พระสังฆราชวีระ อาภรณ์รัตน์ ถอดความ
สมโภชนักบุญทั้งหลาย
วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2011
บทอ่าน : วว. 7:2-4, 9-14 ; 1 ยน. 3:1-3 ; มธ. 5:1-12ก
พระวรสารสัมพันธ์กับ
คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC) 520, 544, 581, 1716, 1720, 2305, 2330, 2518, 2546
ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร (CSDC) ข้อ 492
จุดเน้น วันนี้เราให้เกียรตินักบุญทั้งหลาย และหวังว่าวันหนึ่งเราจะอยู่กับพวกท่านในอาณาจักรสวรรค์
ในพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก เราสมโภชนักบุญทั้งหลายในวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยมีความคิดเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวพืชผลด้วย (เป็นวันฉลองบังคับ สำหรับพระศาสนจักรในประเทศไทย เพื่อความสะดวกของสัตบุรุษ เราเลื่อนมาฉลองวันอาทิตย์นี้) แต่สำหรับพระศาสนจักรคาทอลิกตะวันออก ฉลองนักบุญทั้งหลายในวันอาทิตย์หลังจากวันเปนเตกอสเต (สมโภชพระจิตเจ้า) โดยมีความคิดเตือนใจถึงบรรดาผู้ให้ชีวิตของเขาสำหรับพระศาสนจักรว่าเป็นพืชผลแรก บทภาวนาของคาทอลิกตะวันออก กล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้าแห่งสิ่งสร้างทั้งมวล บรรดามรณสักขีเปรียบดังพืชผลแรกของธรรมชาติ ที่จักรวาลถวายแด่พระองค์ อาศัยคำเสนอวิงวอนของพระมารดาพระเจ้า โปรดรักษาพระศาสนจักรที่ประทับของพระองค์ให้มีสันติสมบูรณ์ด้วยเทอญ พระเจ้าผู้ทรงพระเมตตา”
ในพระศาสนจักรทั่วโลกสมัยแรก ถือว่าบรรดามรณสักขีเป็นนักบุญ สมัยต่อมา บรรดาชายหญิงผู้ดำเนินชีวิตศักดิ์สิทธิ์ ได้รับการยกย่องเป็นนักบุญด้วย เป็นเวลาหลายศตวรรษต่อมา พระศาสนจักรพัฒนาการแต่งตั้งนักบุญอย่างมีขั้นตอนยิ่งขึ้น กล่าวคือ มีการประกาศเป็นบุญราศี และต่อมาจึงมีการแต่งตั้งเป็นนักบุญ เราถือว่าทุกท่านที่ได้รับชัยชนะในสวรรค์เป็นนักบุญ ไม่ว่าจะได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นทางการหรือไม่ เราก็ยึดถือเป็นแบบอย่าง และเชื่อว่าท่านเป็นผู้เสนอวิงวอนเพื่อเรา
หลักประการหนึ่งในการพิจารณาแต่งตั้งใครเป็นนักบุญ ดูว่าพวกเขาดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนของพระเยซูอย่างไร พระวรสารวันนี้กล่าวถึงบทเทศน์บนภูเขา เรื่องความสุขแท้จริง สอนเราว่า มิใช่แค่พฤติกรรมภายนอกเท่านั้น แต่ความพร้อมภายในด้วย พวกเราส่วนมากรู้จักและเคารพรักบรรดานักบุญผู้ดำเนินชีวิตหลายร้อยปี หรือมากกว่านั้นอีก แต่มีหลายท่านที่อยู่ใกล้สมัยของเรา ได้ดำเนินชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์ บางท่านเป็นบุคคลที่เรารู้จักคุ้นเคย และบางองค์ได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีต้นปีนี้เอง เช่น บุญราศีสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2
พระองค์ดำเนินชีวิตตามบทเทศน์บนภูเขา เรื่องความสุขแท้จริง พระองค์ได้เอาใจใส่ผู้ป่วย คนยากจน และผู้ถูกทอดทิ้ง พระองค์ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ศรีของประชาชน ในร่างกายของพระองค์ ได้รับบาดแผลเพราะถูกลอบปลงพระชนม์ และได้ให้อภัยผู้ปองร้ายพระองค์ สมเด็จพระสันตะปาปาได้เป็นพยานแบบอย่าง ถึงกระนั้นวาระสุดท้ายของชีวิต พระองค์เป็นโรคปากินสัน การเป็นนักบุญปัจจุบันไม่ต้องใช้เวลานานเหมือนสมัยก่อน ในสมัยของเรา พระเจ้ายังทรงยกย่องประชาชนผู้มีความศักดิ์สิทธิ์ดีเด่น เราจงตระหนักว่า บรรดานักบุญช่วยเราด้วยแบบอย่างชีวิตของพวกเขา และพวกเขาเสนอวิงวอนแทนเรา เพื่อให้เราต่อสู้กับการทดลอง และตอบกระแสเรียกของพระเจ้าให้เราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ให้เราปฏิบัติดังนี้ เพื่อวันหนึ่งเราจะได้ร่วมกับพวกเขาในสวรรค์ สรรเสริญพระเจ้าตลอดนิรันดร
จาก Homilies โดย Catholic Diocese of Lansing,
Vol. 44 No. 4 (Oct.-Dec. 2011), หน้า 429-430.