เพลงสดุดีที่ 50

การถวายบูชาต้องมาจากใจa

สดด บทนี้บรรยายการพิจารณาคดีในศาลระหว่างพระเจ้ากับประชากรอิสราเอล ข้อหาต่อประชากรก็คือเขาเพียงแต่ท่องบทบัญญัติของพระเจ้า และแสดงความเชื่อต่อพระเจ้าแห่งพันธสัญญาเพียงด้วยคำพูดเท่านั้น ไม่ได้ดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับบทบัญญัติและพันธสัญญาเลย ในพระวรสาร พระเยซูเจ้าทรงตำหนิบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีที่ทำดีแต่ภายนอก เช่นเดียวกัน พระเจ้าจะทรงรับการถวายบูชาและคำอธิษฐานภาวนาของเรา ก็ต่อเมื่อการปฏิบัติศาสนกิจของเรา ไม่แยกจากความประพฤติที่ถูกต้องตามหลักศีลธรรม

เพลงสดุดีของอาสาฟ

1พระยาห์เวห์พระเจ้าเหนือเทพเจ้าใดๆ กำลังตรัส

        ทรงเรียกแผ่นดินจากตะวันออกถึงตะวันตก

2จากศิโยนที่งามพร้อม

        พระเจ้าทรงทอรัศมี

3พระเจ้าของเราเสด็จมา และจะไม่ทรงนิ่งเงียบ

ไฟเผาผลาญนำเสด็จ

พายุใหญ่ปั่นป่วนอยู่รอบพระองค์

4จากเบื้องบน ทรงเรียกท้องฟ้าและแผ่นดิน

        มาพิพากษาประชากรของพระองค์

5“จงรวบรวมผู้ภักดีมาพบเรา

        คือผู้ที่ถวายบูชาทำพันธสัญญากับเรา

6ท้องฟ้าจะป่าวประกาศความเที่ยงธรรมของพระองค์

        เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษา

                                                                                   (พักครู่หนึ่ง)

7ประชากรของเราเอ๋ย จงฟังเถิด เราต้องการพูด

        อิสราเอลเอ๋ย เราจะเป็นพยานกล่าวโทษท่าน

เราเป็นพระเจ้า พระเจ้าของท่าน

8เราไม่ตำหนิท่านเรื่องเครื่องบูชาของท่าน

        เครื่องเผาบูชาอยู่เบื้องหน้าเราเสมอ

9เราไม่ต้องการลูกโคเพศผู้จากบ้านของท่าน

        หรือแพะจากคอกของท่าน

10เพราะสัตว์ทั้งหลายในป่าล้วนเป็นของเรา

        เช่นเดียวกับสัตว์นับพันบนภูเขา

11เรารู้จักนกทุกตัวในอากาศb

        ทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวในทุ่งนาก็เป็นของเรา

12ถ้าเราหิว เราก็ไม่บอกท่าน

        เพราะโลกและทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นของเรา

13เราจะกินเนื้อโคเพศผู้

        และดื่มเลือดแพะกระนั้นหรือ

14จงถวายเครื่องบูชาสรรเสริญแด่พระเจ้า

        จงแก้บนตามที่ได้สัญญาไว้กับพระผู้สูงสุด

15จงเรียกเราในยามทุกข์ร้อน

        เราจะช่วยท่านให้รอดพ้น แล้วท่านจะถวายเกียรติแก่เรา”

16แต่กับคนอธรรม พระเจ้าตรัสว่าc

        “จะมีประโยชน์อะไรที่ท่านจะท่องข้อกำหนดของเรา

และใส่พันธสัญญาของเราไว้ในปาก

17ในเมื่อท่านเกลียดคำสั่งสอนของเรา

        และทิ้งถ้อยคำของเราไว้เบื้องหลัง

18เมื่อเห็นขโมย ท่านก็เข้าไปผูกมิตร

        ท่านเป็นเพื่อนชอบพอกับคนผิดประเวณี

19ปากของท่านกล่าวแต่คำเลวร้าย

        ลิ้นของท่านปั้นแต่เรื่องหลอกลวง

20ท่านคอยแต่ใส่ร้ายพี่น้องของท่าน

        ท่านใส่ความบุตรมารดาของท่าน

21ท่านทำเช่นนี้ และเราจะต้องนิ่งเงียบอยู่หรือ

        ท่านคิดว่าเราเป็นเหมือนท่านกระนั้นหรือ

เราจะกล่าวโทษท่าน จะเปิดเผยความผิดของท่านให้เห็น

22จงเข้าใจให้ดี ท่านทั้งหลายผู้ลืมพระเจ้า

        มิฉะนั้น เราจะหั่นท่านเป็นชิ้นๆ และไม่มีใครจะช่วยท่านได้

23ผู้ที่ถวายบูชาสรรเสริญแก่เรา ให้เกียรติเรา

        เราจะสำแดงความรอดพ้นของพระเจ้าแก่ผู้ที่ดำเนินตามทางเที่ยงตรงd

 

50 a พระเจ้าเสด็จมาพิพากษาอิสราเอล (ข้อ 1-7) ทรงกล่าวโทษผู้ถวายบูชาเป็นเพียงพิธีภายนอก (ข้อ 8-15) แต่ใจจริงนั้นลบหลู่บทบัญญัติ (ข้อ 16-23)

b “ในอากาศ” แปลตามสำนวนแปลโบราณ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ภูเขา”

c เพลงสดุดีบทนี้ในภาคแรก (ข้อ 1-15) พระเจ้าตรัสกับชาวอิสราเอลทั่วไป บรรทัดนี้คงได้แทรกเข้ามาในภายหลังเพื่อคั่นข้อความตั้งแต่ข้อ 16 ที่พระองค์ตรัสกับคนอธรรมเท่านั้น

d “เที่ยงตรง” แปลโดยคาดคะเน แปลตามตัวอักษรว่า “เขาได้วางทาง”