เพลงสดุดีที่ 147 (Vg 146-147)

เพลงสรรเสริญพระผู้ทรงสรรพานุภาพa

ภาคแรกของ สดด บทนี้เป็นการสรรเสริญพระเจ้าที่ทรงนำประชากรอิสราเอลกลับจากแดนเนรเทศ และทรงฟื้นฟูกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ ภาคที่สองสรรเสริญพระองค์ในฐานะที่ทรงเป็นพระผู้สร้าง และทรงจัดหาสิ่งที่จำเป็นสำหรับสรรพสิ่งที่ทรงสร้างไว้ ส่วนภาคสุดท้าย ผู้ประพันธ์เชิญชวนกรุงเยรูซาเล็มโดยเฉพาะให้สรรเสริญพระเจ้าที่ประทานพระพรพิเศษ คือความปลอดภัย สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ตน แต่พระพรพิเศษสุดที่ไม่เคยประทานให้แก่ผู้ใดเลย คือการที่ทรงเปิดเผยความจริงในรูปแบบของธรรมบัญญัติ พระพรนี้พระองค์ทรงสงวนไว้สำหรับอิสราเอลเท่านั้น พระพรพิเศษที่พระเจ้าประทานแก่กรุงเยรูซาเล็มและอิสราเอลนั้นบัดนี้ตกเป็นของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นเสมือนประชากรอิสราเอลใหม่ของพระเจ้า สำนวนแปลภาษากรีกและละตินแบ่ง สดด บทนี้ออกเป็นสองบท ได้แก่ สดด 147:1-11 เป็น สดด 146 (กรีกและละติน) และ สดด 147:12-20 เป็น สดด 147 (กรีกและละติน) ตั้งแต่ สดด 148 เป็นต้นไป เลขประจำเพลงสดุดีจะตรงกันอีกทั้งในฉบับภาษาฮีบรู กรีกและละติน

อัลเลลูยาb

1เป็นการดีที่จะสรรเสริญพระเจ้าของเรา

        เป็นที่น่ายินดีจะบรรเลงดนตรีสรรเสริญพระองค์c

2พระยาห์เวห์ทรงสร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่

        ทรงรวบรวมชนอิสราเอลที่ถูกเนรเทศให้มารวมกัน

3ทรงรักษาผู้ชอกช้ำใจ

        ทรงพันบาดแผลให้เขา

4พระองค์ทรงนับจำนวนดาวในท้องฟ้า

        ทรงเรียกชื่อดาวแต่ละดวง

5องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรานั้นยิ่งใหญ่ ทรงสรรพานุภาพ

        พระปรีชาญาณของพระองค์ไม่มีขอบเขต

6พระยาห์เวห์ทรงค้ำจุนคนต่ำต้อย

        ทรงกดคนอธรรมลงกับพื้นดิน

7จงร้องเพลงขอบพระคุณถวายพระยาห์เวห์

        จงเล่นพิณร้องเพลงสดุดีถวายพระเจ้าของเราเถิด

8พระองค์ทรงปกคลุมท้องฟ้าด้วยหมู่เมฆ

        และทรงเตรียมสายฝนสำหรับแผ่นดิน

ทรงบันดาลให้ต้นหญ้าเติบโตบนเนินเขา

        ประทานพืชพันธุ์ให้มนุษย์นำมาใช้d

9ประทานอาหารแก่เหล่าสัตว์

        แก่ลูกของนกกาที่เรียกหาพระองค์

10พระองค์ไม่ทรงชื่นชมในพลังของม้า

        ไม่พอพระทัยในความคล่องแคล่วของมนุษย์

11แต่พระยาห์เวห์พอพระทัยเขาทั้งหลายที่ยำเกรงพระองค์

        เขาทั้งหลายที่หวังในความรักมั่นคงของพระองค์

(Vg 147)

12เยรูซาเล็มเอ๋ย จงถวายพระเกียรติแด่พระยาห์เวห์เถิด

        ศิโยนเอ๋ย จงสรรเสริญพระเจ้าของเจ้าเถิดe

13เพราะพระองค์ทรงเสริมกำลังแก่ดาลประตูเมืองของเจ้า

        ทรงอวยพระพรบรรดาบุตรที่อยู่ภายในเจ้า

14ทรงบันดาลให้เขตแดนของเจ้าอยู่ในสันติ

        ประทานข้าวสาลีอย่างดีเยี่ยมเลี้ยงเจ้าจนอิ่ม

15พระองค์ทรงส่งพระบัญชาไปทั่วแผ่นดิน

        พระวาจาfวิ่งไปอย่างรวดเร็ว

16พระองค์ประทานหิมะประดุจขนแกะ

        และทรงโปรยน้ำค้างแข็งประดุจขี้เถ้า

17พระองค์ทรงโยนลูกเห็บลงมาประดุจก้อนกรวด

        ผู้ใดจะทนความหนาวเย็นจากพระองค์ได้g

18พระองค์ทรงส่งพระวาจาไป น้ำแข็งก็ละลาย

        ทรงบันดาลให้ลมพัด น้ำก็ไหล

19พระองค์ทรงประกาศพระวาจาแก่ยาโคบ

        ประทานข้อกำหนดและกฎเกณฑ์แก่อิสราเอล

20พระองค์มิได้ทรงกระทำดังนี้กับชนชาติอื่นใด

        ไม่ทรงสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่เขาเลย

อัลเลลูยาh

 

147 a เพลงสดุดีบทนี้มักจะแบ่งเป็นสองบท (ข้อ 1-11 และ 12-20) ในสำนวนแปลโบราณต่างๆ รวมทั้งภาษากรีก (LXX) และละติน (Vg) แต่โดยแท้จริงแล้วเป็นเพลงสดุดีบทเดียว ผู้ประพันธ์สรรเสริญพระเจ้าในฐานะที่ทรงเป็นผู้ช่วยอิสราเอลให้รอดพ้น ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเนรมิตสร้าง และทรงเป็นมิตรสหายของผู้ต่ำต้อย

b “อัลเลลูยา” สำนวนแปลโบราณส่วนใหญ่ละ “อัลเลลูยา” ที่ตรงนี้ และย้ายมาใส่ที่ต้นข้อ 12

c “เป็นการดีที่จะสรรเสริญพระองค์” ต้นฉบับภาษากรีกละประโยคนี้

d “ประทานพืชพันธุ์ให้มนุษย์นำมาใช้” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก (เทียบ สดด 104:14) ต้นฉบับภาษาฮีบรูละบรรทัดนี้

e บรรดาปิตาจารย์ประยุกต์ข้อความในภาคที่สองนี้ (ตั้งแต่ข้อ 12) กับ “นครเยรูซาเล็มใหม่” คือพระศาสนจักรทั้งในแผ่นดินนี้และในสวรรค์

f ผู้ประพันธ์กล่าวถึง “พระวาจา” ในที่นี้เหมือนกับว่าเป็นผู้ถือสารของพระเจ้า (เทียบ สดด 107:20; อสย 55:11; ยน 1:14 เชิงอรรถ m และ n)

g “ผู้ใดจะทนความหนาวเย็นจากพระองค์ได้” แปลตามต้นฉบับภาษาฮีบรู บางคนแปลว่า “น้ำก็แข็งไปต่อหน้าความหนาวของพระองค์”

h ต้นฉบับภาษากรีกละ “อัลเลลูยา” ที่นี่ เช่นเดียวกับตอนปลายของ สดด 148 และ 149