีวิตชีวา

                 การส่งพระจิตเจ้ามาให้บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้า  พระประสงค์ของพระเจ้าก็ชัดเจน  คือเพื่อให้พวกเขามีไฟเพื่อพระองค์เหมือนกัน  การประทับอยู่ของพระจิตเจ้า  ช่วยสร้างให้ชีวิต  และทำให้พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์  (CCC  747)  หลังจากบรรดาศิษย์ได้รับพระจิตเจ้าแล้ว  พวกเขาเริ่มพูดภาษาอื่นๆ  กล้าออกไปประกาศพระเยซูคริสตเจ้าแก่เพื่อน  แก่คนแปลกหน้า  ทั้งใกล้และไกล  ไฟแห่งความเชื่อได้กระจายออกไป  ดังที่บันทึกในพระคัมภีร์ว่า  ประชาชนประหลาดใจอย่างยิ่ง  ที่พระเจ้าทรงกระทำอาศัยบรรดาอัครสาวก  ประชาชนเปิดใจรับพระจิตเจ้า  พวกเขาแบ่งปันพระพรอย่างซื่อสัตย์  และด้วยความรักเมตตา  เพื่อความดีของทุกคน  เพื่อเทิดพระเกียรติและพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า  พวกเขายอมให้พระจิตเผาผลาญอคติ  การแตกแยก  ด้วยการให้อภัยซึ่งกันและกันจึงเกิดสันติสุขในหมู่พวกเขา

                 หากเราต้องการเป็นคริสตชนแท้  เราต้องมีไฟเพื่อพระเจ้า  ความเชื่อต้องไม่เป็นเปลวไฟริบหรี่  แต่ต้องมีไฟแห่งความรัก  กระตือรือร้นในการนมัสการพระเจ้า  ในการภาวนา  ในการขับร้องเพลงสรรเสริญ  เราฟังพระวาจาด้วยความรัก  และประกาศพระเยซูคริสตเจ้าแก่ผู้อื่น  ความรักต่อพระเจ้าต้องให้คนอื่นเห็นได้บนใบหน้า  สัมผัสได้เวลาได้ยินเราพูด  เราต้องดำเนินชีวิตแห่งความเชื่อ  แบ่งปันพระพรต่างๆ  เพื่อความดีของผู้อื่น
 
               ขอพระจิตเจ้าทรงนำความรักกระตือรือร้นเช่นนี้มาให้เรา  ให้เราบริสุทธิ์  เปลี่ยนแปลง  เผาผลาญเราให้มีไฟเพื่อพระเจ้า  ให้เราเปิดใจรับพระจิตเจ้า  “เชิญเสด็จมาข้าแต่พระจิตเจ้า  เชิญเสด็จมาสถิตในดวงใจสัตบุรุษ  และทรงบันดาลให้ลุกร้อนด้วยความรักของพระองค์”

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(เมษายน – มิถุนายน  2012  Vol. 45 No. 2), หน้า 242-244.