“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2016

พระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์พรหมจารีย์

1คร 11: 17-26 / ลก 7: 1-10

บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญลูกา

       เวลานั้น เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสพระวาจาทั้งหมดนี้ให้ประชาชนฟังจบแล้ว พระองค์เสด็จเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม ผู้รับใช้ของนายร้อยคนหนึ่งกำลังป่วยใกล้จะตาย นายรักเขามาก  เมื่อนายร้อยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า จึงได้ส่งผู้อาวุโสบางคนของชาวยิวมาอ้อนวอนพระองค์ให้เสด็จไปช่วยชีวิตของผู้รับใช้ คนเหล่านั้นมาเฝ้าพระเยซูเจ้า อ้อนวอนรบเร้าพระองค์ว่า “นายร้อยผู้นี้สมควรที่ท่านจะช่วยเหลือ เพราะเขารักชนชาติของเราและได้สร้างศาลาธรรมให้เรา”


พระเยซูเจ้าจึงเสด็จไปกับคนเหล่านั้น เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้จะถึงบ้าน นายร้อยใช้เพื่อนบางคนไปทูลพระองค์ว่า  “พระองค์เจ้าข้า อย่าลำบากไปเลย ข้าพเจ้าไม่สมควรให้พระองค์เสด็จเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้า เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่อาจเอื้อมที่จะออกมาพบกับพระองค์ แต่ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียวผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหายจากโรค ข้าพเจ้าเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ยังมีทหารอยู่ใต้บังคับบัญชาด้วย ข้าพเจ้าบอกคนหนึ่งว่า “ไป” เขาก็ไป บอกอีกคนหนึ่งว่า “มา” เขาก็มา ข้าพเจ้าบอกผู้รับใช้ว่า “ทำสิ่งนี้” เขาก็ทำ” เมื่อพระเยซูเจ้าทรงได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ทรงรู้สึกประหลาดพระทัย ทรงผินพระพักตร์ไปยังประชาชนที่ติดตามพระองค์ตรัสว่า “เราบอกท่านทั้งหลายว่าเรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอลเลย”  เมื่อเพื่อนที่ถูกใช้มากลับไปถึงบ้าน ก็พบว่าผู้รับใช้ผู้นั้นหายเป็นปกติแล้ว

 (พระวาจาของพระเจ้า)

————

 เข็มทิศ กำหนด ทิศทางเป้าหมาย
 ต้นทางและบั้นปลาย กระตุ้นจูงใจคน
 ถ้าขาด ลักษณะแบบนี้ไป เราคงไม่ต่างจากพฤติกรรมที่นักบุญเปาโลบอกชาวโครินทร์
 “เมื่อท่านมาชุมนุมพร้อมกันนี้ มิได้เป็นการกินเลี้ยงอาหารค่ำขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะขณะที่กิน แต่ละคนก็รีบกินอาหารของตนก่อนคนอื่นบางคนยังหิวอยู่                                                แต่อีกคนหนึ่งเมามายไปแล้ว”
 ขาดแรงจูงใจ เราจะจูง โยงใย ไปหาที่ใด?
 ขาดความมุ่งมั่น เราวางใจ ทำกับใคร เพื่อใคร
 ถ้าแรงจูงใจ และความมุ่งมั่น ไม่ใช่ที่ “เพื่อพระเจ้า”
 ถ้าเพียงแค่ เบี่ยง เบน
 ไป “เพื่อสวรรค์ เป็นรางวัล”
 เพื่อ “ของตอบแทน คนดี”
 ก็คงไม่ต่างกับเรื่องไปกินเลี้ยง และกินจนมูมมาม เมามาย
 “ความเชื่อเช่นนี้” ที่พระเยซูเจ้าพบในถ้อยคำที่ว่า “เราบอกท่านทั้งหลายว่าเรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอลเลย”
 เป็นความเชื่อ ที่มีแรงจูงใจดังคนของพระองค์ ทำเพื่อคน ไม่ใช่เพื่อสวรรค์บั้นปลายแค่นี้
 เป็นแรงจูงใจ ที่ทำเพื่ออยู่ให้ดี อยู่ดีๆ อยู่ตรงนี้เพื่อคนที่นี่ ไม่ใช่ เพื่อของข้างหน้า เหมือนทำดีเพื่อหวังตอบแทน ที่ไม่ใช่แรงจูงใจ แต่เป็นแรงจูงมา
 ดังนั้น ความเชื่อมากมายเช่นนี้ จะเกิดกับบุคคลที่ไม่ได้เชื่อ “ข้าวของตอบแทน รางวัลพัสถานใดๆ”

 

(Credit จาก Facebook คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์)

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก