เพลงสดุดีที่ 36

ความชั่วร้ายของคนบาปและพระทัยอารีของพระเจ้าa

สดด บทนี้แต่เดิมอาจเป็นบทประพันธ์ 2 บทที่ถูกนำมารวมกัน (ข้อ 1-4 และข้อ 5-12) ภาคแรกกล่าวถึงท่าทีผิดๆ ของคนบาปซึ่งคิดว่าพระเจ้าจะไม่ทรงลงโทษความผิดของตน ส่วนภาคที่สองกล่าวถึงพระเจ้าผู้ทรงพระกรุณา และจะทรงอวยพรทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีความซื่อสัตย์ต่อพระองค์ สำหรับคริสตชนที่มีความเชื่อ ความชั่วช้ามากมายที่มีอยู่ในโลกต้องไม่ทำให้เขาหมดหวัง ความดีของพระเจ้าและความรักที่ทรงมีต่อสิ่งสร้างของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่และมีพลังมากกว่าความชั่ว ความคิดเช่นนี้ต้องให้กำลังใจและความบรรเทาใจแก่ทุกคน

สำหรับหัวหน้านักขับร้อง ของกษัตริย์ดาวิด ผู้รับใช้พระยาห์เวห์

1บาปพูดในใจของคนอธรรมb

        ความยำเกรงพระเจ้าไม่อยู่ต่อหน้าเขา

2เขายกย่องตนเอง

        จนไม่เห็นความผิดและเกลียดชังความผิดนั้นc

3ทุกสิ่งที่เขาพูดล้วนชั่วร้ายและหลอกลวง

        เขาเลิกประพฤติตนเฉลียวฉลาดและเลิกทำความดี

4แม้บนเตียงนอน เขาก็ยังวางแผนชั่วร้าย

        เขาตั้งตนอยู่ในหนทางที่ไม่ดี

ไม่ยอมละทิ้งความชั่วร้าย

5ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความรักมั่นคงของพระองค์ยิ่งใหญ่ถึงท้องฟ้า

        ความซื่อสัตย์ของพระองค์กว้างใหญ่ถึงหมู่เมฆ

6ความเที่ยงธรรมของพระองค์เป็นเสมือนภูเขาสูงสุดd

        วิจารณญาณของพระองค์ล้ำลึกประดุจมหาสมุทร

ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงช่วยทั้งมนุษย์และสัตว์ให้รอดพ้น

7ข้าแต่พระเจ้า ความรักมั่นคงของพระองค์ประเสริฐยิ่งนัก

        บุตรแห่งมนุษย์จึงเข้ามาลี้ภัยอยู่ใต้ร่มปีกของพระองค์

8พระองค์ประทานอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์จากพระวิหารเลี้ยงดูเขา

        ให้เขาดื่มน้ำชื่นใจจากกระแสธารของพระองค์

9ในพระองค์มีต้นธารแห่งชีวิตe

        เมื่อพระองค์ทรงส่องแสงf ข้าพเจ้าทั้งหลายจึงแลเห็นความสว่าง

10ขอพระองค์ทรงสำแดงความรักมั่นคงของพระองค์ต่อไปแก่ผู้ที่รู้จักพระองค์

        ทรงแสดงความเที่ยงธรรมของพระองค์แก่ผู้มีใจซื่อตรง

11ขออย่าให้เท้าของคนยโสเหยียบย่ำข้าพเจ้า

        หรือมือของคนอธรรมผลักไสข้าพเจ้า

12ดูซิ เขาทั้งหลายผู้ทำความชั่วล้มลงแล้ว

        เขาถูกโยนลงบนพื้น ลุกขึ้นอีกไม่ได้

 

36 a เพลงสดุดีบทนี้แบ่งได้เป็นสองภาค คือ ข้อ 1-4 และ 5-12

b ผู้ประพันธ์คิดว่าบาปเป็นบุคคลที่พูดได้ เสียงของบาปในใจของคนอธรรมจึงมีบทบาทเหมือนกับพระวาจาของพระเจ้าในใจของผู้ชอบธรรม

c ต้นฉบับไม่ชัดเจน แปลโดยคาดคะเน

d “ภูเขาสูงสุด” แปลตามตัวอักษรว่า “ภูเขาของพระเจ้า” (เทียบ สดด 68:15; 80:10)

e “ชีวิต” หมายถึงความเจริญ สันติภาพ ความสุข (เทียบ สดด 133:3) “ต้นธารแห่งชีวิต” ใน สภษ หมายถึงปรีชาญาณ (สภษ 13:14; 16:22; 18:4) และยังหมายถึง “ความยำเกรงพระเจ้า” อีกด้วย (สภษ 14:27) พันธสัญญาใหม่ โดยเฉพาะ ยน นำข้อความนี้มาประยุกต์ใช้กับพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นชีวิตและแสงสว่างสำหรับมนุษย์ทุกคน

f “เมื่อพระองค์ทรงส่องแสง” แปลตามตัวอักษรว่า “ในแสงสว่างของพระองค์” แสงสว่างจากพระพักตร์พระเจ้าหมายถึงพระทัยดีของพระองค์ด้วย(สดด 27:1; 89:15; โยบ 29:3 ดู สดด 4:6 เชิงอรรถ d) เมื่อพระเจ้าทรงพระทัยดี มนุษย์ก็มีความสุข (ความสว่าง)