“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

เพลงสดุดีที่ 73

ความรุ่งเรืองของคนอธรรมไม่จีรังยั่งยืนa

สดด ประเภทปรีชาญาณบทนี้เริ่มต้นด้วยข้อความที่แสดงความมั่นใจของผู้ที่เรียนรู้มาจากประสบการณ์ว่า พระเจ้าทรงความดีและทรงยุติธรรม ผู้ประพันธ์เกือบจะเสียความเชื่อเมื่อเห็นว่าคนอธรรมซึ่งกล่าวดูหมิ่นพระเจ้า กลับมีความสุขและเจริญรุ่งเรือง ตรงข้ามกับชีวิตของคนที่ปฏิบัติคุณธรรมกลับไม่ช่วยให้เขาพ้นจากปัญหาในชีวิต เขารู้สึกว่าพระเจ้าไม่ทรงยุติธรรมเลย ความคิดเช่นนี้ทรมานใจเขาเสมอมา จนกระทั่งวันหนึ่งพระเจ้าทรงบันดาลให้เขาเห็นแจ้งว่า ความรุ่งเรืองของคนอธรรมนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา และผู้ชอบธรรมเท่านั้นมีความมั่นใจได้อย่างแท้จริงในพระเจ้า แม้คริสตชนรู้ความจริงประการนี้จากคำสอนของพระคริสตเจ้าแล้ว ก็ยังมีความข้องใจ อิจฉาคนอธรรมอยู่ตลอดเวลา การใช้ สดด บทนี้ภาวนาอาจช่วยให้คริสตชนได้รับความสว่างเช่นเดียวกับผู้ประพันธ์เพลงสดุดีก็ได้

เพลงสดุดี ของอาสาฟ

 

1พระเจ้าช่างมีพระทัยดีแท้ต่ออิสราเอลb

        ต่อผู้มีใจบริสุทธิ์

2เท้าของข้าพเจ้าเกือบจะสะดุดล้มอยู่แล้ว

        อีกนิดเดียวก็จะลื่นล้มลง

3เพราะข้าพเจ้านึกอิจฉาคนหยิ่งยโส

        เมื่อเห็นความเจริญรุ่งเรืองของคนชั่ว

4เขาเหล่านั้นไม่ต้องกังวลถึงความตายc

        ร่างกายของเขาสมบูรณ์แข็งแรง

5เขาไม่มีความกังวลตามธรรมชาติมนุษย์

        ไม่ต้องมีความทุกข์ยากเหมือนมนุษย์อื่นๆ

6ความหยิ่งยโสจึงเป็นดั่งสร้อยประดับคอของเขา

        ความรุนแรงเป็นดังเสื้อผ้าอาภรณ์

7ความชั่วร้ายdออกมาจากไขมันของเขา

        ความคิดชั่วร้ายล้นออกมาจากใจ

8เขาหัวเราะเยาะและกล่าวร้าย

        หยิ่งยโสข่มขู่ผู้อื่น

9เขาอ้าปากกลืนท้องฟ้า

        ลิ้นของเขาตวัดกวาดทั่วแผ่นดิน

10เขาจึงนั่งในที่สูง

        แม้น้ำจะมาก ก็ท่วมไม่ถึงเขาe

11เขาถามว่า “พระเจ้าทรงทราบได้อย่างไร

        พระผู้สูงสุดทรงความรู้หรือ”

12คนชั่วก็เป็นเช่นนี้

        เขามีความสุขเสมอ มุ่งแต่สะสมทรัพย์สมบัติให้มากขึ้น

13เป็นการเปล่าประโยชน์หรือที่ข้าพเจ้ารักษาใจให้สะอาดหมดจด

        และชำระล้างมือข้าพเจ้าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์

14เพราะข้าพเจ้าถูกเฆี่ยนตีทุกวัน

        และถูกลงทัณฑ์ทุกยามเช้า

15ถ้าข้าพเจ้าจะพูดว่า “ข้าพเจ้าจะพูดเหมือนเขาเหล่านั้น”

        ข้าพเจ้าคงจะทรยศต่อพงศ์พันธุ์ที่เป็นบุตรของพระองค์

16เมื่อข้าพเจ้าพยายามเข้าใจเรื่องนี้

        ก็เห็นว่าเป็นเรื่องยาก

17จนกระทั่งข้าพเจ้าเข้าไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์fของพระเจ้า

        และเข้าใจถึงชะตากรรมของเขาเหล่านั้น

18ใช่แล้ว พระองค์ทรงวางเขาไว้บนที่ลื่น

        ทรงทำให้เขาล้มลงจนพินาศ

19ทำไมเขาจึงถูกทำลายอย่างฉับพลันเช่นนั้น

        เขาถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นเพราะความหวาดกลัว

20ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อทรงลุกขึ้นg

        ก็ทรงทำให้ภาพของเขาสูญหายไป

เหมือนความฝันยามตื่นขึ้นมา

21เมื่อใจข้าพเจ้าเป็นทุกข์

        และรู้สึกขมขื่น

22ข้าพเจ้าเบาปัญญา ไม่เข้าใจ

        อยู่เฉพาะพระพักตร์เหมือนสัตว์hโง่เขลา

23แต่ข้าพเจ้าอยู่กับพระองค์เสมอ

        พระองค์ทรงจับมือขวาของข้าพเจ้าไว้

24ประทานคำปรึกษาแนะนำข้าพเจ้า

        แล้วจะทรงรับข้าพเจ้าไว้ในพระสิริรุ่งโรจน์i

25ยังมีใครอีกสำหรับข้าพเจ้าในสวรรค์

        เมื่ออยู่กับพระองค์ ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาสิ่งใดบนแผ่นดิน

26แม้ร่างกายและจิตใจข้าพเจ้าอ่อนกำลังj

        พระเจ้าก็ทรงเป็นหลักศิลาแห่งดวงใจ

ทรงเป็นทรัพย์สมบัติของข้าพเจ้าตลอดไป

27ส่วนผู้ที่อยู่ห่างจากพระองค์จะต้องพินาศ

        พระองค์ทรงทำลายผู้ที่ทรยศkต่อพระองค์

28ความดีของข้าพเจ้าคือการอยู่ใกล้พระเจ้า

        ข้าพเจ้าตั้งที่หลบภัยไว้ในพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า

เพื่อจะได้บอกเล่าถึงพระราชกิจทั้งหมดของพระองค์l

 

73 a ผู้นิพนธ์เป็นทั้งนักประพันธ์และนักปราชญ์ รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นคนเลวรุ่งเรือง แต่คนดีกลับตกยาก (เทียบ โยบ 21:1ฯ; ปญจ 7:15; ยรม 12:1; มลค 3:15) แต่ต่อมาก็เทียบให้เห็นว่า ความสนุกสนานของคนบาปนั้นอยู่ชั่วแล่น แต่ผู้ที่เป็นมิตรกับพระเจ้ามีสันติสุขได้นาน

b สำนวนแปลบางฉบับเสริมว่า “พระยาห์เวห์(มีพระทัยดีต่อ)”

c “ไม่ต้องกังวลถึงความตาย” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับไม่ชัดเจน

d “ความชั่วร้าย” แปลตามสำนวนแปลโบราณหลายฉบับ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ดวงตา”

e ข้อ 10 นี้ต้นฉบับไม่สมบูรณ์ แปลตามสำนวนแปลภาษาละติน (Vulgata)

f “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์” ในภาษาฮีบรูเป็นพหูพจน์ อาจหมายถึงสักการสถานที่ถวายแด่เทพเจ้าอื่นๆ ซึ่งถูกทำลายลงแล้วในขณะนั้น (สดด 82) หรืออาจหมายถึงพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม (ยรม 51:51)

g “เมื่อทรงลุกขึ้น” ดู สดด 35:23; 44:23; 59:5; 78:65; อสย 51:9 * “ภาพ” ดู สดด 49:14; 90:5; โยบ 20:8; อสย 29:7-8

h “สัตว์” เทียบ โยบ 18:3; 40:15 เชิงอรรถ f

i “พระสิริรุ่งโรจน์” พระเจ้าทรงพิทักษ์ผู้ชอบธรรมมิให้ตายเร็ว หรือมิให้ตายอย่างอัปยศ แม้ผู้ชอบธรรมจะต้องตายก่อนคนอธรรม พระเจ้าจะทรงบันดาลให้ผู้ชอบธรรมได้รับความรุ่งโรจน์ ผู้ประพันธ์ปรารถนาจะมีความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าตลอดไป เช่นเดียวกับใน สดด 16:9ฯ ข้อความนี้แสดงความเชื่อในการกลับคืนชีพและชีวิตนิรันดรอย่างชัดเจน เป็นหลักฐานโบราณที่สุดในเรื่องนี้ (ดู สดด 16:10 เชิงอรรถ g)

j “อ่อนกำลัง” เพราะความปรารถนา (เทียบ สดด 84:2; โยบ 19:27) ไม่ใช่เพราะความอ่อนแอ (เทียบ สดด 143:7)

k “ผู้ที่ทรยศ” แปลตามตัวอักษรว่า “เป็นชู้” เป็นสูตรที่พบบ่อยๆ ในหนังสือบรรดาประกาศก หมายถึงความไม่ซื่อสัตย์ของอิสราเอลต่อพระยาห์เวห์ เหมือนภรรยาที่นอกใจสามี (ดู ฮชย 1:2 เชิงอรรถ b)

l ต้นฉบับภาษากรีกเสริมว่า “ที่ประตูเมืองของธิดาแห่งศิโยน” (หมายถึงกรุงเยรูซาเล็ม) (เทียบ สดด 9:14)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก