เพลงสดุดีที่ 71
คำอธิษฐานภาวนาในวัยชรา
สดด บทนี้เป็นคำภาวนาของผู้อาวุโสซึ่งมองดูชีวิตที่ผ่านมาของตนว่า ได้รับความรักเมตตาจากพระเจ้าอย่างมากมาย แม้ว่าเพลงสดุดีบทนี้จัดอยู่ในประเภทคำอ้อนวอน แต่ก็มีข้อความหลายตอนที่แสดงความหวัง การขอบพระคุณและสรรเสริญอย่างชัดเจน ผู้ประพันธ์มีความวางใจต่อพระเจ้าตลอดมาตั้งแต่วัยเยาว์และไม่เคยผิดหวัง แต่เขาก็ต้องมีความทุกข์ยากเหมือนกับมนุษย์โดยทั่วไป ความทุกข์เหล่านี้ทำให้บรรดาศัตรูคิดว่าพระเจ้าทรงทอดทิ้งเขาแล้ว เขารู้ดีว่าความจริงเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น คำอ้อนวอนขอให้พระเจ้าทรงช่วยจึงมีคำสรรเสริญรวมอยู่ด้วย เราคริสตชนไม่ว่าจะอยู่ในวัยเยาว์หรือวัยชรา จึงควรคิดทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมาเพื่อจะได้เห็นว่าพระเจ้าทรงดีต่อเราอย่างไร ความรู้เช่นนี้จะเป็นบ่อเกิดพลังให้เรา เมื่อต้องประสบกับความทุกข์ยากในชีวิต
1ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าลี้ภัยมาพึ่งพระองค์
ข้าพเจ้าไม่มีวันจะต้องได้รับความอับอายเลย
2พระองค์ทรงเที่ยงธรรม โปรดทรงช่วยชีวิตข้าพเจ้า
โปรดทรงปลดปล่อยข้าพเจ้า
โปรดทรงเงี่ยพระกรรณฟังข้าพเจ้า
และทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นด้วยเถิด
3ขอพระองค์ทรงเป็นหลักศิลาที่กำบังaสำหรับข้าพเจ้า
ขอทรงเป็นที่มั่นที่ข้าพเจ้าจะเข้าถึงได้เสมอ
พระองค์ทรงสัญญาจะช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
เพราะพระองค์ทรงเป็นหลักศิลาและทรงเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า
4ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากมือของคนชั่ว
พ้นจากเงื้อมมือของคนอธรรมและคนใจอำมหิตด้วยเถิด
5ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นความหวังของข้าพเจ้า
พระองค์คือผู้ที่ข้าพเจ้าวางใจมาแต่วัยเยาว์
6ข้าพเจ้าพึ่งพิงพระองค์มาตั้งแต่กำเนิด
ตั้งแต่ข้าพเจ้าอยู่ในครรภ์มารดา พระองค์ก็ทรงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้าแล้วb
ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ตลอดมา
7คนจำนวนมากพิศวงในตัวข้าพเจ้าc
พระองค์คือแหล่งลี้ภัยที่มั่นคงของข้าพเจ้า
8ปากข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมด้วยถ้อยคำสรรเสริญพระองค์
กล่าวถ้อยคำถวายพระเกียรติตลอดวัน
9ขอพระองค์อย่าทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าในวัยชรา
อย่าทรงละทิ้งข้าพเจ้าไปเมื่อข้าพเจ้าอ่อนกำลัง
10เพราะศัตรูของข้าพเจ้ากำลังพูดใส่ร้ายข้าพเจ้า
ผู้ที่มุ่งเอาชีวิตข้าพเจ้ากำลังร่วมกันวางแผนอยู่
11พูดว่า “พระเจ้าทรงทอดทิ้งเขาแล้ว จงไล่ตามเขาเถิด
จงจับกุมเขาไว้ ไม่มีใครจะมาช่วยเขาได้”
12ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์อย่าทรงอยู่ห่างจากข้าพเจ้า
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดเสด็จมาช่วยข้าพเจ้าโดยเร็วเถิด
13ขอให้ผู้ที่ใส่ร้ายข้าพเจ้าต้องได้รับความอับอายและความพินาศ
ขอให้ผู้ที่ต้องการทำร้ายข้าพเจ้าได้รับแต่ความอัปยศและถูกสาปแช่ง
14ส่วนข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าจะมีความหวังตลอดไป
จะสรรเสริญพระองค์มากยิ่งขึ้น
15ปากข้าพเจ้าจะประกาศความเที่ยงธรรมของพระองค์
จะประกาศตลอดวันถึงพระราชกิจมากมายเหลือคณานับdที่ทรงช่วยให้รอดพ้น
16ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะเล่าถึงeพระราชกิจยิ่งใหญ่ของพระองค์
จะระลึกว่าพระองค์เพียงพระองค์เดียวทรงเที่ยงธรรม
17ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงสั่งสอนข้าพเจ้ามาตั้งแต่วัยเยาว์
และข้าพเจ้ายังคงประกาศกิจการมหัศจรรย์น่าพิศวงของพระองค์จนถึงบัดนี้
18บัดนี้ เมื่อข้าพเจ้าชราลงและผมก็เป็นสีดอกเลา
ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์อย่าทรงละทิ้งข้าพเจ้าf
จนกว่าจะได้ประกาศถึงพระอานุภาพgแก่ชนรุ่นหลัง
19ข้าแต่พระเจ้า พระอานุภาพและความเที่ยงธรรมของพระองค์สูงถึงท้องฟ้า
พระองค์ทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่
ข้าแต่พระเจ้า ใครเล่าจะเหมือนพระองค์
20พระองค์ทรงบันดาลให้ข้าพเจ้าประสบความทุกข์ร้อนและเคราะห์ร้ายมากมาย
แต่พระองค์จะประทานชีวิตให้ข้าพเจ้าอีก
พระองค์จะทรงนำข้าพเจ้าขึ้นมาจากส่วนลึกของแผ่นดิน
21พระองค์จะทรงเสริมความยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้า
และจะประทานกำลังใจแก่ข้าพเจ้าอีกครั้งหนึ่ง
22แล้วข้าพเจ้าจะบรรเลงพิณสรรเสริญพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงความซื่อสัตย์
องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าจะบรรเลงพิณเขาคู่สดุดีพระองค์
23ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะโห่ร้องด้วยความยินดี
เมื่อข้าพเจ้าถวายสดุดีแด่พระองค์
จิตวิญญาณของข้าพเจ้าที่ทรงไถ่กู้นั้นก็จะสรรเสริญพระองค์ด้วย
24ลิ้นของข้าพเจ้าจะประกาศความเที่ยงธรรมของพระองค์ทุกวัน
ใช่แล้ว ผู้ที่ต้องการทำร้ายข้าพเจ้าจะต้องรับความอับอายและความอัปยศ
71 a “ที่กำบัง” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ที่พำนัก” (เทียบ สดด 31:2)
b “ที่พึ่งของข้าพเจ้า” แปลโดยคาดคะเน แปลตามตัวอักษรว่า “ผู้ที่แยกข้าพเจ้า”
c “พิศวง” คนทั่วไปมักจะประหลาดใจที่เห็นคนดีมีธรรมต้องทนทุกข์ (เทียบ โยบ)
d “มากมายเหลือคณานับ” แปลโดยคาดคะเน แปลตามตัวอักษรว่า “ข้าพเจ้าไม่รู้ตัวอักษร” ซึ่งอาจเป็นข้อความเพิ่มเติมของผู้คัดลอก
e “เล่าถึง” แปลตามตัวอักษรว่า “มาถึง”
f คนชราในเพลงสดุดีบทนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของประชากรอิสราเอลที่รวมทั้ง “คนหนุ่ม” และ “คนชรา” ตามสำนวนของบรรดาประกาศก
g “พระอานุภาพ” แปลตามตัวอักษรว่า “พระพาหา” (แขน) เป็นวิธีพูดของบรรดาประกาศก เช่น อสย 51:9; 53:1 เมื่อต้องการกล่าวถึงอัศจรรย์ในสมัยการอพยพ