“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2016

ระลึกถึง น.เยโรม พระสงฆ์ นักปราชญ์แห่งพระศาสนจัก

โยบ 38:1,12-21,40:3-5 / ลก 10:13-16

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                         
 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า ”วิบัติจงเกิดแก่เจ้า เมืองโคราซิน วิบัติจงเกิดแก่เจ้า เมืองเบธไซดา ถ้าอัศจรรย์ที่ได้เกิดขึ้นในเจ้าได้เกิดขึ้นที่เมืองไทระและเมืองไซดอนแล้ว เขาเหล่านั้นคงได้นุ่งกระสอบนั่งบนกองขี้เถ้ากลับใจเสียนานแล้ว ดังนั้น เมืองไทระและเมืองไซดอนจะรับโทษเบากว่าเจ้าในวันพิพากษา ส่วนเจ้า เมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะยกตนขึ้นถึงฟ้าเทียวหรือ เจ้าจะตกลงไปถึงแดนผู้ตาย   ผู้ใดฟังท่าน ผู้นั้นฟังเรา ผู้ใดสบประมาทท่าน ผู้นั้นสบประมาทเรา ผู้ที่สบประมาทเรา ก็สบประมาทผู้ที่ทรงส่งเรามา”

 (พระวาจาของพระเจ้า)

 --------

 เราปรารถนาจะเรียนรู้พระประสงค์ของพระเจ้า ที่จะบอกแค่ "ใช่" หรือบอกแค่ "ถูก" แต่เราไม่อยากเรียนรูพระประสงค์ของพระเจ้าในเวลามืดมิด หรือในเวลาถูกเขย่าด้วยเวลาแห่งความทุกข์ยาก
 เราอยากเรียนรู้แต่เรื่องที่ง่าย ไม่ต้องออกแรงพัฒนาเปลี่ยนแปลง แค่บอกว่า "ใช่" "ใช้ได้" เราก็เลยไม่มี "กลไก" ในการติดตามพระประสงค์พระเจ้าในมิติอื่นๆ
 เหมือนเรารู้แต่ "สีขาว" เราก็เลยไม่รู้จัก "สีดำ" เราไม่เคยแก้ไขให้ที่มืดให้สว่างขึ้น หรือ เรียนรู้จะอยู่ในที่มืดเพื่อรอเวลาสว่าง ที่สอดคล้องกับวิธีการสอนของพระต่อโยบ

  “ตั้งแต่วันที่ท่านเกิดมา ท่านเคยสั่งรุ่งอรุณ และเคยกำหนดสถานที่ให้รุ่งอรุณอยู่หรือ รุ่งอรุณจะได้จับชายแผ่นดินไว้ และสลัดคนชั่วออกไป ...... ถ้าท่านรู้ทุกสิ่งแล้ว ก็จงบอกมา หนทางไหนนำไปสู่ที่พำนักของความสว่าง และที่ไหนเป็นสถานที่ของความมืด ท่านจะได้นำทั้งแสงสว่างและความมืดไปอยู่ในเขตแดนของตน"
 การไม่รู้ เราจึงไม่มี "ภูมิคุ้มกัน" เราจึงอ่อนแอ ตกในบาป เพราะความยั่วยวน ไม่เรียนรู้ที่ หาเป้าหมายที่จูงใจ แรงบันดาลใจที่จะพัฒนาให้สูงส่ง เพียงบอกแค่ว่า "ทำไมได้ พระไม่ช่วย" แต่เราไม่เคยออกแรงจนสุดแรง หาวิธีป้องกันและพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกัน ไม่ปล่อยข้ออ้างความยั่วยวนและไม่ได้รับมือให้เป็น ไม่ได้มองเห็นความรักของพระเป็นแรงบันดาลใจจนสำเร็จ เป็นคนจมมืด มากกว่า อดทนรอความสว่าง
 กลไกแบบนี้ เป็น "การเอาชนะการประจญ ยั่วยวน" ที่เรามัก "ยินยอม" ให้ "ยั่วยวน" แล้วก็อ้างความเป็นมนุษย์ปุถุชน
 กลไกที่ถอยห่างจากการพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงเพื่อ "พ่ายแพ้" ที่ไม่พยายามครั้งเดียว ก็ยอมอยู่ในความมืดดึงด่ำ
 เงื่อนไขของการ "ผ่านพ้น" ไปตามแนวทางของความสว่าง ก็คือ "ความพยายาม" ที่เกิดด้วยกระบวนการความวางใจ และเรียนรู้พระประสงค์ของพระเจ้าในแต่ละวันเวลา ดังคำสรุปของพระวาจาที่บอกว่า    "ผู้ใดฟังท่าน ผู้นั้นฟังเรา ผู้ใดสบประมาทท่าน ผู้นั้นสบประมาทเรา ผู้ที่สบประมาทเรา ก็สบประมาทผู้ที่ทรงส่งเรามา"

 ความเชื่อฟังเป็นบ่อเกิดของปัญญาฝ่ายจิต
 และความวางใจก็เป็นบ่อเกิดของการปฎิบัติฝ่ายจิตเช่นกัน

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก