เพลงสดุดีที่ 136

บทอธิษฐานภาวนาขอบพระคุณa

          สดด บทนี้เป็นเพลงสรรเสริญที่ยิ่งใหญ่บทหนึ่งในหนังสือเพลงสดุดี ต้องการยกย่องความรักมั่นคงใหญ่หลวงที่พระเจ้าทรงมีต่อประชากรอิสราเอลตลอดมา ลีลาของเพลงสดุดีบทนี้อยู่ที่สร้อยตอบรับ โดยบรรทัดที่สองของแต่ละข้อเป็นสร้อยตอบรับย้ำถึงความรักมั่นคงของพระเจ้าซึ่งดำรงอยู่ตลอดนิรันดร ความรักมั่นคงนี้แสดงให้ปรากฏในการเนรมิตสร้างโลก และในขั้นตอนต่างๆ ของประวัติศาสตร์ ซึ่งในที่สุดจะนำชนชาวอิสราเอลเข้ามาตั้งหลักแหล่งในดินแดนแห่งพระสัญญาดังที่ทรงสัญญาไว้ เหตุผลประการสุดท้ายที่เราจะต้องสรรเสริญพระองค์คือการที่ทรงเอื้ออาทรดูแลทุกสิ่งที่ทรงสร้าง เพลงสดุดีบทนี้ยังมีที่ว่างให้คริสตชนเพิ่มเติมรายการพระพรต่างๆ ที่พระเจ้าประทานให้เขาในพระคริสตเจ้าเข้าไปอีกได้       

อัลเลลูยา

1จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์พระทัยดี

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

2จงขอบพระคุณพระเจ้าเหนือเทพเจ้าทั้งหลาย

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

3จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าเหนือเจ้านายทั้งหลาย

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

4พระองค์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นทรงกระทำปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

5ทรงสร้างท้องฟ้าด้วยพระปรีชาญาณ

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

6ทรงคลี่แผ่นดินไว้เหนือน้ำ

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

7ทรงเนรมิตดวงส่องสว่างดวงใหญ่

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

8ทรงเนรมิตดวงอาทิตย์ให้ปกครองกลางวัน

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

9ทรงเนรมิตดวงจันทร์และดวงดาวให้ปกครองกลางคืน

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

10พระองค์ทรงสังหารบุตรคนแรกของอียิปต์

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

11ทรงนำอิสราเอลออกจากหมู่ชาวอียิปต์

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

12ด้วยพระหัตถ์ทรงฤทธิ์และพระพาหาที่เหยียดออก

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

13พระองค์ทรงแยกทะเลต้นกกเป็นสองส่วน

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

14ทรงนำอิสราเอลเดินผ่านกลางทะเล

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

15ทรงให้น้ำท่วมกษัตริย์ฟาโรห์พร้อมกับกำลังพลให้จมทะเล

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

16ทรงนำประชากรของพระองค์เดินผ่านถิ่นทุรกันดาร

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

17ทรงสังหารกษัตริย์ยิ่งใหญ่หลายพระองค์

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

18ทรงฆ่ากษัตริย์เรืองนามหลายพระองค์

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

19สิโหน กษัตริย์ของชาวอาโมไรต์

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

20โอก กษัตริย์ของแคว้นบาชาน

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

21พระองค์ประทานแผ่นดินของเขาให้เป็นมรดก

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

22เป็นมรดกแก่อิสราเอลผู้รับใช้พระองค์

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

23เมื่อเราถูกกดขี่ พระองค์ก็ทรงระลึกถึงเรา

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

24ทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากศัตรู

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

25พระองค์ประทานอาหารแก่สิ่งมีชีวิตทั้งมวล

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

26จงขอบพระคุณพระเจ้าแห่งสรวงสวรรค์

        ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

136 a เพลงสดุดีบทนี้มีสร้อยตอบรับทุกข้อ (เทียบ ดนล 3:52-90) ชาวอิสราเอลเรียก สดด บทนี้ว่า “บทฮัลเลลใหญ่” (แปลตามตัวอักษรว่า “บทสรรเสริญยิ่งใหญ่”) และใช้ขับร้องในการเลี้ยงปัสกาหลังจากขับร้องเพลงสดุดีชุด สดด 113-118 ที่เรียกว่า “บทฮัลเลลน้อย” (หรือ “บทสรรเสริญน้อย”)