“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

เพลงสดุดีที่ 44

คำคร่ำครวญของประชากรอิสราเอลa

สดด บทนี้เป็นคำอ้อนวอนส่วนรวมที่ประชากรอิสราเอลทูลพระเจ้าให้ทรงระลึกถึงชัยชนะที่พระองค์เคยประทานให้เขาในอดีต (ข้อ 1-8) แต่บัดนี้พระองค์ทรงทอดทิ้งเขาให้ประสบความปราชัยอย่างน่าอดสู (ข้อ 9-16) เราไม่อาจคาดคะเนได้ว่าความปราชัยที่ สดด บทนี้กล่าวพาดพิงถึงเป็นเหตุการณ์อะไร เพราะในอดีต อิสราเอลเคยประสบความปราชัยหลายต่อหลายครั้ง สดด บทนี้จึงใช้ได้เสมอสำหรับความปราชัยทุกครั้ง ประชากรอาจไม่ได้ลืมพระเจ้าหรือไม่ได้ทำผิดต่อพระองค์ ถึงกระนั้นพระองค์ก็มิได้เสด็จมาช่วยเหลือ เขาไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมพระองค์จึงทรงกระทำเช่นนั้น พันธสัญญาเดิมยกปัญหาเรื่องทำไมคนดีจึงต้องทนทุกข์ขึ้นมาพิจารณาหลายครั้ง ปัญหานี้เป็นปัญหาคาใจมนุษย์อยู่เสมอมา เราคริสตชนรู้ว่าความทุกข์เกิดขึ้นแก่เราได้ ไม่ใช่ “ทั้งๆ ที่” เรายังซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า แต่ “เพราะ” เราซื่อสัตย์ต่อพระองค์ นักบุญเปาโลจึงใช้ถ้อยคำของข้อ 22 จาก สดด บทนี้ให้กำลังใจบรรดาคริสตชนที่กำลังถูกเบียดเบียนว่า “เพราะเห็นแก่พระองค์ ข้าพเจ้าทั้งหลายจึงถูกประหารชีวิตอยู่ตลอดวัน เขาทำกับข้าพเจ้าทั้งหลายเหมือนกับแกะที่เขานำไปฆ่า”

สำหรับหัวหน้านักขับร้อง บทกวีสอนใจของลูกหลานโคราห์

 

1ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ยินด้วยหูแล้ว

        บรรพบุรุษบอกเล่าแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย

ถึงกิจการที่พระองค์ทรงกระทำในสมัยของเขาในโบราณกาล

2พระองค์ทรงใช้พระหัตถ์ขับไล่ชนชาติอื่นๆ ออกไป

        เพื่อประทานแผ่นดินให้เขา*

พระองค์ทรงทำลายประชาชนอื่นๆ

        เพื่อขยายที่อยู่ให้เขา

3มิใช่ดาบของเขาที่ทำให้เขาเข้าครอบครองแผ่นดิน

        มิใช่ลำแขนของเขาที่ทำให้เขามีชัยชนะ

แต่เป็นพระหัตถ์ขวา พระพาหา และแสงสว่างแห่งพระพักตร์

        ที่นำชัยชนะมาให้เขา เพราะพระองค์ทรงรักเขา

4ข้าแต่พระเจ้า พระองค์คือพระราชาของข้าพเจ้า

        พระองค์ทรงบัญชาbให้ยาโคบได้ชัยชนะ

5เดชะพระบารมี ข้าพเจ้าทั้งหลายจึงขับไล่ศัตรูออกไป

        เดชะพระนามพระองค์ ข้าพเจ้าทั้งหลายจึงเหยียบย่ำผู้ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้

6เพราะข้าพเจ้าไม่วางใจในคันธนู

        คมดาบของข้าพเจ้าไม่นำชัยชนะมาให้

7แต่พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้นจากศัตรู

        ทรงบันดาลให้ผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้าทั้งหลายต้องได้รับความอับอาย

8ข้าพเจ้าทั้งหลายภูมิใจในพระเจ้าทุกวัน

        จะสรรเสริญพระนามของพระองค์ตลอดไป

(พักครู่หนึ่ง)

9แต่บัดนี้ พระองค์ทรงผลักไสข้าพเจ้าทั้งหลาย และทรงปล่อยให้ต้องอับอาย

        พระองค์ไม่เสด็จออกศึกร่วมกับกองทัพของข้าพเจ้าทั้งหลายอีก

10ทรงบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายต้องถอยร่นยามประจญกับศัตรู

        ให้ผู้ที่เกลียดชังปล้นข้าพเจ้าทั้งหลาย

11พระองค์ทรงมอบข้าพเจ้าทั้งหลายให้ศัตรู ดังแกะที่จะถูกนำไปฆ่า

        ทรงทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายกระจัดกระจายไปในหมู่ประชาชาติ

12ทรงขายประชากรของพระองค์ในราคาถูก

        ไม่ทรงได้กำไรจากการขายนั้นแต่อย่างใด

13พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นเป้าให้เพื่อนบ้านสบประมาท

        เป็นที่เยาะเย้ยและดูถูกของผู้คนรอบข้าง

14ทรงทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายตกเป็นที่โจษจันของประชาชาติ

        เป็นเหตุให้นานาชาติสั่นศีรษะ

15ข้าพเจ้าครุ่นคิดถึงความอับอายของตนตลอดวัน

        รู้สึกอัปยศอย่างมาก

16เมื่อได้ยินเสียงผู้ที่ดูหมิ่นและสาปแช่ง

        และเห็นศัตรูที่มุ่งจะแก้แค้น

17ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น แม้ข้าพเจ้าทั้งหลายจะไม่ลืมพระองค์เลย

        ไม่เคยขาดความซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระองค์

18ใจของข้าพเจ้าทั้งหลายไม่เคยเปลี่ยนไปทางอื่น

        และเท้าไม่เคยหลงออกนอกมรรคาของพระองค์

19แต่พระองค์ยังทรงทำลายข้าพเจ้าทั้งหลายให้ไปในที่อยู่ของหมาในc

        ทรงครอบข้าพเจ้าทั้งหลายไว้ในเงาแห่งความตาย

20ถ้าข้าพเจ้าทั้งหลายหลงลืมพระนามพระเจ้าของข้าพเจ้า   

และยื่นมือdไปกราบไหว้รูปเคารพ

21พระเจ้าจะไม่ทรงทราบเรื่องนี้หรือ

        เมื่อพระองค์ทรงทราบถึงความลี้ลับในใจ

22ข้าพเจ้าทั้งหลายถูกฆ่าทุกวันเพราะพระองค์

        เขาทำกับข้าพเจ้าทั้งหลายเหมือนกับแกะที่ถูกนำไปฆ่าe

23ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงตื่นเถิด ไฉนพระองค์จึงยังบรรทมหลับอยู่

        ขอทรงตื่นเถิด อย่าทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าทั้งหลายตลอดไปเลย

24เหตุใดพระองค์จึงทรงเบือนพระพักตร์ไปทางอื่น

        ไม่เอาพระทัยใส่ความทุกข์ยากของข้าพเจ้าทั้งหลายที่กำลังถูกรังควาน

25ข้าพเจ้าทั้งหลายถูกเหยียบไว้จนจมฝุ่นดิน

        ต้องนอนคว่ำเหยียดยาวบนพื้นดิน

26ขอพระองค์ทรงลุกขึ้นเถิด โปรดเสด็จมาช่วยเหลือข้าพเจ้าทั้งหลาย

        โปรดทรงปลดปล่อยข้าพเจ้า เพราะความรักมั่นคงของพระองค์

 

44 a เพลงสดุดีบทนี้เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างชัยชนะอันรุ่งโรจน์ในอดีตกับความพ่ายแพ้ในสมัยของผู้ประพันธ์ มีเนื้อหาคล้ายกับ สดด 74; 79 และ 80 ซึ่งอาจสะท้อนสถานการณ์หลังจากที่กรุงเยรูซาเล็มถูกทำลายในปี 587 ก่อน ค.ศ. ผู้รู้คิดว่าข้อ 17-22 อาจถูกแต่งเติมเข้ามาในภายหลังให้กล่าวถึงสถานการณ์ในสมัยมัคคาบีด้วย

* “เพื่อประทานแผ่นดินให้เขา” แปลตามตัวอักษรว่า “เพื่อทรงปลูกเขาไว้”

b “ทรงบัญชา” แปลตามสำนวนแปลโบราณหลายฉบับ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “โปรดบัญชา”

c “ที่อยู่ของหมาใน” อาจจะหมายถึงแผ่นดินที่ถูกทำลาย เหมือนใน อสย 34:13; ยรม 9:10 หรืออาจหมายถึงถิ่นทุรกันดารซึ่งชาวยิวที่ถูกเบียดเบียนใช้เป็นที่หลบภัย เหมือนใน 1 มคบ 2:29; 9:33 ก็ได้

d “ยื่นมือ” เป็นท่าทีของการอธิษฐานภาวนา (สดด 28:2; 141:2; อสย 1:15)

e “แกะที่ถูกนำไปฆ่า” อาจจะหมายถึงการเบียดเบียนในรัชสมัยของกษัตริย์อันทิโอคัส เอปีฟาเนส

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก