“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
เสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2017
สัปดาห์ที่ยี่สิบแปด เทศกาลธรรมดา
ลก 12:8-12…
      8เราบอกท่านทั้งหลายว่าทุกคนที่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ บุตรแห่งมนุษย์จะยอมรับผู้นั้นต่อหน้าทูตสวรรค์ของพระเจ้า 9แต่ผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ จะถูกปฏิเสธไม่ยอมรับต่อหน้าทูตสวรรค์ของพระเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน


10“ทุกคนที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ผู้ที่กล่าวร้ายต่อพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย”
11“เมื่อเขาจะนำท่านไปยังศาลาธรรมต่อหน้าผู้ปกครองและผู้ทรงอำนาจ ท่านทั้งหลายอย่าวิตกกังวลว่าจะหาเหตุผลป้องกันตัวอย่างไรหรือจะพูดอะไร 12เพราะพระจิตเจ้าจะทรงสอนท่านในเวลานั้นว่าจะต้องพูดอะไร”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ มีบางสำนวนที่พ่อต้องให้ความสำคัญ และต้องให้อรรถาธิบายเป็นพิเศษเพื่อความเข้าใจขึ้นสำหรับพ่อเองและสำหรับพี่น้อง เข้าใจ รัก รู้จักและได้รับคำจากพระวาจาของพระเจ้า... พ่อขอเสนอความเข้าใจเล็กน้อยของพ่อ เพื่อแบ่งปันต่อไปนี้ครับ

• “ทุกคนที่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ บุตรแห่งมนุษย์จะยอมรับผู้นั้นต่อหน้าทูตสวรรค์ของพระเจ้า แต่ผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ จะถูกปฏิเสธไม่ยอมรับต่อหน้าทูตสวรรค์ของพระเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน”
o สำนวน “บุตรแห่งมนุษย์” ความจริงสำนวนที่ใช้เรียกพระเยซูเจ้าในพระธรรมชาติมนุษย์ในพระคัมภีร์มีหลายสำนวน หรือหลายนามชื่อ พ่อขอเน้นสองประการ คือ “บุตรของพระเจ้า” และ “บุตรแห่งมนุษย์” ความหมายของสำนวนสองสำนวนนึ้ซึ่งหมายถึงพระเยซูเจ้าทั้งคู่นั่นแหละ แต่เป็นสองสำนวนที่ใช้ต่างกันครับ
1. “บุตรของพระเจ้า” ใช้ในโอกาสต่างๆที่ประกาศว่าพระองค์มาจากเบื้องบน เป็นพระบุตรของพระเจ้า หรือสรุปง่ายๆว่า “บุตรพระเจ้า” ใช้เรียกพระเยซูในความหมายของ “พระสิริรุ่งโรจน์” หรือเป็นสำนวนการประกาศพระองค์เป็นพระเจ้าสูงสุด หรือเป็นพระบุตรของพระเจ้าจริงๆ
2. “บุตรแห่งมนุษย์” สำนวนนี้ใช้เพื่อหมายถึงพระเยซูเจ้าในสภาพที่ทรงรับความทุกข์ พระทรมาน การสิ้นพระชนม สำนวนบุตรแห่งมนุษย์จะใช้ในสภาพที่พระองค์ทรงร่วมทุกข์และยอมรับการกระทำ การประหารชีวิตหรือสิ้นพระชนมเพื่อเราทุกคน... พระองค์เมื่อประกาศถึงพระทรมานทุกครั้ง พระองค์จะเรียกตัวพระองค์เองว่าบุตรแห่งมนุษย์
o ดังนั้น การที่พระเยซูเจ้าทรงประกาศเน้นว่า “ทุกคนที่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ บุตรแห่งมนุษย์จะยอมรับผู้นั้นต่อหน้าทูตสวรรค์ของพระเจ้า แต่ผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์...” สำนวนนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนจริงๆ ว่าพระเยซูเจ้ากำลังประกาศถึงการยอมรับพระองค์ในสภาพใด.. แน่นอนไม่ใช่ในสภาพพระสิริรุ่งโรจน์ หรือชัยชนะ แต่เป็นภาพชัดเจนของการประกาศการยอมรับพระองค์ “พระเยซู”ในสภาพมนุษย์ผู้ทรงต้องรับทนทรมาน ทรงสิ้นพระชนม์
o ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่ “การตอบรับ หรือ การปฏิเสธไม่ยอมรับ” ต่อพระบุคคลของพระเยซูคริสตเจ้านั้น เป็นเรื่องจำเป็นมาก จำเป็นที่เราจะได้ต้อนรับการต้นรับจากทูตสวรรค์หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “ได้ไปสวรรค์” ซึ่งอันที่จริง หมายถึง การได้เข้าสู่ชีวิตนิรันดรในพระอาณาจักรสวรรค์ขอพระเจ้า (Kingdom of God) ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่การต้อนรับ หรือการปฏิเสธนั่นเอง
o พี่น้องที่รักครับ คิดดีๆ ไตร่ตรองดีๆนะครับ เพื่อเข้าสู่สวรรค์นิรันดร คือ การปิดใจตอนรับพระเยซู บุตรแห่มนุษย์ คือ การต้อนรับพระเยซูในสภาพแห่งพระทรมานหรือพระกายที่รับทรมานของพระคริสตเจ้า... ไม่ใช่การต้อนรับพระเยซูในฐานะพระสิริรุ่งโรจน์ในโลกนี้ พ่อพิจารณาและค้นหาพระวาจาตอนที่สนับสุนนกับที่นี่ พ่อได้พบจริงๆ เพราะว่าพระเยซูเจ้าทรงเน้นสอน “การต้อนรับ ความรัก ความเมตตา การให้ การช่วยเหลือ” พระองค์เน้นสอนแบบที่เราปฏิเสธไม่. “ใครต้อนรับเด็กเล็กเหล่านี้ เขาต้องรับเรา” และพระวาจาตอนที่สำคัญมาก คือ เรื่องเปรียบเทียบเรื่องการพิพากษาสุดท้าย การแยกแกะออกจากแพะ เรื่องนี้พี้น้องทราบดี (ดู มธ 25) เพราะในที่สุดเราพบข้อความที่เราสามารถเรียกได้ว่า การกระทำเช่นนั้น คือการกระทำให้กับพระเยซู “เราหิวท่านให้เรากิน เรากระหายท่านให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลหน้าท่านได้ต้อนรับ เราเจ็บป่วยท่านมาเยี่ยม เราติดคุกท่านมาหา...” และพระดำรัสสำคัญคือ พระองค์ยืนยันว่า....สิ่งที่ท่านทำกับพี่น้องผู้ตำต่อยของคนหนึ่งของเราครั้งใด ท่านทำกับเราเอง... และในทางกลับกัน สิ่งที่ไม่ได้ทำ หรือได้ปฏิเสธพี่น้องผู้ต่ำต้อย ก็เป็นการปฏิเสธพระเยซูเจ้าเอง...
o ดังนั้น สำหรับเราคริสตชนจริงๆแล้ว สวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องได้มาด้วยการลงทุน ทำกิจกรรม ทำบุญให้มากในกิจการใหญ่ กับโอกาสใหญ่ แต่ประการใด สำคัญที่สุด คือ พระพักตร์ของพระเยซูเจ้า บุตรแห่งมนุษย์ คือ พี่น้องของเราผู้ทุกข์ระทมในโลกนี้ บรรดาคนด้อยโอกาส คนยากไร้ คนชายของสังคม ฯลฯ ที่อยู่ในสภาพที่ไม่ “สิริรุ่งโรจน์” แต่เป็นสภาพ “ผู้รับทรมาน” คนเหล่านี้คือพระพักตร์ของพระเยซู บุตรแห่งมนุษย์นะครับ... การต้อนรับ หรือ การ ปฏิเสธ คือ ประเด็นสำคัญของเราที่จะประกาศว่าเราได้รัก ได้เลือกพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริงหรือไม่

• “ทุกคนที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ผู้ที่กล่าวร้ายต่อพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย”
o เรื่องนี้มีคำถามพ่อบ่อยๆ การกล่าวร้ายหรือผรุสวาทต่อพระจิตเจ้า...จะไม่ได้รับการอภัย หรือบ่อยครั้ง มีคนถามพ่อว่า “พ่อ...บาปผิดต่อพระจิตที่จะไม่ได้รับการอภัยคืออะไรกันหนอ...” มักจะมีคำถามเช่นนี้แหละครับ และคำตอบของพ่อก็จะตอบแบบไม่ต้องอธิบายเทววิยามากๆ
o บาปผิดต่อพระจิต คือ ความผิดต่อเสียงมโนธรรม หรือเรียกง่ายๆว่า “ดื้อรั้น” ไม่ยอมฟังเสียงของพระเจ้า พ่อยกตัวอย่าง เราคริสตชนเมื่อได้ประสบกับความลำบากของเพื่อนพี่น้องในรูปแบบต่างๆ อย่างที่พ่อเกริ่นมาแล้ว จิตใจของเราย่อมปรารถนา หรือควรที่จะปรารถนาจะต้องรับ ช่วยเหลือ เมตตา และแบ่งปัน... แต่บ่อยครั้งใจเราดื้อกระด้าง ไม่เมตตา ไร้เมตตา หรือไม่ให้อภัยในรูปแบบต่างๆ ที่ควรจะให้อภัยและเมตตา แต่ก็กระด้างดื้อด้านเหลือเกินที่จะให้อภัย ให้โอกาส และที่สุดนั่นคือการเสียโอกาสไปและไม่ได้ให้อภัย หรือไม่ได้เมตตา ไม่ได้ตามอ่อนน้อมตามเสียงของมโนธรรมหรือการดลใจของพระจิตเจ้าองค์ความรัก...
o ชัดขึ้นอีกหน่อยครับ... เสียงของพระจิตเจ้าโดยมโนธรรมเตือนเราให้ไปสารภาพบาป ให้ไปแก้บาป เมื่อทำผิดต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดความยุติธรรมและความรัก.. แต่เราดื้อ ไม่ยอมเสียใจ ไม่ฟังเสียงของมโนธรรม ไม่ยอดไปแก้บาปหรือคืนดีกับพระเจ้าและกับเพื่อนมนุษย์ นั่นแหละครับ บาปผิดต่อพระจิต ที่ทำให้ไม่ได้รับการอภัย... ไม่ใช่พระเยซูเจ้าอภัยไม่ได้นะครับอย่าเข้าใจผิด แต่จะไม่ได้รับการอภัยเพราะเราได้ปฏิเสธที่จะรับฟังและยอมรับเสียงของพระเจ้า และไปคืนดีกับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้องนะครับ...
o พ่อหวังว่าเราทุกคนจนอ่อนโยนในการรับฟังเสียงของพระจิตเจ้าเสมอนะครับ ขอพระเจ้าโปรดประทานพระจิตเจ้าแห่งความจริงและความรักให้แก่เราเสมอ และผลของพระจิตที่น้องทราบดี คือ ความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความอดทน ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง (ดู กท 5:22-23) ถ้ามีพระจิตเจ้า ถ้ารักและฟังเสียงของพระจิตเจ้า พ่อมั่นใจ เราคริสตชนจะน่ารัก อ่อนโยน รู้จักควบคุมตนเอง เมตตา ใจดี ต้อนรับพี่น้องทุกคนโดยเฉพาะผู้ยากไร้อย่างแน่นอน และพี่น้องครับ.. คริสตชนแท้ๆ จะเป็นคนน่ารักมาก ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำบุญแลกสวรรค์ แต่เพราะเรารักพระเจ้า พระเจ้ารักเรามอบสวรรค์ให้เรา เราจึงประกาศความรักและประกาศสวรรค์บ้านแท้นิรันดร์นั้นแก่ทุกคนด้วยความสุขความยินดีที่สุดเสมอครับ...

• “เมื่อเขาจะนำท่านไปยังศาลาธรรมต่อหน้าผู้ปกครองและผู้ทรงอำนาจ ท่านทั้งหลายอย่าวิตกกังวลว่าจะหาเหตุผลป้องกันตัวอย่างไรหรือจะพูดอะไร เพราะพระจิตเจ้าจะทรงสอนท่านในเวลานั้นว่าจะต้องพูดอะไร”
o ดังนั้น สำหรับเราคริสตชนที่มีพระจิตเจ้า มีความรัก มีความจริงของพระเจ้า โดยเฉพาะมีจิตแห่ความซื่อตรงเป็นที่สุด ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวครับ
o แม้ว่ากระแสโลก การเบียดเบียน การทำร้าย หรือการนำเราไปสู่กระบวนการอำนาจของมนุษย์ (บ่อยครั้ง เป็นอำนาจเท็จเทียม ทำร้าย ทำลาย โลภ พากันไปขั้นโรงขึ้นศาล) พระเยซูเจ้าบอกว่า “ไม่ต้องกลัวว่าจะพูดอะไร ไม่ต้องวิตกกังวลจะป้องกันตัวอย่างไร....” จริงๆนะครับ ไม่มีอะไรต้องกลัว และพระองค์ยังตรัสว่า “ความจริงจะทำให้ท่านเป็นไทย” (เทียบ ยน 8:32) พระเจ้าเป็นความจริง พระจิตเจ้าเป็นองค์ความจริง พระองค์เป็นความรัก เป็นพระดำริ สติปัญญา ความคิดอ่าน ความรู้ ฯลฯ พ่อจึงคิดว่า ถ้าเรามีพระจิตเจ้ากับเรา เราไม่มีอะไรต้องกลัวหรือกังวลจริงๆครับ
o ขอให้เราเป็นผู้เทิดเกียรติพระเจ้าในชีวิตเราเสมอไปนะครับ... รักพระเจ้าในเพื่อนพี่น้องผู้รับทนทรมานคืองานขอเรา เพราะนั่นคือจิตตารมณ์เดียวกันกับที่พระเยซูเจ้าทรงรักและเมตตาเราที่สุดครับ

• ขอให้เรากล้าประกาศความรักแท้ของพระเจ้า ด้วยชีวิตคริสตชนแท้จริงของเราเสอมไปนะครับ...เป็นคริสตชนกันให้แน่นๆหน่อยนะครับ หย่าหลวมๆไม่เอา แน่นแบบช่วงล่างรถที่ยอดเยี่ยม คือ แน่นมากแต่นุ่มนวลและเกาะถนนปลอดภัยเป็นที่สุด... เราไม่ได้มีช่วงล่างเหมือนรถครับ แต่เรามีชีวิตพระเจ้าเป็นรากฐานสำคัญที่สุดของเรา ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ...

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก