“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

เพลงสดุดีที่ 9-10

พระเจ้าทรงทำลายคนชั่วและทรงช่วยผู้ต่ำต้อยให้รอดพ้นa

          ภาคแรกของเพลงสดุดี “กลบทอักษร” บทนี้แต่เดิมคงเป็นบทภาวนาที่แสดงการขอบพระคุณ ในการกลับจากการเนรเทศที่กรุงบาบิโลน แต่ความยินดีที่ได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนของคนเหล่านี้จางหายไปในไม่ช้า เพราะผู้ที่เข้ามายึดครองที่ดิน (ของผู้ที่ถูกเนรเทศ) และชาวอิสราเอลที่ตกค้างอยู่ในแผ่นดินปาเลสไตน์ (ไม่ถูกจับเป็นเชลยไปกรุงบาบิโลน) คิดว่าผู้กลับจากเนรเทศเป็นคนต่างถิ่น จึงคอยกลั่นแกล้ง ภาคสองของเพลงสดุดีเป็นคำภาวนาของคนยากจนและถูกเบียดเบียนที่หมดความอดทน แต่ยังวางใจพระเจ้า ขอให้พระองค์ทรงฟังคำอ้อนวอนของตนและลงโทษศัตรูที่เบียดเบียน พระคัมภีร์ภาษาฮีบรูนับ สดด บทนี้เป็น 2 บทแยกกัน แต่อันที่จริงต้องนับเป็นบทเดียว เพราะมีการเรียงข้อต่างๆ ตามลำดับอักษรภาษาฮีบรู พระคัมภีร์ฉบับภาษากรีกและละตินจึงทำถูกแล้วที่นับ สดด บทนี้เป็นบทเดียว ความแตกต่างในการกำหนดหมายเลขเพลงสดุดีจึงเริ่มขึ้นที่นี่ โดยทั่วไปแล้วหมายเลขประจำบทในภาษาฮีบรู จะมากกว่าฉบับภาษากรีก-ละติน 1 หน่วย คำแปลภาษาปัจจุบันโดยทั่วไปมักใช้หมายเลขลำดับตามฉบับภาษาฮีบรู

สำหรับหัวหน้านักขับร้อง ตามทำนองเพลง “มูทลาเบน”b เพลงสดุดีของกษัตริย์ดาวิด

อาเลฟ  1ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์สุดหัวใจ

                   จะขานไขถึงพระราชกิจน่าพิศวงของพระองค์

          2ข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีและมีความสุขเดชะพระองค์

                   ข้าแต่พระเจ้าสูงสุด ข้าพเจ้าจะขับร้องสรรเสริญพระนามพระองค์

เบท     3ศัตรูของข้าพเจ้าหนีกลับไป

                   สะดุดล้มและพินาศเฉพาะพระพักตร์พระองค์

          4เพราะพระองค์ประทานความเที่ยงธรรมให้ข้าพเจ้าชนะคดี

                   พระองค์ประทับอยู่บนพระบัลลังก์ ทรงเป็นผู้พิพากษาที่ยุติธรรมc

กีเมล   5พระองค์ทรงว่ากล่าวคนต่างชาติ ทรงทำลายคนชั่วร้าย

                   ทรงลบชื่อของเขาออกไปตลอดนิรันดร

          6ศัตรูถูกกวาดล้าง พังทลายพินาศตลอดไป

                   เมืองที่ทรงทำลายไม่มีใครจดจำไว้อีกเลย

เฮ       7ดูซิd พระยาห์เวห์ประทับบนพระบัลลังก์ตลอดไป

                   ทรงตั้งพระบัลลังก์ไว้เพื่อการพิพากษา

          8พระองค์ทรงพิพากษาโลกด้วยความเที่ยงธรรม

                   ทรงปกครองประชาชาติด้วยความยุติธรรม

วาว     9พระยาห์เวห์ทรงเป็นปราการมั่นคงสำหรับผู้ถูกกดขี่

                   ทรงเป็นที่มั่นในยามทุกข์ร้อน

          10ผู้ที่รู้จักพระนาม ย่อมวางใจในพระองค์

                   ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งผู้แสวงหาพระองค์เลย

ซาอิน   11จงขับร้องสรรเสริญพระยาห์เวห์ผู้ทรงพำนักอยู่ในศิโยน

                   จงประกาศพระราชกิจแก่นานาชาติ

          12พระองค์ทรงลงโทษผู้หลั่งโลหิตผู้อื่น

                   ทรงจดจำและไม่ทรงลืมเสียงร้องของผู้ระทมทุกข์

เคท     13ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงสงสารข้าพเจ้าด้วย

                   โปรดทอดพระเนตรความทุกข์ยากที่ผู้เกลียดชังทำกับข้าพเจ้าe

          โปรดทรงฉุดข้าพเจ้าขึ้นมาจากประตูแดนมรณะ

          14เพื่อข้าพเจ้าจะได้ประกาศพระราชกิจอันควรสรรเสริญของพระองค์ที่ประตูเมืองศิโยน

                   และชื่นชมที่ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น

เตด     15 บรรดาคนต่างชาติอธรรมตกลงไปในหลุมพรางที่เขาขุดไว้

                   เท้าของเขาติดอยู่ในบ่วงที่เขาวางไว้

          16พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระองค์ให้เป็นที่รู้จักเมื่อทรงพิพากษา

                   คนชั่วติดกับในบ่วงที่มือของตนวางไว้

                                                (ดนตรีบรรเลงเบาๆ พักครู่หนึ่ง)

โยด     17คนชั่วร้ายจงหวนกลับไปยังแดนมรณะ

                   รวมทั้งบรรดาประชาชาติที่หลงลืมพระเจ้า

คัฟ      18เพราะพระองค์ไม่มีวันทรงลืมผู้ขัดสนเลย

                   ความหวังของผู้ยากจนจะไม่ล้มเหลวอย่างแน่นอน

          19ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงลุกขึ้นเถิด อย่าให้มนุษย์เอาชนะได้

                   คนต่างชาติอธรรมทั้งหลายจะต้องถูกพิพากษาเฉพาะพระพักตร์พระองค์

          ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงบันดาลให้เขาทั้งหลายตกใจกลัว

                   คนต่างชาติอธรรมทั้งหลายจะได้รู้ว่า ตนนั้นเป็นเพียงมนุษย์

                                                            (พักครู่หนึ่ง)

 

10

ลาเมด  1ข้าแต่พระยาห์เวห์ เหตุไฉนพระองค์จึงทรงอยู่ห่างนัก

                   ทำไมจึงทรงซ่อนพระองค์ในยามที่ข้าพเจ้าเดือดร้อน

          2คนชั่วหยิ่งยโสข่มเหงผู้ขัดสน

                   ขอให้เขาติดกับด้วยแผนการที่เขาคิดขึ้น

(เมม)   3คนชั่วภูมิใจในความปรารถนาในใจของตน

                   คนโลภสาปแช่งและลบหลู่พระยาห์เวห์a

(นูน)    4คนชั่วโอหังไม่แสวงหาพระเจ้า

                   เขาคิดแต่เพียงว่า “ไม่มีพระเจ้า”b

          5กิจการของเขาประสบความสำเร็จทุกเวลา

                   เขาไม่เข้าใจคำตัดสินของพระองค์

          เขาดูถูกศัตรูทุกคนของเขา     

          6เขาคิดในใจว่า “ข้าจะไม่หวั่นไหว

                   ข้าไม่มีวันจะต้องประสบความเลวร้ายเลย”

(ซาเมค)

เป       7ปากของเขาเต็มไปด้วยคำสาปแช่ง คำเท็จและคำขู่ตะคอก

                   ใต้ลิ้นของเขามีแต่ความเลวร้ายและความชั่วช้า

          8เขาซุ่มอยู่ใกล้หมู่บ้าน

                   เขาซ่อนตัวอยู่เพื่อฆ่าคนที่ไม่มีความผิด

อายิน   ตาของเขาจ้องคอยผู้เคราะห์ร้ายc

          9เขาซ่อนตัวอยู่ไม่ให้ใครเห็น เหมือนสิงโตในโพรง

                   ซุ่มคอยตะครุบผู้ขัดสน

          พอจับได้แล้ว เขาก็ลากเอาตัวไปในตาข่ายของตน

ซาเด    10เขาล้มลง หมอบลงd

                   ผู้เคราะห์ร้ายตกอยู่ในอำนาจของเขา

          11เขาคิดในใจว่า “พระเจ้าทรงลืมแล้ว

                   ทรงเบือนพระพักตร์มองไม่เห็นเลย”

โฆฟ    12ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้า โปรดทรงลุกขึ้น ยกพระหัตถ์ขึ้นเถิดe

                   ขออย่าได้ทรงลืมผู้ทุกข์ร้อนเลย

          13ไฉนทรงปล่อยให้คนชั่วลบหลู่พระเจ้า

                   และคิดในใจว่าพระองค์จะไม่สนพระทัยความชั่วของตนเลย

เรช     14แต่พระองค์ทอดพระเนตรเห็นความเดือดร้อนและความทุกข์

                   ทรงเฝ้าดูอยู่เพื่อทรงจัดการ

          ผู้ถูกข่มเหงวางใจในพระองค์

                   พระองค์ทรงเป็นที่พึ่งของลูกกำพร้าf

ชิน      15ขอทรงหักแขนของคนเลวทรามต่ำช้าเสียเถิด

                   ขอทรงลงโทษความชั่วของเขา อย่าให้มีเหลืออีกเลย

          16พระยาห์เวห์ทรงเป็นกษัตริย์นิรันดรและตลอดไป

                   คนต่างชาติอธรรมจะสูญหายไปจากแผ่นดินของพระองค์

เตา     17ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงฟังความปรารถนาของผู้ขัดสน

                   ประทานกำลังใจแก่เขา ทรงเงี่ยพระกรรณฟังคำร้องทุกข์

          18เพื่อทรงปกป้องสิทธิของลูกกำพร้าและผู้ถูกข่มเหง

                   มนุษย์ที่เกิดจากดินจะได้ไม่สร้างความหวาดกลัวอีกต่อไป

 

9 a เพลงสดุดีที่ 9 และ 10 แต่เดิมเป็นบทเดียวกัน ดังที่ยังพบในต้นฉบับภาษากรีกและภาษาละติน ผู้ประพันธ์กล่าวในนามของ “ผู้ยากจน” (ดู ศฟย 2:3 เชิงอรรถ d) โดยบรรยายให้เห็นความเลวร้ายของคนชั่ว เพลงสดุดีบทนี้มีโครงสร้างเป็น “เพลงสรรเสริญ” ต่อด้วย “คำอ้อนวอน” ขอให้พระเจ้าทรงตัดสินลงโทษคนชั่วเหล่านั้น เพลงสดุดีบทนี้ในภาษาฮีบรูเป็นบทประพันธ์กลบทอักษร เรียงข้อเริ่มด้วยอักษรภาษาฮีบรูตามลำดับ (เทียบ สภษ 31:10-31) แต่ต้นฉบับที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สมบูรณ์ ข้อที่ขึ้นต้นด้วยอักษรบางตัวขาดไป หาไม่พบ จึงต้องปล่อยทิ้งว่างไว้

b วลีนี้อาจแปลได้ว่า “ความตายของลูก” อาจเป็นชื่อของเพลงซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น แต่บางคนแปลโดยคาดคะเนว่า “ใช้โอโบและพิณประกอบ”

c ชาวอิสราเอลคิดว่าพระเจ้าทรงพิพากษาการกระทำของมนุษย์ในเวลาปัจจุบันแล้ว แต่จะทรงเปิดเผยคำตัดสินให้ทุกคนทราบใน “วันของพระยาห์เวห์” ทรรศนะที่มองไปสู่อันตวิทยาเช่นนี้ เป็นแนวคิดที่พบบ่อยๆ ในบทสดุดีหลายบท

d “ดูซิ” แปลโดยคาดคะเน

e ผู้แปลบางคนละ “ที่ผู้เกลียดชังทำกับข้าพเจ้า”

10 a ต้นฉบับของข้อ 3-4 ไม่สมบูรณ์ คำบางคำถูกแก้ไขให้สอดคล้องกับความคิดทางเทววิทยาที่พัฒนามากขึ้น เช่น ในต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่มีคำว่า “สาปแช่งและลบหลู่พระเจ้า” แต่มีคำว่า “อวยพร” เข้ามาแทน เพื่อเลี่ยงไม่ให้ผู้อ่านจะต้องกล่าวว่า “สาปแช่งพระเจ้า” (เทียบ 1 พกษ 21:10,13; โยบ 1:5, 11; 2:5, 9)

b คนชั่วเชื่อว่าไม่มีพระญาณเอื้ออาทรคอยดูแลมนุษย์ เขาจึงพูดและปฏิบัติราวกับไม่มีพระเจ้า

c แปลโดยคาดคะเน เทียบ อสย 35:7

d แปลโดยคาดคะเน

e “ยกพระหัตถ์” เพื่อช่วยให้รอดพ้น (เทียบ สดด 138:7) หรือเพื่อตี (เช่นใน อสย 11:15; อสค 36:7; มคา 5:8)

f ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่ชัดเจน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก