“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

เพลงสดุดีที่ 89

คำอธิษฐานภาวนาขอให้พระเจ้าทรงระลึกถึงพระสัญญาa

        สดด บทนี้เป็นบทภาวนาเกี่ยวกับกษัตริย์ในรูป “คำอ้อนวอนของประชากร” เมื่อกษัตริย์ในราชวงศ์ดาวิดต้องประสบความพ่ายแพ้ เนื้อเพลงเท้าความถึงพระสัญญาที่พระเจ้าทรงกระทำไว้กับกษัตริย์ดาวิด (2 ซมอ 7) และแสดงความข้องใจที่ทำไมพระเจ้าจึงดูเหมือนว่าทรงผิดสัญญาเมื่อกษัตริย์ต้องประสบความพ่ายแพ้อย่างน่าอัปยศ แต่ประชาชนก็ยังไม่หมดหวัง ยังคงอธิษฐานภาวนาต่อไป วอนขอพระเจ้าให้พระสัญญาที่ทรงให้ไว้กับกษัตริย์ดาวิดสำเร็จเป็นจริง สำหรับเราคริสตชน พระสัญญานี้สำเร็จเป็นจริงโดยสมบูรณ์แล้วในพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็น “พระโอรสของกษัตริย์ดาวิด” เพลงสดุดีบทนี้เป็นคำภาวนาที่เหมาะสำหรับพระศาสนจักร โดยเฉพาะพระศาสนจักรในส่วนต่างๆของโลกที่มีคริสตชนกำลังถูกเบียดเบียน คริสตชนอาจใช้ สดด บทนี้เป็นคำภาวนาโดยมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม เพราะพระคริสตเจ้าทรงสัญญาไว้แล้วกับเปโตรว่าจะไม่มีอำนาจใดมาชนะพระศาสนจักรของพระองค์ได้ (มธ 16:18)

บทกวีสอนใจ ของเอธาน คนพื้นเมือง

1ข้าพเจ้าจะขับร้องสรรเสริญความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ตลอดไป

        ปากข้าพเจ้าจะประกาศความซื่อสัตย์ของพระองค์ทุกยุคทุกสมัย

2ข้าพเจ้ากล่าวว่าb “ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์

        พระองค์ทรงสถาปนาความซื่อสัตย์ของพระองค์ไว้อย่างมั่นคงในสวรรค์”

3พระเจ้าตรัสว่า “เราทำพันธสัญญากับผู้ที่เราเลือกสรรไว้

        สาบานกับดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า

4‘เราจะให้เชื้อสายของท่านมั่นคงอยู่เป็นนิตย์

        จะสร้างบัลลังก์ของท่านให้มั่นคงอยู่ทุกยุคทุกสมัย’”

                                                   (พักครู่หนึ่ง)

5ข้าแต่พระยาห์เวห์ สวรรค์สรรเสริญปาฏิหาริย์ของพระองค์

        ที่ชุมนุมผู้ศักดิ์สิทธิ์สรรเสริญความซื่อสัตย์ของพระองค์

6ผู้ใดในฟากฟ้าจะเปรียบได้กับพระยาห์เวห์

        ผู้ใดในบรรดาทูตสวรรค์cเป็นเหมือนพระยาห์เวห์

7พระเจ้าทรงน่าสะพรึงกลัวในที่ประชุมของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์

        ทรงยิ่งใหญ่dและน่าเกรงขามในหมู่ผู้ห้อมล้อมพระองค์

8ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าจอมจักรวาล ผู้ใดจะเสมอเหมือนพระองค์

        ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงอานุภาพ ความซื่อสัตย์ห้อมล้อมพระองค์

9พระองค์ทรงควบคุมความผยองของมหาสมุทร

        ทรงปราบคลื่นใหญ่ที่ปั่นป่วนให้สงบลง

10พระองค์ทรงเหยียบราหับeไว้ เหมือนเป็นศพ

        ทรงขับไล่ศัตรูให้กระจายไปด้วยพระกรทรงฤทธิ์ของพระองค์

11สวรรค์เป็นของพระองค์ และแผ่นดินก็เป็นของพระองค์

        พระองค์ทรงสร้างโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในโลกให้มั่นคง

12พระองค์ทรงสร้างทิศเหนือและทิศใต้

        ภูเขาทาโบร์และเฮอร์โมนก็โห่ร้องสรรเสริญพระนามพระองค์

13พระพาหาของพระองค์เข้มแข็ง

        พระหัตถ์ของพระองค์ก็ทรงฤทธิ์ พระหัตถ์ขวาของพระองค์ชูขึ้นสูง

14ความเที่ยงธรรมและพระวินิจฉัยเป็นฐานแห่งพระบัลลังก์

        ความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์เดินนำหน้าพระองค์

15ประชากรที่รู้จักเฉลิมฉลองพระองค์ย่อมเป็นสุข

        ข้าแต่พระยาห์เวห์ เขาดำเนินชีวิตในแสงสว่างแห่งพระพักตร์พระองค์

16เขายินดีในพระนามตลอดวัน

        เขาภูมิใจในความเที่ยงธรรมของพระองค์

17พระองค์ทรงเป็นเกียรติยศและทรงเป็นพละกำลังของเขา

        พระองค์โปรดปราน เขาจึงมีชัยชนะ

18ใช่แล้ว พระยาห์เวห์ทรงเป็นโล่กำบังของเรา

        องค์พระผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลทรงเป็นกษัตริย์ของเรา

19ครั้งหนึ่งพระองค์ตรัสในนิมิตแก่ผู้จงรักภักดีต่อพระองค์fว่า

        “เราให้ความช่วยเหลือแก่นักรบผู้หนึ่ง

เราเชิดชูหนุ่มคนหนึ่งขึ้นจากประชากร

20เราพบดาวิดผู้รับใช้ของเรา

        และเจิมเขาด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ของเรา

21ใช่แล้ว มือของเราจะอยู่กับเขาเสมอไป

        และแขนของเราจะเป็นพลังของเขา

22จะไม่มีศัตรูใดมีชัยชนะเหนือเขา

        คนอธรรมจะไม่ข่มเหงเขา

23เราจะบดขยี้ศัตรูต่อหน้าเขา

        และจะฟาดฟันผู้ที่เกลียดชังเขา

24ความซื่อสัตย์และความรักมั่นคงของเราจะอยู่กับเขา

        อาศัยนามของเรา พลังของเขาจะประสบแต่ชัยชนะ

25เราจะขยายอำนาจของเขาไปจรดทะเล

        และให้แม่น้ำเป็นเขตปกครองของเขา”

26“เขาจะเรียกเราว่า ‘พระองค์คือพระบิดาของข้าพเจ้า

        ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าและทรงเป็นศิลาที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น’

27เราจะแต่งตั้งเขาให้เป็นบุตรคนแรกของเรา

        เป็นกษัตริย์สูงสุดบนแผ่นดิน

28เราจะรักษาความรักมั่นคงของเราไว้สำหรับเขาเสมอ

        พันธสัญญาของเรากับเขาจะตั้งมั่นตลอดไป

29เราจะสถาปนาเชื้อสายของเขาไว้ตลอดกาล

        บัลลังก์ของเขาจะคงอยู่ตราบเท่าสวรรค์

30ถ้าบุตรของเขาละทิ้งธรรมบัญญัติ

        และไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของเรา

31หากเขาละเมิดกฎข้อกำหนด

        และไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา

32เราจะใช้ไม้เรียวลงโทษการล่วงละเมิด

        จะใช้แส้ลงทัณฑ์ความผิดของเขา

33แต่เราจะไม่ถอนgความรักมั่นคงของเราจากเขา

        และจะไม่ทำลายความซื่อสัตย์ของเราเลย”

34“เราจะไม่ละเมิดพันธสัญญา

        เราจะไม่เปลี่ยนคำพูดที่ออกจากปากของเรา

35เราสาบานไว้ครั้งหนึ่งซึ่งจะมีผลตลอดไป โดยอ้างความศักดิ์สิทธิ์ของเรา

        เราจะไม่กล่าวเท็จต่อดาวิดอย่างแน่นอน

36เชื้อสายของเขาจะดำรงอยู่ตลอดไป

        บัลลังก์ของเขาจะคงอยู่ต่อหน้าเราเหมือนดวงอาทิตย์

37เหมือนดวงจันทร์ที่คงอยู่ตลอดกาล

        เป็นพยานที่ซื่อสัตย์บนฟากฟ้า”

                                                               (พักครู่หนึ่ง)

38แต่พระองค์กลับทรงผลักไสไม่ยอมรับ

        และยังกริ้วผู้รับเจิมของพระองค์ด้วยh

39พระองค์ทรงยกเลิกพันธสัญญาที่ทรงกระทำไว้กับผู้รับใช้พระองค์

        ทรงทิ้งมงกุฎของเขาให้แปดเปื้อนที่พื้นดิน

40พระองค์ทรงทำลายกำแพงทั้งหมดของเขา

        และทรงทำให้ป้อมปราการของเขาพังทลาย

41ทุกคนที่เดินผ่านทางนั้นก็เข้ามาปล้น

        เขาเป็นเป้าให้เพื่อนบ้านเยาะเย้ย

42พระองค์ทรงชูมือขวาคู่อริของเขาขึ้น

        ทรงให้ศัตรูทุกคนของเขายินดี

43พระองค์ทรงบันดาลให้ดาบของเขาทื่อi

        ไม่ทรงพยุงเขาในการรบ

44พระองค์ทรงถอดความรุ่งเรืองjไปจากเขา

        ทรงคว่ำบัลลังก์ของเขาที่พื้นดิน

45พระองค์ทรงทำให้เขาตายในวัยเยาว์

        และให้เขารับความอับอายอย่างใหญ่หลวง

                                                   (พักครู่หนึ่ง)

46ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์จะทรงซ่อนพระองค์อยู่อีกนานเพียงใด

        พระพิโรธจะยังคงร้อนระอุเหมือนไฟตลอดไปกระนั้นหรือ

47โปรดทรงระลึกว่าชีวิตของข้าพเจ้านั้นสั้นนัก

        เหตุใดพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ทุกคนให้เปราะบางเช่นนั้น

48มนุษย์คนใดจะมีชีวิตอยู่ และไม่พบความตาย

        ผู้ใดจะช่วยตนให้พ้นจากอำนาจของแดนมรณะได้

                                                               (พักครู่หนึ่ง)

49ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความรักมั่นคงในอดีตของพระองค์อยู่ที่ใด

        ความซื่อสัตย์ที่ทรงสาบานต่อดาวิดอยู่ที่ไหน

50ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงระลึกถึงการสบประมาทที่ผู้รับใช้พระองค์ได้รับ

        ข้าพเจ้าเก็บการใส่ร้ายของประชาชาติทั้งหลายไว้ในใจ

51ข้าแต่พระยาห์เวห์ ศัตรูของพระองค์เยาะเย้ยผู้รับเจิมของพระองค์

        เขาคอยตามไปเยาะเย้ย ไม่ว่าผู้รับเจิมจะไปทางไหน

52ขอถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ตลอดไป

        อาเมน อาเมนk

 

89 a ข้อ 1-2 เป็นอารัมภบท ข้อ 3-4 เป็นการกล่าวพาดพิงถึงพันธสัญญาของพระเจ้ากับดาวิด ข้อ 5-18 เป็นคำสรรเสริญพระผู้สร้างจักรวาล ข้อ 19-37 เป็นพระดำรัสเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ ข้อ 38-45 กล่าวถึงการที่ชาติอิสราเอลถูกศัตรูเบียดเบียนข่มเหง ข้อ 46-51 เป็นคำภาวนาปิดท้าย * คำว่า “ความรักมั่นคง” และ “ความซื่อสัตย์” เป็นความคิดหลักของเพลงสดุดีบทนี้

b “ข้าพเจ้ากล่าวว่า” ต้นฉบับภาษากรีกว่า “พระองค์ตรัส”

c “ทูตสวรรค์” แปลตามตัวอักษรว่า “บรรดาบุตรของเทพเจ้า” หมายถึง “ทูตสวรรค์” หรือ “บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์” ในข้อ 5 และ 7

d “ยิ่งใหญ่” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก

e “ราหับ” เป็นสัตว์ทะเลในตำนานเทพ หมายถึงความสับสนก่อนที่พระเจ้าจะทรงเนรมิตสร้างโลกพิภพ (ดู โยบ 7:12 เชิงอรรถ f) แต่บางครั้ง เช่นที่นี่ หมายถึงอียิปต์ (เทียบ สดด 87:4)

f “ผู้จงรักภักดีต่อพระองค์” หมายถึงประกาศกซามูเอล และประกาศกนาธัน

g “ถอน” แปลตามต้นฉบับสำนวนแปลโบราณ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ทำลาย”

h “ผู้รับเจิม” ใน สดด บทนี้หมายถึงราชวงศ์ดาวิดทั้งหมด

i “บันดาลให้ดาบของเขาทื่อ” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับไม่ชัดเจน

j “ความรุ่งเรือง” บางคนอ่านว่า “คทาอันรุ่งเรือง”

k ข้อนี้เป็นสูตรถวายพระพรที่ถูกนำมาแทรกไว้เพื่อแสดงว่า บรรพที่สามของหนังสือเพลงสดุดีจบที่นี่

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก