“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2016
สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา 

ยรม 31: 1-7 / มธ 15: 21-28

บทอ่านจากพระวรสารตามคำเล่าของนักบุญมัทธิว

 เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จจากที่นั่น มุ่งไปเขตเมืองไทระ


และเมืองไซดอน ทันใดนั้น หญิงชาวคานาอันคนหนึ่งจากเขตแดนนี้ ร้องว่า “โอรสกษัตริย์ดาวิดเจ้าข้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าด้วยเถิด บุตรสาวของข้าพเจ้าถูกปีศาจสิงต้องทรมานมาก”

แต่พระองค์มิได้ตรัสตอบประการใด บรรดาศิษย์จึงมาเข้าทูลพระองค์ว่า “โปรดประทานตามที่นางทูลขอเถิด เพราะนางร้องตะโกนตามหลังพวกเรามา”

 พระองค์ทรงตอบว่า “เราถูกส่งมาเพื่อแกะที่พลัดหลงไปของวงศ์วานอิสราเอลเท่านั้น” แต่นางเข้ามากราบพระองค์ทูลว่า “พระเจ้าข้า โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด”
 พระองค์ทรงตอบว่า “ไม่สมควรที่จะเอาอาหารปังของลูกมาโยนให้ลูกสุนัขกิน” นางทูลว่า “ถูกแล้วพระเจ้าข้า แต่ลูกสุนัขก็ยังได้กินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของนาย”
 พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับนางว่า “หญิงเอ๋ย ความเชื่อของเจ้ายิ่งใหญ่ จงเป็นไปตามที่เจ้าปรารถนาเถิด” และบุตรหญิงของนางก็หายเป็นปรกติตั้งแต่บัดนั้น

 (พระวาจาของพระเจ้า)

————

 ดูเหมือนว่า “เราต้องการคำปลอบใจ” เวลาที่เราตกทุกข์ได้ยาก
 เราต้องการคนอยู่ข้างเวลาที่เราพบว่ามีบางคนแยกตัวออกไปจากฝ่ายเรา
 แต่สำหรับ “พระเจ้า” พระองค์ไม่ได้แสดง “ท่าที” แค่นั้น
 แต่ความเมตตา ความรัก ของพระเจ้า ไม่ได้ใช้ “การเข้าข้าง” หรือ “หันเป็นพรรคพวก” แบบไม่ลืมหูลืมตา
 แต่ ให้ความทุกข์ยาก นวดชีวิตให้นิ่ม ให้เราผ่าน เผชิญ โดยไม่ถอยหนี หรือ ไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่ต้องการให้ “ความทุกข์ยาก” นั้น “เพาะบ่ม” บุคคล หัวจิตหัวใจ ที่ยื่นมือมา ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เป็นคนที่ช่วย ไม่ใช่พวกที่ยื่นมือผลประโยชน์
 ดังนั้น “ความทุกข์” คัดกรอง ความจริงใจ การมองด้วยตาฝ่ายจิตที่กระจ่างกว่าเดิม ทำให้เรา “พบสาระความจริง” ไม่ใช่ “เปลือกปอกคำหวานล่อหลอก” ดังประสบการณ์ของชาวอิสราเอลในประกาศกเยเรมีย์ ที่บอกกับชาวอิสราเอลว่า “เรารักท่านด้วยความรักนิรันดร ดังนั้นเราจึงมีความรักมั่นคงต่อท่านตลอดไป อิสราเอลพรหมจารีเอ๋ย เราจะสร้างท่านอีก และท่านจะถูกสร้างขึ้นใหม่ ท่านจะแต่งตัวงดงามถือรำมะนาอีก ออกไปเต้นรำกับผู้ที่ฉลองยินดี ท่านจะปลูกสวนองุ่นบนภูเขาของสะมาเรียอีก ผู้ปลูกจะปลูก และเก็บผลผลิต”
 ความจอมปลอมของความรัก ก็คือ “คำหวาน” ความหลอกลวงของความเมตตา ก็คือ “ผลประโยชน์” เราจะไม่พบคำหวานและผลประโยชน์ในความทุกข์ยากที่เราผ่านมา ที่เราบากบั่นฝ่าฟันได้

 แม้ว่า “เราจะรู้สึกได้ว่า เราเป็นดัง “ลูกสุนัข” ที่ต้องนั่งรอ ตั้งคอ รอความเมตตา แต่คำตอบของชีวิตฝ่ายจิต ที่ตอบหลังจากได้ผ่านทุกข์ยาก ได้พบความรักแท้ ความเมตตาที่จริง ก็คือคำว่า “ความเชื่อของเจ้ายิ่งใหญ่ จงเป็นไปตามที่เจ้าปรารถนาเถิด”  คำนี้มีความหมายกว่าของตอบแทนตามใจ การให้แบบจำใจ ที่ไม่ใช่ความหมายของความรัก ความเมตตา

 

(Credit จาก Facebook คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์)

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก