บทเทศวันอาทิตย์ โดย ฯพณฯ ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์
อาทิตย์ที่  31  เทศกาลธรรมดา
บริการด้วยความสุภาพ 
วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม  2011
บทอ่าน
: มลค. 1:14ข - 2 : 2ข, 8-10 ; 1 ธส. 2:7ข – 9, 13 ; มธ. 23:1 – 12

พระวรสารสัมพันธ์กับ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (CCC)  ข้อ  526, 2367
จุดเน้น ชีวิตของพระเยซูเจ้าเป็นแบบอย่างการรับใช้ที่สุภาพ พระองค์ทรงเชิญเราให้ทำตาม
              พ่อแม่ผู้ปกครอง  ครู  และบรรดาผู้ใหญ่ตระหนักดีถึงข้อเท็จจริงว่า  เราสอนเด็กๆ ด้วยแบบอย่างมากกว่าคำพูดเท่านั้น  เมื่อเติบโตเข้าสู่วัยผู้ใหญ่  เราส่วนมากถูกสอนให้เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้อื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบ  คำแนะนำนี้ยังคงประยุกต์ใช้ได้สำหรับปัจจุบัน  เราเคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า  ตัวอย่างดังกว่าคำพูด  (แบบอย่างครั้งหนึ่งมีคุณค่ามากกว่าคำพูดนับพันคำ)

              บทอ่านที่หนึ่ง  ประกาศกมาลาคีได้เตือนบรรดาพระสงฆ์ของชาวยิว  (ในสมัยนั้น  ประมาณ  500  ก่อน ค.ศ.)  พวกเขาได้ประพฤติออกนอกทางของพระเจ้า  และยังกระทำพิธีนมัสการพระเจ้า  พวกเขามิได้ปฏิบัติตามพันธสัญญา  ไม่เอาใจใส่เกี่ยวกับคุณภาพ  หรือเครื่องบูชาให้บริสุทธิ์  พฤติกรรมเช่นนี้เป็นแบบอย่างไม่ดีให้คนอื่นทำตาม  และประชาชนก็รู้สะดุด  ไม่อยากร่วมพิธีนมัสการพระเจ้า  “แต่ท่านทั้งหลายได้หันไปจากทางนั้น  ท่านเป็นเหตุให้หลายคนต้องสะดุดเพราะคำสั่งสอนของท่าน  ท่านได้บิดเบือนพันธสัญญาที่เราได้ทำไว้กับเลวี”  (มลค. 2:8)

              เรารู้จากประสบการณ์ว่าประชาชน – เด็ก – เยาวชน  ชอบจำ  ชอบทำสิ่งไม่ดี  เหมือนชอบจำ  ชอบทำตามตัวอย่างที่ดีด้วย  ตัวอย่างเช่น  เรื่องกีฬา  หรือดารานักแสดงต่างๆ  เด็ก – เยาวชน  ชอบเลียนแบบการแต่งตัว  ทรงผม  ท่าทาง  สำนวนการพูดที่ไม่ควรพูด  ไม่ควรเลียนแบบ  ทั้งๆ ที่เราควรเลือกเลียนแบบสิ่งที่ดี  ตามที่พระเยซูเจ้าทรงสอน  และเป็นพยานถึงความจริง  ความดีงาม

             ในพระวรสารวันอาทิตย์นี้  (มธ. 23)  พระเยซูเจ้าทรงวิจารณ์บรรดาผู้นำศาสนา  (ธรรมาจารย์และชาวฟาริสี)  เรื่องความหน้าซื่อใจคดและความชอบโอ้อวด  พวกเขาได้เรียกร้อง (สั่ง) ให้คนอื่นทำ  แต่ตนเองไม่ปฏิบัติ  ผลที่ตามมา  พระองค์ทรงถูกตัดสินประหารชีวิตบนไม้กางเขน  พระองค์ทรงใช้สถานการณ์สอนประชาชนและบรรดาศิษย์  ถึงหลักการสำคัญในการดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า  “ถ้าเขาสั่งสอนเรื่องใด  ท่านจงปฏิบัติตามเถิด  แต่อย่าปฏิบัติตามการกระทำของเขา  เพราะเขาพูด  แต่ไม่ปฏิบัติ”  (มธ. 23:3)  ท่านทั้งหลาย... มีพระบิดาเพียงพระองค์เดียวในสวรรค์... มีอาจารย์เพียงพระองค์เดียว  คือ  พระคริสตเจ้า

               พระเยซูเจ้าทรงสรุปคำสั่งสอน  พร้อมคำแนะนำว่า  “ในกลุ่มของท่านผู้ใดเป็นใหญ่  จะต้องเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น”  กล่าวคือ  เราต้องสุภาพดุจผู้รับใช้พระเจ้าและผู้อื่น  เหมือนพระเยซูเจ้าทรงได้ปฏิบัติเป็นแบบอย่าง  เช่น  ก่อนรับประทานอาหารค่ำมื้อสุดท้าย  ได้ล้างเท้าให้บรรดาศิษย์  และตรัสว่า  “ท่านทั้งหลายเรียกเราว่าอาจารย์  และองค์พระผู้เป็นเจ้า  ก็ถูกแล้วเพราะเราเป็นอย่างนั้นจริงๆ ...  เราวางแบบอย่างไว้ให้แล้ว  ท่านจะได้ทำเหมือนกับที่เราทำกับท่าน”  (ยอห์น  13:13, 15)  แบบอย่างของพระองค์ตรงกันข้ามกับแบบอย่างของผู้นำศาสนาในสมัยนั้น
 เรามีโอกาสทุกวันที่จะยอมรับการเชิญของพระเยซูเจ้า  เลียนแบบอย่างพระองค์ในเรื่องความสุภาพและการบริการ  อาศัยพระหรรษทานช่วย  เราสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับคนอื่น  จึงอาจช่วยนำพวกเขาให้มาใกล้ชิดพบพระเป็นเจ้า  นี่เป็นสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงขอเราวันนี้

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์ ถอดความ
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
Vol. 44  No. 4  (Oct.-Dec. 2011),  หน้า  426-427.